โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

ชี้ “หุ้นยุโรป” เริ่มน่าสนใจหลัง ‘เศรษฐกิจฟื้น-คุม COVID-19 ได้ดี’...แนะมีติดพอร์ต 10 -20% !!!

Wealthy Thai

อัพเดต 09 ส.ค. 2566 เวลา 05.48 น. • เผยแพร่ 24 พ.ค. 2564 เวลา 15.55 น. • กฤษฎิ์ รัตนธีระธาดา

“ตลาดหุ้นยุโรป” ในช่วงที่ผ่านมาก็เป็นอีกหนึ่งตลาดที่นักลงทุนไม่น้อยได้มองข้ามหรือไม่ได้สนใจมากนัก ด้วยความน่าสนใจของตลาดเมื่อเทียบกับตลาดอื่นๆ นั้นยังดูด้อยกว่ามากกว่า
ด้วยอัตราการเติบโตเศรษฐกิจของยุโรปที่ดูดีไม่ดีนัก และปัญหาใหญ่อย่างการ Brexit หรือการออกจากสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) ของสหราชอาณาจักรยืดเยื้อ ที่ทำให้นักลงทุนต้องคิดหนักไม่น้อย
แต่ในช่วงที่ตลาดหุ้นใหญ่ๆ อย่าง “ตลาดหุ้นสหรัฐฯ” และ “ตลาดหุ้นจีน” ต้องเผชิญกับปัจจัยกดดันภายในประเทศได้ทำให้ตัวเลือกในการลงทุนถูกจำกัดให้น้อยลง
จึงทำให้การจะมองหาโอกาสการลงทุนในตลาดหุ้นอันดับต้นๆ นั้น “ตลาดหุ้นยุโรป” อาจจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมในตอนนี้ถือว่ามาในธีม Laggard ที่กำลังฟื้นตัวตามประเทศอื่นๆ แต่ด้วยปัจจัยกดดันข้างต้นจะทำให้นักลงทุนอย่างเรามองข้ามได้หรือไม่
ในวันนี้ทาง ‘Wealthy Thai’ จึงขอนำเสนอมุมมองการลงทุนดีๆ จากผู้เชี่ยวชาญในสายงานบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ถึงตลาดหุ้นยุโรปจะมีความน่าสนใจหรือควรให้น้ำหนักการลงทุนมากน้อยเพียงใด มาแชร์ให้แก่ผู้ที่สนใจและคนอ่านกันในครั้งนี้

“ตลาดหุ้นยุโรป”…แม้จะขึ้นมาน้อยแต่ควรมีติดพอร์ตไว้ 10-20%

โดยเริ่มที่ “คมสัน ผลานุสนธิ” กรรมการบริหาร ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการตลาดและผลิตภัณฑ์ บลจ. แอสเซท พลัส จำกัด ได้ให้มุมมองว่า ในปีนี้ “ตลาดหุ้นยุโรป” ถือเป็นอีกหนึ่งตลาดที่มีความน่าสนใจและแนะนำให้ลงทุนโดยมีติดพอร์ตไว้ราว 10.-20% เนื่องจากเป็นไม่กี่ตลาดที่ปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับตลาดสหรัฐฯและตลาดหุ้นจีนในช่วง 1-2 ปีที่ผ่าน

(คมสัน ผลานุสนธิ)

ตลาดไร้ปัจจัยลบ…มีแต่ปัจจัยหนุนอัพไซด์ให้ไปต่อ

ซึ่งแนวโน้มของตลาดก็ยังคงไปต่อได้ ด้วยปัจจัยสนับสนุนอย่างการไม่มีท่าทีที่จะลดการทำมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) หรือถูกตลาดกดดันหยุดการทำ QEแตกต่างจากสหรัฐฯ ที่เงินเฟ้อเริ่มขึ้นมาค่อนข้างสูงทำให้ “ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed)” โดนแรงกดดันจากตลาดให้หยุดทำ QE ขณะที่ยุโรปอัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับเป้าหมายตลาด จึงยังมีรูมที่จะใช้มาตรการ QE ออกมากระตุ้นได้ต่อเนื่อง

