โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ตำรวจนำ “เสี่ยเอ” ชิงเพชร 10 ล้านทำแผนประกอบคำรับสารภาพ

Manager Online

อัพเดต 15 ธ.ค. 2561 เวลา 05.45 น. • เผยแพร่ 15 ธ.ค. 2561 เวลา 05.45 น. • MGR Online

MGR online - รอง ผบ.ตร. นำ “เสี่ยเอ” ผู้ต้องหาชิงเพชร 10 ล้าน ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เผยเป็นเป็นเจ้าของร้านอัญมณีเมืองจันท์มีฐานะร่ำรวย แต่ติดการพนันจนาเจ๊ง ก่อนวางแผยเช่าตึกย่านสี่พระยา เพื่อรอเหยื่อเชิดเพชร

จากกรณีคนร้ายเป็นชาย 2 คน วิ่งราวเพชร 10 กะรัต มูลค่า 10 ล้านบาท ของนายวีกี้ ไวบัส อายุ 44 ปี นายหน้าค้าเพชรชาวอินเดีย ที่อาคารพาณิชย์เลขที่ 426/2-3 ซอยสองพระ ถนนสี่พระยา แขวงมหาพฤฒาราม เขตบางรัก กทม. ซึ่งคนร้ายได้ออกอุบายนำเพชรไปส่องกับแสงแดดหน้าร้าน ก่อนจะวิ่งไปขึ้นจักรยานยนต์ที่มีเพื่อนของคนร้ายรออยู่หลบหนีไปเหตุเกิดเมื่อวันที่ 11 ธ.ค. ที่ผ่านมา

ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (15 ธ.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่สน.บางรัก พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต.พัฒนา เพศยนาวิน ผบก.น.6 พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ดวงโชติ สุวรรณจรัส ผกก.สน.บางรัก พ.ต.ท.พงศ์นรินทร์ เหล่าเขตกิจ รอง ผกก.สส.สน.บางรัก และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.บางรัก ร่วมกันแถลงผลการจับกุมตัวนายภิพัศพงษ์พัศฐ์ สุขสวัสดิ์พิพัฒน์ อายุ 59 ปี ผู้ต้องหาหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ เลขที่จ.778/2561 ลงวันที่ 13 ธ.ค. 2561 ข้อหาร่วมกันวิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุมอย่างละเอียด โดยสามารถจับกุมได้ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองไทย-กัมพูชา จ.จันทบุรี เมื่อวานที่ผ่านมา (14 ธ.ค.)

สำหรับพฤติการณ์การก่อเหตุครั้งนี้ ผู้ต้องหา เลือกก่อเหตุ เพราะมีความรู้ด้านอัญมณีและค้าขายเพชรมานาน แต่ก่อนเป็นเจ้าของกิจการค้าขายอัญมณี ที่จ.จันทบุรี จนมีฐานะร่ำรวย ได้รับฉายาในวงการค้าเพชรว่า ‘เสี่ยเอ’ แต่ภายหลังติดการพนันอย่างหนัก และประสบปัญหาทางธุรกิจจึงปิดกิจการ และมีเงินติดตัว 40,000 บาท จึงเลือกวางแผนก่อเหตุโดยนำเงิน 10,000 บาท มาเช่าร้านที่เกิดเหตุ อีก 20,000 บาท มาติดตั้งระบบประตูล็อกอัติโนมัติ โดยเป็นวางแผนเองทั้งหมด

ทั้งนี้ได้ว่าจ้าง คนเข็นผักที่จ.จันทบุรี (ชาวกัมพูชา) มาทำหน้าที่ขับจักรยานยนต์พาหลบหนี และค่อยบอกทาง หลังก่อเหตุได้หลบหนีไปแถววัดดวงแข และแยกย้ายกัน โดยผู้ต้องหาได้นำเพชรไปขายให้กับชาวต่างชาติคนหนึ่งในราคา 500,000 บาท ที่ชายแดน และนำเงินมาจ่ายเป็นค่าจ้าง คนพาหลบหนี 100,000 บาท ที่เหลืออีก 400,000 บาท จะนำไปเล่นการพนันในบ่อนต่างประเทศ

ทันทีที่ถูกตำรวจจับกุม ผู้ต้องหาพูดว่า จบเกมแล้ว เกมก็คือเกม ซึ่งผู้ต้องหาถือเป็นคนที่ฉลาดวางแผนเป็นอย่างดี และมีซิมโทรศัพท์มือถือจำนวนมาก ไว้ใช้ติดต่อกับทีมงาน และรู้ว่าตำรวจจะไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด เส้นทางหลบหนี จึงพยายามเปลี่ยนรถ ตั้งแต่รถหลบหนีเป็นจักรยานยนต์ขึ้นแท็กซี่ และไปขับรถวอลโว่ของตัวเองที่จอดทิ้งไว้ในพื้นที่จ.ปทุมธานี ก่อนจะหลบหนีไปจ.จันทบุรี และถูกจับกุมในที่สุด

อย่างไรก็ตามภายหลังการแถลงข่าวเสร็จสิ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องหา ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่จุดเกิดเหตุบริเวณอาคารพาณิชย์เลขที่ 426 / 2-3 ซอยสองพระ ริมถนนสี่พระยา ก่อนควบคุมตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0