ตะกร้อคู่นักเรียนไทยสิ้นลาย พ่ายอินโดฯชวดอัดฉีด

การแข่งขันกีฬานักเรียนอาเซียน "อาเซียนสกูลเกมส์" ครั้งที่ 11 ที่เมืองเซมารัง ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 23 ก.ค.ที่ผ่านมา เซปักตะกร้อ ชิงชัยวันสุดท้าย โดย ขุนพลนักหวดลูกพลาสติกทีมนักเรียนไทย ที่ก่อนหน้านี้สอยไปแล้ว 1 ทอง จากทีมชุดชาย มีคิวลงเตะรอบชิงชนะเลิศ ในประเภทตะกร้อคู่ และทีมเดี่ยว ซึ่งก่อนแข่งขัน "ปลัดโหนก" วิทยา บุณยพัชรินทร์ ผู้จัดการทีมฯ ประกาศอัดฉีด ถ้านักกีฬากวาดเรียบทั้งหมด 3 เหรียญทอง จะมีเงินรางวัลให้ 5 หมื่นบาท 

เริ่มจาก ตะกร้อคู่ชาย รอบชิงชนะเลิศ ทีมนักเรียนไทย ดีกรีแชมป์เก่า 3 สมัยซ้อน ที่ประกอบด้วย พิษณุ พันธุ์ทองคำ จับคู่กับ จีรกันต์ อรุณรัตนกาญจน์ โดยมี วุฒินัน คำเสนาะ เป็นผู้เล่นสำรอง พบกับ "เจ้าภาพ" อินโดนีเซีย ปรากฎว่า นักเรียนไทย ฟาดทำแต้มสู้กับนักตะกร้อแดนอิเหนาอย่างสนุก ซึ่งเซตแรกเจ้าถิ่นชนะ 21-12 แต่มาเซตสอง นักเรียนไทย เอาชนะ 21-12 ส่วนเซตที่สาม เล่นกันอย่างสูสี นักเรียนไทย นำอยู่ 20-17 ฝั่งกองเชียร์อิเหนากดดันนักเรียนไทยอย่างหนัก จนนักเรียนไทยเล่นไม่เต็มความสามารถของตัวเอง จึงทำให้พลาดพ่ายอินโดนีเซียไปอย่างสูสี 24-22 นักเรียนไทยทำได้เพียงแค่เหรียญเงิน นับเป็นการพลาดแชมป์ครั้งแรกของนักเรียนไทย เพราะตะกร้อคู่ชายเริ่มจัดให้มีการแข่งขันมาตั้งแต่ "อาเซียนสกูลเกมส์" ครั้งที่ 7 ที่ จ.เชียงใหม่ ซึ่งไทยเป็นแชมป์มาตลอด 

ขณะที่ ทีมเดี่ยวชาย รอบชิงชนะเลิศ ทีมนักเรียนไทย เจ้าของแชมป์เก่าปีเมื่อที่แล้ว ที่มี พิชิตพงษ์ ใจกล้า ลงเสิร์ฟ, ณัฐพล จำรัสแนว ตัวชง และ ธีรเทพ ญาณศิริ เป็นตัวทำ โดยมี ธีรพล เส้งนนท์ และ ศุขวัตร ศรัทธารัตน์ เป็นผู้เล่นสำรอง พบกับ คู่ปรับตลอดกาล "เสือเหลือง" มาเลเซีย ปรากฎว่า นักเรียนไทย เตะเอาชนะคู่ปรับตลอดกาล 2-0 เซต 21-11, 21-17 คว้าแชมป์ไปครอง เป็นเหรียญทองที่สองปิดฉากตะกร้ออาเซียนสกูลเกมส์ในครั้งนี้

หลังแข่งขัน "ปลัดโหนก" วิทยา บุณยพัชรินทร์ ผู้จัดการทีมนักเรียนไทย กล่าวว่า ตนเองรู้สึกผิดหวัง เพราะตั้งใจทำทีมเรียกนักกีฬาเก็บตัวฝึกซ้อมก่อนการแข่งขันจะเริ่มเป็นเวลาเกือบหนึ่งเดือนเต็ม ที่ จ.สุพรรณบุรี แต่มาแข่งขันครั้งนี้ทำผลงานได้ไม่ตามเป้าที่เก็บไม่ได้ทั้งหมด 3 เหรียญทอง จนผลงานออกมาต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้ ทำให้คว้าได้เพียงแค่ 2 เหรียญทอง.