สัดส่วนยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศจีนเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว เมื่อมีการเปิดเผยจาก China Passenger Car Association ระบุว่าในช่วงไตรมาสแรกของปี 2019 กวาดยอดขายไปแล้วกว่า 240,000 คันซึ่งเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วถึง 118% ขณะที่รถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในยอดขายลดลงถึง 13% แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มที่สดใสของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในจีน ที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเรื่องหลังจากที่มีการออกนโยบายผลักดันให้รถยนต์ไฟฟ้าแจ้งเกิดในตลาดจีนมาตั้งแต่กลางทศวรรษที่ 2010
จีน เป็นตลาดรถยนต์ที่มียอดขายต่อปีสูงที่สุดในโลกนั้น ถือเป็นผู้ที่สร้างเทรนด์และผลักดันให้รถยนต์พลังไฟฟ้าที่อาศัยกระแสไฟฟ้าจากแบตเตอรี่หรือ BEV-Battery Electric Vehicle มีการเติบโตและกำหนดนโยบายระยะยาวในการผลักดันให้สัดส่วนรถยนต์ที่แล่นบนท้องถนนเมืองจีนจะต้องเป็นรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงใหม่ๆหรือ NEV (New Energy Vehicles) ให้ได้ถึง 50% ภายในปี 2025 เพื่อลดปัญหาในเรื่องมลพิษและการพึ่งพาการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง
ในปีที่แล้ว ถือว่าเป็นปีทองของรถยนต์พลังไฟฟ้าในจีน เพราะมีการเปิดตัวทางเลือกใหม่ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง และทางภาครัฐเองก็มีการพัฒนาระบบสาธารณูปโภค เช่น แท่นชาร์จสาธารณะออกมารองรับกับการใช้งาน และทำให้ปีที่แล้วจีนมียอดขายรถยนต์ไฟฟ้ามากกว่า 1.1 ล้านคัน
สำหรับในปีนี้ ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีและมีแนวโน้มว่าปลายทางอาจจะมีตัวเลขเกินจากที่ตั้งเป้าเอาไว้จากเดิมอยู่ที่ 2 ล้านคันอย่างแน่นอน เพราะจากยอดขายในช่วงไตรมาสแรกของปี 2019 มีรถยนต์ไฟฟ้าถูกขายไปแล้วถึง 245,000 คัน หรือเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วถึง 118% แม้ว่าในด้านภาพรวมของยอดขายรถยนต์นั่งในจีนของไตรมาสแรกในปี 2019 จะลดลงจากช่วงเดียวกันของปี 2018 ก็ตาม
แบรนด์ BYD และ Geely ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์ในจีนถือเป็น 2 แบรนด์ที่กวาดยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในช่วงปีนี้ ขณะที่แบรนด์ต่างแดนที่มียอดขายดีคือ Tesla ซึ่งมีการเปิดเผยว่าในช่วงเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคมสามารถขายรถยนต์รุ่น Model 3 รวมกันได้ถึง 10,500 คันเลยทีเดียว
