เมื่อวันที่ 24 พ.ค.62 เวลา16.00 น. ที่ห้องประชุมฉัตรไพฑูรย์ สำนักงานกองบังคับการตำรวจภธรจังหวัดอุดรธานี พล.ต.ค.วรณัฏฐ์ ผันผ่อน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี (ผบก.ภ.จว.อุดรธานี) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน กองกำกับการสืบสวนภูธรจังหวัดอุดรธานี(กก.สส.ภ.จว.อุดรธานี) ศูย์ปราบปรามอาขญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมตัว นายปรีชา กิติโยธี อายุ 42 ปี ที่อยู่ 38/2 ม.1 ต.เขาคีรี อ.พรานกระต่าย จ.เพชรบูรณ์ ตามหมายจับศาลจังหวัดอุดรธานี จ.329/2561 ลงวันที่ 8 พฤศจิกายน 2561 ในข้อกล่าวหาว่า เป็นนายจ้าง ไม่จ่ายค่าจ้างให้กับลูกจ้าง ให้ถูกต้องตามกำหนดเวลา และไม่ปฏิบัติตามคำสั่งพนักงานตรวจแรงงาน
พล.ต.ต.วรณัฏฐ์ ผันผ่อน ผบก.ภ.จว.อุดรธานี เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวนั้นว่า ทาง กก.สส.ภ.จว.อุดรธานี ได้รับการประสานงานจาก สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดอุดรธานี ให้ดำเนินการตามกฎหมายกับ นายปรีชา กิติโยธี อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 38/2 ม.1 ต.เขาคีรี อ.พรานกระต่าย จ.เพชรบูรณ์ ในข้อหาว่า ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.คัมครองแรงงาน พ.ศ. 2541 มีความผิดตามมาตรา 70 เป็นนายจ้าง ไม่จ่ายค่าจ้างให้กับลูกจ้างตามกำหนดเวลา และ มาตรา 124 ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งพนักงานตรวจแรงงาน
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับเรื่องราวแล้วออกทำการสืบสวนหารวบรวมหลักฐานตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา พร้อมขออนุมัติออกหมายจับต่อศาลจังหวัดอุดรธานี ตามหมายจับเลขที่ จ.329/2561 ลงวันที่ 8 พฤศจิกายน 2561 ซึ่งจากการสืบสวนทราบว่า นายปรีชาฯจนทราบว่า นายปรีชาฯ ได้หลบหนีไปหลบซ่อนตัวอยู่ที่ อพาร์ทเม้นต์ ทองนาภา ต.มาบข่า อ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและเดินทางไปทำการสืบสวนติดตามจับกุมตัวนายปรีชาฯ กลับมาดำเนินการตามกฎฆมายและตามหมายจับที่ สภ.เมืองอุดรธานี จนเมื่อวันที่22 พฤษภาคม 2562 เวลาประมาณ 13.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้พบเห็นผู้ต้องหาตามหมายจับกำลังเดินอยู่ที่หน้าโครงการก่อสร้าง ในซอยเนินพะยอม ต.มาบตาพุด อ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง ซึ่งมีตำหนิรูปพรรณคล้ายกับนายปรีชาฯ ผู้ต้องหาคามหมายจับฯ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้เข้าแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อขอทำการตรวจสอบและตรวจค้นตัว ซึ่งจากการตรวจสอบ นายปรีชาฯ ยอมรับว่าเป็นบุคคลเดียวกันกับที่อยู่ในหมายศาล และเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบประวัติของ นาสยปรีชาฯ ยังได้หลักฐานเพิ่มเติมอีกว่า นายปรีชาฯผู้ต้องหาใหมาบจับ พ.