โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

ตายแล้วไปไหน..เตรียมตัว “ตาย” แบบไม่ต้องมีห่วง

LINE TODAY

เผยแพร่ 02 ก.พ. 2561 เวลา 10.55 น. • Pimpayod

เรื่องที่แน่นอนที่สุดในชีวิตคนเราก็คือ “ทุกคนเกิดมาต้องตาย” ไม่มีใครหลีกหนีสัจธรรมข้อนี้ได้พ้น แต่จะมีสักกี่คนที่กล้าและพร้อมเผชิญหน้ากับความตาย 

ทุกคนมักคิดว่า “ความตายเป็นเรื่องไกลตัว ยังอีกนานกว่าจะตายกันไปข้าง” แต่จริง ๆ แล้วความตายติดตามไปทุกที่ ไม่มีใครเลือกได้ว่าจะตายตอนไหน ตายอย่างไร เพราะฉะนั้นคงไม่แปลกที่เราจะเตรียมตัวตายเพื่อจะได้ไม่ต้องมีห่วงกังวลกับอะไรก็ตามที่อยู่ข้างหลัง

จะเตรียมตัวตายได้อย่างไร

ความตายเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องเผชิญ จะหลีกเลี่ยงหรือหลบหนีไม่ได้เป็นอันขาด และจริงอยู่ที่คนเราไม่สามารถรู้ได้ว่าจะตายเมื่อไหร่ อย่างไร อาจตายแบบรู้ตัว ป่วยตาย หรืออยู่ดี ๆ ก็เกิดอุบัติเหตุตายไปแบบไม่รู้ตัวก็เป็นได้ โดยพระพุทธศาสนาสอนว่าถ้าเผชิญความตายด้วยใจสงบหรือวางจิตให้เป็นกุศลได้ จิตก็จะนำไปสู่สุคติ ซึ่งการเตรียมตัวที่จะตายนี่แหละ ที่จะทำให้เรากล้าเผชิญหน้ากับมัน

บางคนคิดว่าการเตรียมตัวตายเป็นการแช่ง เป็นเรื่องอัปมงคล แต่ถึงอย่างไรคนเราก็ต้องตาย และเพื่อให้คุ้นชินกับความตายที่จะเกิดขึ้นทั้งกับตัวเราเองและคนใกล้ชิด การนึกถึงความตายอยู่เนือง ๆ ก็เป็นการเตือนสติตัวเองได้ดีอย่างหนึ่ง ให้เราพร้อมที่จะรับมือกับความตายอย่างมีสติมากขึ้น

ตายแล้วไปไหน

ตามหลักพระพุทธศาสนา พระพุทธเจ้าได้กล่าวถึงความตายไว้ว่า “ความตายที่แท้จริงนั้นไม่มี การที่ร่างกายเสื่อมสลายหายไป เป็นเพียงการแตกสลายแยกกันไปของธาตุที่เคยรวมกันอยู่ เหลือเพียงดวงจิตของเราซึ่งจะท่องไปตามเหตุ ตามกรรม ในต่างวาระ นั่นก็คือการเวียนว่ายตายเกิด” 

ด้วยเหตุนี้ คนเราเมื่อตายแล้วก็ต้องไปตามกรรมของตน ทำกรรมดีก็ไปสู่ภพภูมิที่ดี ทำกรรมชั่วก็เวียนว่ายตายเกิดต่อไป และหากทำกรรมดีโดยปราศจากกิเลสทั้งปวง ก็นำไปสู่ “นิพพาน” หลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด ซึ่งถือเป็นความสุขอันแท้จริงยิ่งใหญ่และเป็นจุดหมายสูงสุดในทางพระพุทธศาสนา

เมื่อความตายไม่ไกลตัว

จริง ๆ แล้วสิ่งที่แน่นอนอย่างความตายไม่ใช่อะไรที่ไกลตัวเลย แต่กลับเป็นเรื่องที่เราต้องเตือนตัวเองตลอดเวลาว่าไม่มีใครหนีความตายพ้นและทุกคนต้องตาย เพื่อที่เราจะได้เตรียมตัวตายอย่างมีสติ

เตือนสติตัวเองให้รู้ว่าคนเราเกิดมาต้องตาย จริง ๆ แล้วนี่คือเรื่องปกติที่ทุกคนต้องรู้และเข้าใจ แต่น้อยคนที่จะคิดถึงเรื่องนี้ บางคนใช้ชีวิตอย่างประมาท เลื่อนลอย ไร้จุดหมายก็เพราะส่วนหนึ่งยังไม่คิดว่าตัวเองจะตายในเร็ววันนี้ ถึงแม้ความตายจะไม่เคยเลือกสถานที่และเวลา แต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่คิดว่าความตายเป็นเรื่องไกลตัว สุดท้ายพอใกล้ตายเข้าจริง ๆ ก็มีห่วง มีบ่วงทำให้จากไปอย่างไม่สงบ

สิ่งสำคัญคือต้องวางแผนว่าชีวิตจะจบลงอย่างไร “เมื่อเราไม่อยู่แล้ว คนข้างหลังจะอยู่อย่างไร” เป็นความห่วงอันดับต้น ๆ ของแทบทุกคน ซึ่งถ้านี่คือห่วงของคุณ ก็ต้องคลายห่วงต่าง ๆ เหล่านี้เสียก่อน ด้วยการลองคิดเล่น ๆ ว่าเราจะเตรียมอะไรไว้สำหรับลูกหลานและคนรอบตัวได้บ้าง เช่น พินัยกรรม วิธีการเข้าถึงทรัพย์สิน เอกสารต่าง ๆ ฯลฯ อย่าลืมว่าเมื่อคุณไม่อยู่แล้ว คนข้างหลังไม่มีวันรู้หรอกว่าคุณมีบัญชีลับไว้ที่ไหนบ้าง ทีนี้พอจัดการทุกอย่างเรียบร้อย จะจากไปเมื่อไหร่ ก็หมดห่วงแล้ว

จะใช้ชีวิตที่เหลืออย่างมีความสุขได้อย่างไร เมื่อเตรียมตัวที่จะตาย ก็แปลว่าเราได้ตระหนักแล้วว่าชีวิตนี้มันสั้นนัก และมีเวลาเหลืออีกไม่นาน ทำให้เราใช้ชีวิตในทุกวันอย่างรู้คุณค่า และมีสติในทุกย่างก้าว ไม่เสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์ไปกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง มีจุดโฟกัสที่ชัดเจนให้กับชีวิต จากนั้นก็จะรู้เองว่าจะใช้ชีวิตที่เหลืออย่างมีความสุขได้อย่างไร

ในที่สุดแล้วคนเราก็หนีความจริงไปไม่พ้น จะเตรียมหรือไม่เตรียม ทุกคนก็ต้องตาย เพราะฉะนั้นถ้าเลือกได้ก็เตรียมตัวเตรียมใจไว้ พร้อมรับความตายอย่างมีสติ ดีกว่าตายแบบตระหนก ทุรนทุราย พาลทำให้ชีวิตช่วงสุดท้ายเต็มไปด้วยความทุกข์ทรมาน..

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0