“ขณะเดียวกันปัจจัยด้านสถานการณ์ COVID-19 ยุโรป ตัวเลขผู้ติดเชื้อต่อวันในหลายของยุโรปเริ่มมีอัตราเพิ่มในสัดส่วนที่น้อยลง และปัจจุบันก็ได้เริ่มมีการฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนได้ค่อนข้างไว ซึ่งเป็นระดับที่เร็วกว่าตลาดคาดการณ์ จึงในสิ่งสะท้อนว่ายุโรปเริ่มคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ได้”
คาดการณ์ว่าโอกาสที่เศรษฐกิจของยุโรปจะฟื้นตัวกลับมาได้ไวขึ้น และในช่วงไตรมาส 3/64 ยังเม็ดเงินก้อนใหม่อย่าง EU Recovery Fund” ที่เป็นนโยบายการคลังเพิ่มเติม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อออกมากระตุ้นกำลังผู้บริโภคเพิ่มเติม จึงคาดว่าจะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้กับเศรษฐกิจและตลาดหุ้นเพิ่มเติมได้

“ยุโรป”…หลุมหลบภัยจาก ‘ตลาดหุ้นสหรัฐฯ’

นอกจากนี้ตลาดหุ้นยุโรปยังเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดี สำหรับนักลงทุนที่ต้องการจะหลบภัยหรือโยกเงินจากตลาดสหรัฐฯ เพื่อหนีปัจจัยการขึ้นภาษีของรัฐบาลสหรัฐฯเพื่อให้สอดกับนโยบายการคลัง 4.4 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งเป็นปัจจัยใหญ่ที่จะกดดันตลาดหุ้นในช่วงครึ่งปีหลัง

ระวัง “เศรษฐกิจยุโรป” ระยะยาว…ยังด้อยกว่า ‘สหรัฐฯ’ และ ‘ตลาดเกิดใหม่’

ขณะที่ “ดร.สมชัย อมรธรรม” ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน และลูกค้าสัมพันธ์ บลจ.กรุงไทย จำกัด (มหาชน) ได้ให้มุมมองว่า ภาพรวมเศรษฐกิจของยุโรปในระยะยาวยังคงดูด้อยกว่าเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และตลาดหุ้นเกิดใหม่ ด้วยปัญหาการรวมตัวด้านการคลัง ที่ยังไม่สามารถแก้ปัญหาให้ประเทศต่างๆ รวมตัวกันได้ จึงทำให้ภาพรวมของเศรษฐกิจไม่สามารถเติบโตได้ดีนัก

(ดร.สมชัย อมรธรรม)

แม้เศรษฐกิจไม่ดี…แต่ “หุ้นดียังมีอยู่” แค่คัดเลือกให้เป็น

แต่ในส่วนของ “ตลาดหุ้น” นั้นยังมีหุ้นบางตัวที่มีความน่าสนใจ เนื่องจากบริษัทจดทะเบียนส่วนใหญ่จะทำธุรกิจเกี่ยวกับนวัตกรรม โปรดักส์ทิวิตี้ และสินค้าแบรนด์เนมต่างๆ ค่อนข้างมีความโดดเด่น และด้วยการที่อยู่ในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วและมีขนาดของเศรษฐกิจค่อนข้างใหญ่ ทำให้กำลังซื้อของผู้บริโภคอยู่ในระดับค่อนข้างสูงจึงยังเห็นการเติบโตของกลุ่มดังกล่าวได้
จึงอยากจะแนะนำนักลงทุนที่สนใจหรือมองหาโอกาสการลงทุน “หุ้นยุโรป” มีกลุ่มหุ้นที่น่าสนใจอยู่ค่อนข้างเยอะ โดยให้คัดเลือกหุ้นขนาดเล็กและขนาดกลางอย่างกลุ่มนวัตกรรมที่กำลังเติบโต หรือหุ้นขนาดใหญ่ที่อิงตามธีมโกลบอล ส่วนน้ำหนักการลงทุนไม่ควรให้น้ำหนักเยอะจนเกินหรือราว 10-20% ของพอร์ตหุ้นต่างประเทศ
“ตลาดหุ้นยุโรป ถือเป็นตลาดที่ได้รับความสนใจจากผู้เชี่ยวชาญหลากสถาบัน ด้วยปัจจัยอย่างเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มจะฟื้นตัวกลับมาได้ไวกว่าตลาดคาดการณ์และการคุมสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัส COVID-19ที่เริ่มทำได้ค่อนข้างดี แต่การนำเงินลงทุนทั้งหมดลงทุนในตลาดยุโรปเพียงอย่างเดียวก็คงไม่ใช่คำตอบที่ดีนัก ควรจัดสรรเงินกระจายมาลงทุนเพียงบางส่วนหากสนใจเท่านั้น”

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0