ร.บ.เช๊คอีกหลายหมายจับ ซึ่งจากการสอบสวนเบื้องต้น นายปรีชาฯ ไม่ได้ที่จะหลบหนีแต่เนื่องจากปัญหาจากการติดขัดเรื่องเงิน จึงเดินทางไปการับเหมางานในภาคตะวันออกเพื่อที่จะหาเงินมาชดใช้เงินที่ค้างคนงาน แต่ก็มาถูกจับเสียก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในวันนี้(24 พ.ค.62) นายปรีชาฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับ ได้นำเงินจำนวน 92,415 บาท มาจ่ายให้กับคนงานกลุ่มดังกล่าวเป็นก้อนแรก และรับปากว่าจะทะยอยหาเงินจำนวนที่เหลือมาจ่ายให้คนงานผ่านทางตำรวจจนกว่าจะหมดครบตามจำนวน เรื่องเดิมมีอยู่ว่าเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2560 ได้มีกลุ่มคนงานรับจ้างโดยมี น.ส.ทองคำ สุกรรณ์ อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 707/12 ม.12 ต.โนนหัวช้าง อ.ท่าหลวง จ.หนองคาย เป็นตัวแทนกลุ่มคนงานฯ พร้อมกับพวก 21 คน ได้ยื่นคำร้องเรียนกับพนักงานตรวจแรงงาน สำนักงานสวัสดิการและคุ้ทครองแรงงานจังหวัดอุดรธานีว่า นายปรีชา กิติโยธี อายุ 42 ปี ที่อยู่ 38/2 ม.1 ต.เขาคึรี อ.พรานกระต่าย จ.เพชรบูรณ์ ได้รับกลุ่มผู้ร้องและพวกรวม 21 คน เข้าทำงานก่อสร้างอาคารเรียนของโรงเรียนอุดรพิชัยรักษ์ ต.หมากแข้ง อ.เมืองอุดรธานี กำหนดค่าจ้างรายวันๆละ 300-500 บาท กำหนดจะต้องจ่ายค่าจ้างแก่คนงานกลุ่มดังกล่าวทุกๆ 15 วัน ซึ่งกลุ่มลูกจ้างดังกล่าวได้ทำงานเรื่อยมาจนถุงวันที่ 12 กันยายน 2560 แต่ไม่ได้รับค่าแรงงาน(ค่าจ้าง) ลูกจ้างกลุ่มดังกล่าวจึงหยุดทำงานตั้งแต่วันที่ 20 กรกฏาคม-12 กันยายน 2562 ทั้งนี้เนื่องจาก นายปรีชาฯ นายจ้างไม่ๆด้จ่ายค่าแรงงานรวมเป็นเงินทั้งสิ้นจำนวน 123,221 บาท ซึ่งทางสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดอุดรธานี ได้รับราวร้องเรียนของคนงานกลุ่มทดังกล่าวเอาไว้ พร้อมกันได้มีหนังสือแจ้งให้ นายปรีชาฯ นายจ้างให้พบเพื่อให้ทำการชี้แจงข้อเท็จจริงในกรณีที่ลูกจ้างร้องเรียน แต่นายปรีชาฯ ไม่ได้นำพา เดินทางไปพบเจ้าพนักงานตรวจแรงงานตามหนังสือเรียกตัวแต่อย่างใด พนักงานตรวจแรงงาน สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดอุดรธานี จึงมีคำสั่งเมื่อวันที่ 11 มกราคม 2561 ให้ นายปรีชาฯจ่ายค่าจ้างที่ยังค้างกับลูกจ้างกลุ่มดังกล่าวจำนวน 123,221 บาท ให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน แต่นายปรีชาฯ ก็ไม่ได้ปฏิบัติตามคำสั่งของสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดอุดรธานี ทางสำนักงานสวัสดิการลัคุ้มครองแรงงานจังหวัดอุดรธานี จึงได้ทำหนังสือประสานงานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองอุดรธานี เพื่อให้ตำรวจดำเนินการตาม พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 ดังกล่าว ข่าวภูมิภาค ยงยุทธ ขาวโฏมล อุดรธานี
