ตำรวจคู่กรณี หนิง ปณิตา เปิดใจแจงใช้เวลาแค่ 5 นาที ไม่รู้ยี่ห้อจริงๆ ไม่โกรธใคร
จากกรณีนักแสดงชื่อดัง หนิง ปณิตา ธรรมวัฒนะ โพสต์ภาพและข้อความ ต่อว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร หลังถูกตำรวจจับ แต่เจอพฤติกรรมที่อ้างว่า เจ้าหน้าที่อยากจะเรียกรับเงินจากตัวเอง โดยไม่ออกใบสั่ง พร้อมแคปชั่นยาวฉะเดือดถึงการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งภายหลังพบว่าจากการตรวจสอบทะเบียนพบว่ามีการสมทะเบียน และกำลังมีการตรวจสอบที่มาของรถว่า นำเข้าถูกต้องหรือไม่นั้น
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 22 ต.ค. ที่ สน.วิภาวดี ส.ต.ท.ธีรพงษ์ ขาบจันทึก ผบ.หมู่งานศูนย์ควบคุมจราจรวิภาดีฯ- รังสิต กก.2 บก.จร. เปิดใจกับสื่อมวลชน หลังจากเกิดเหตุการณ์วิพากษ์ต่างๆมากมาย ว่า วานนี้ ช่วงเกิดเหตุเป็นช่วงเวลาเร่งด่วน ตนเห็นรถคันดังกล่าวขับเลี้ยวเข้ามาผิดเลนแล้วกำลังจะหักออก จึงเรียกรถไว้
เหตุการ์มันเกิดขึ้นไม่ถึง 5 นาที เราคุยกับเขา 2-3 คำ ถามว่าจะไปไหน บอกว่าไปเซ็นทรัล เราจึงขอดูใบขับขี่ แต่เขายื่นบัตรประชาชนมาให้เรา แล้วบอกว่าเขียนใบสั่งเลย เราก็เขียนไป ซึ่งเขียนจากล่าง ขึ้น บน มาหยุดอยู่ที่ยี่ห้อของรถ เพราะจะเอายี่ห้อเป็นที่สุดท้าย เนื่องจากเราไม่รู้จัก เราก็เดินมองดูรอบรถ เห็นด้านหลังเป็นตัวภาษาอังกฤษเป็นตัวเขียนอีก
เลยเดินมาดูที่พวกมาลัยว่าเป็นยี่ห้ออะไร เราเลยถามเขา เขาบอกว่า เป็นยี่ห้อรถมาเซราติ แต่ตนก็ไม่รู้ว่าสะกดยังไง ก็เลยเดินวนไปดูที่แผ่นป้ายภาษี แล้วเราก็เขียนตาม ตอนนั้นป้ายภาษีเลขทะเบียนตรงกัน แต่ว่าป้ายภาษีมันหมดอายุตั้งแต่ต้นปี และพอเขียนใบสั่งเสร็จแล้ว เราก็จะมาคีย์ใบสั่งเข้าระบบในมือถือด้วยตนเอง มันขึ้นมาเป็นรถของ BMW
ส.ต.ท.ธีรพงษ์ กล่าวอีกว่า ในตอนที่เกิดเรื่องเราไม่ทราบเลยว่ากำลังคุยกับคุณหนิง เพราะว่าเขาเปิดประจกมาแล้วนั่งอยู่ในรถตลอด และเหตุการณ์มันเกิดขึ้นไม่ถึง 5 นาที คุณหนิงพูดกับเราสุภาพ ไม่ได้มีอารมณ์หงุดหงิด ทั้งนี้ ตั้งแต่เกิดเรื่องเราไม่ได้รับสายจากคุณหนิงหรือว่าครอบครัวเลย
“หากถามว่าอยากได้รับคำขอโทษหรือไม่นั้น ไม่เป็นไร ผมไม่โกรธเลย ให้อภัยทุกคน ตนไม่ได้ติดใจอะไร ยืนยันว่าที่เดินวนรถนั้น ไม่ต้องการเงิน ไม่มีใครจะเอาเงินเลย เราไม่รู้ยี่ห้อจริงๆ เพราะถ้าสมมติผมกรอกผิด นั่นก็อาจจะทำให้กลายเป็นรถของคนอื่นได้ ส่งผลให้คนอื่นเดือดร้อนได้”
“ไม่อยากให้ไปว่าคุณหนิงมากเท่าไหร่ เพราะในตอนนั้นอาจจะเกิดความเข้าใจผิดกัน คุณหนิงอาจจะไม่รู้ในช่วงเวลานั้น และที่ผ่านมาเขาอาจจะเคยเจอเหตุการณ์แบบที่เขาคิดก็ได้ ผมไม่โกรธเลย เพราะเราไม่ได้จะเอาเงินเขา เป็นตำรวจก็ต้องอดทนต่อความเจ็บใจ ไม่หวั่นไหวต่อความยากลำบาก “ ส.ต.ท.ธีรพงษ์ กล่าว
