พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. กล่าวถึงการหลอกลวงประชาชนให้ร่วมลงทุน หรือการขายสินค้า การทำทัวร์ โดยการใช้บุคคลที่มีชื่อเสียง สร้างความน่าเชื่อถือหรือในรูปแบบปากต่อปาก ทำให้เกิดความเสียหายในวงกว้าง และมีมูลค่าความเสียหายจำนวนมาก ว่า ในเรื่องนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้ดำเนินการตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งมีความห่วงใยในกรณีดังกล่าว โดยได้กำชับสั่งการให้กองบัญการทุกพื้นที่มีการปราบปรามอาชญากรรมที่กระทำความผิดและส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มบุคคลที่หลอกลวงประชาชนประเภทต่างๆ เป็นเหตุมีผู้หลงเชื่อและสูญเสียทรัพย์สินไปเป็นจำนวนมาก เช่น หลอกลวงลงทุน หลอกลวงให้ขายสินค้าจากผู้มีชื่อเสียง หลอกซื้อทัวร์เดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ, กลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์, การกระทำในลักษณะที่เข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน
โดยการกระทำความผิดที่พบอยู่บ่อยครั้งอาจเข้าข่ายในข้อหา ฉ้อโกงประชาชน และความผิดตามกฎหมายฟอกเงิน เป็นต้น มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000 – 200,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งทุกคดีที่ผู้เสียหายได้มาร้อง ยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผบ.ตร. ได้กำชับให้พนักงานสืบสวนสอบสวนที่เกี่ยวข้องดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐาน และดำเนินการตามขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรมในการยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อออกหมายจับ และออกสืบสวนติดตามจับกุมมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้ต่อไป