ราคาหุ้นของ GULF หรือ บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ยิ่งมีข่าวการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ (Tender Offer)ในหุ้นสามัญของบริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCHซึ่งส่งผลให้ GULF กลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดใน INTUCH โดยถือหุ้นในสัดส่วน 42.25% รองลงมา คือ Singtel ที่ 21% และ Temasek ที่ 5.2%ยิ่งเป็นปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนให้ราคาปรับเพิ่มขึ้นอีก
โดยราคาหุ้น GULF วันนี้ (9 ส.ค. 64) เปิดตลาดที่ระดับ 37.50บาท ก่อนจะปรับตัวขึ้นและปิดภาคเช้าที่ระดับ 38.25 บาท ซึ่งเปิดตลาดช่วงบ่ายราคายังเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับดังกล่าว อย่างไรก็ตาม หากราคาหุ้นของ GULF ยังปรับขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ราคาหุ้นมีโอกาสขึ้นไปแตะระดับสูงสุดตลอดกาลหลังการแตกพาร์ที่ราคา 39.94 บาท ในวันที่ 22 ม.ค. 2563 (โดยราคาสูงสุดดังกล่าวเป็นราคาที่ถูกปรับหลังการแตกพาร์ ที่มา :โปรแกรม setsmart)
ราคาเป้าหมาย คือ จุดสูงสุดตลอดกาล
นอกเหนือราคาหุ้นที่ต้องจับตาดูแล้ว การทำ Tender Offer ในหุ้น INTUCH ยังช่วยกระจายพอร์ตธุรกิจและมีโอกาสสร้างประโยชน์ร่วมกันในอนาคตด้วย โดยนักวิเคราะห์จากบล.กสิกรไทย ระบุว่า การลงทุนใน INTUCH จะช่วยขยายพอร์ตกิจการที่นอกเหนือโรงไฟฟ้า (non-power)ซึ่งกลุ่มธุรกิจนี้ของ GULF ปัจจุบันจะรวมถึงโครงการโครงสร้างพื้นฐาน (ท่าเรือ
มาบตาพุด 3 ท่าเรือขนย้ายตู้คอนเทนเนอร์แหลมฉบัง 3 แห่ง ทางพิเศษ M6 และ M81โครงการจำหน่ายไฟฟ้h One Bangkok) ธุรกิจจำพวกก๊าซ (โครงการจำหน่ายก๊าซธรรมชาติ GULF-WHA โครงการจำหน่ายก๊าซภาคอุตสาหกรรม PTT NGD ใบอนุญาตการนำ เข้า LNG) ทั้งนี้ สัดส่วนการถือครองหุ้นใน INTUCH ที่ 42.3% จะช่วยเพิ่มกำไรให้กับ GULF ในปี 2564-2566 ประมาณ 1.4 พันลบ., 3. 1 พันลบ. และ 3.6 พันลบ. ตามลำดับ หรือคิดเป็น 17-24%ต่อกำไรทั้งหมดของบริษัท
อีกทั้งจะช่วยให้ GULF เข้าถึงดิจิทัลแพล็ตฟอร์มและเทคโนโยลี 5G ซึ่งอาจสร้างประโยชน์ร่วมกันทางธุรกิจ (synergy ในอนาคตได้ เช่น กลายเป็นผู้จำหน่ายไฟฟ้าภาค B2C จากปัจจุบันที่ดำเนินในรูปแบบ B2B (ทั้งกลุ่มผู้ใช้ภาคอุตสาหกรรม
และ กฟผ.) จากที่อุตสาหกรรมการผลิตไฟฟ้ามีแนวโน้มที่กระจายตัวมากขึ้น บวกกับการผ่อนปรนกฎเกณฑ์ต่างๆ ในอุตสาหกรรมการผลิตไฟฟ้าของประเทศ นอกจากนี้ ในกรณีที่ GULF เพิ่มสัดส่วนการถือครองหุ้น INTUCH เกิน 50% ในอนาคตก็จะทำให้งบดุลของ GULF แข็งแกร่งขึ้นจากที่ INTUCH เป็นบริษัทที่มีสถานะเงินสดสุทธิ
ดังนั้น ฝ่ายวิเคราะห์จึงคงคำแนะนำ "ซื้อ" และปรับเพิ่มราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 42.75บาท จาก 42.25 บาท เพราะ GULF กำลังพัฒนาโครงการใหม่ๆเพื่อสร้างความมั่นคงต่อการเติบโตในระยะยาว
