โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

ตรงนี้...ผีดุ ตอน วันนั้นเพื่อนฉันตาย

The Shock

เผยแพร่ 23 พ.ค. 2561 เวลา 08.24 น. • ป๋อง กพล ทองพลับ

"…โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน และอ่านไปในทิศทางของความบันเทิง…"

สวัสดีครับผม 'ป๋อง กพล ทองพลับ' เอง หรือ 'ป๋องผี' หรืออีกมากมายหลายชื่อสุดแท้แต่ใครจะเรียกผมว่าอย่างไร

มาว่าถึงตรงนี้ผมก็ลืมตัวคิดว่าจัดรายการทางวิทยุอยู่ เพราะนี่ถือเป็นงานชิ้นใหม่ที่ผมไม่เคยทำมาก่อน คือการร่วมงานกับ LINE TODAY ในการหยิบยกเรื่องราวสยองขวัญที่ผู้คนมากมายถ่ายทอดให้กับตัวตัวผมเอง รวมทั้งทีมงานฟังผ่านรายการวิทยุ The Shock

หลังจากนี้ LINE TODAY จะเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ผม จะเปลี่ยนจากเรื่องราวที่ได้ฟังมาเป็นรูปแบบตัวหนังสือ พร้อมกับพาทุกๆ ท่านไปประสบพบเจอกับเหตุการณ์ที่หาคำอธิบายไม่ได้ ผ่านคอลัมน์ที่มีชื่อเหมาะเหม็งว่า "ตรงนี้…ผีดุ"

ตรงนี้ผีดุ…ตอน วันนั้นเพื่อนฉันตาย

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ถูกถ่ายทอดโดยคุณเอ ปัจจุบันนี้คุณเออายุ 28 ปี เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นเมื่อตอนที่คุณเออยู่ปีสองของราชภัฏแห่งหนึ่งในเขตกรุงเทพมหานคร…

เริ่มต้นที่วันหนึ่งคุณเอได้กลับไปที่โรงเรียนมัธยม ซึ่งเป็นโรงเรียนเก่าของคุณเอเอง ตั้งอยู่ใจกลางเมือง คุณเอได้รับภารกิจไปดูแลรุ่นน้องที่จะต้องไปเข้าค่าย ณ อุทยานแห่งชาติแห่งหนึ่ง โรงเรียนของคุณเอนั้นเป็นโรงเรียนชายล้วน เวลานั่งรถไปที่นั่นก็จะนั่งรถทหารไปกัน โดยมักจะไปกิจกรรมเข้าค่ายที่นี่กันทุกๆ ปี ส่วนคุณเอก็ไปในนามอดีตประธานนักเรียน

พอไปถึงสถานที่แห่งนั้น เป็นวัดแห่งหนึ่งตั้งอยู่ในเขา วัดนี้สวยมาก จุดหนึ่งที่สังเกตเห็นคือไม่มีเตาเผาศพเลย และก็ไม่มีอุโบสถด้วย ทุกคนต่างก็ได้ทำกิจกรรมกันตามปกติ พอตกเย็นคุณเอก็ได้มีการเช็คกลุ่มของน้องๆ ทั้งหมด ซึ่งมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 7 ห้อง พอเช็คๆ ไป ปรากฏว่า น้องไม่ครบจึงเดินไปแจ้งกับอาจารย์ว่าห้อง 2 ขาดหายไปทั้งหมด 8 คน อาจารย์ก็ตกใจพอสมควร รีบไปถามเพื่อนๆ ของนักเรียนห้องนั้น ว่าเพื่อนหายไปไหน และเด็กกลุ่มที่หายไปนั้นก็มีแต่ตัวแสบๆ ทั้งนั้น

ในระหว่างที่คุณเอและอาจารย์กำลังตั้งเตรียมทีมออกค้นหา ก็มีเด็กคนหนึ่งชื่อว่า เบนซ์ เป็นหนี่งในกลุ่มเด็กที่หายไป รีบวิ่งเข้ามาเนื้อตัวเปียกปอน หน้าตาส่อถึงความเลิกลักตะโกนบอกอาจารย์ว่า…

“อาจารย์ครับไอ้ก้องมันจมน้ำ ไอ้ก้องจมน้ำครับ”

ทุกคนที่ได้ยินแบบนั้นตกใจกันมากส่วนตัวของคุณเอนั้นทำอะไรไม่ถูก เพราะว่าเวลาตอนนั้นก็สองทุ่มกว่าแล้ว ในป่าในเขาเงียบและก็มืดมาก เบนซ์รีบวิ่งนำไป ทุกคนก็รีบวิ่งตาม แต่ก็ไม่ทันครับ น้องก้องได้เสียชีวิตแล้ว…

ฝ่ายอาจารย์ไม่ว่าจะสอบถามอะไร เด็กพวกนั้นก็ไม่ยอมตอบอะไรนอกจากแค่ว่า ก้องชวนทุกคนไปเล่นน้ำที่สระหลังวัด แล้วก้องก็เป็นคนเริ่มกระโดดลงไปก่อน สักพักหนึ่งก็ตะโกนร้องบอกว่าเป็นตะคริว แล้วก็จมหายไปต่อหน้าต่อตาทุกคน เรื่องราวในวันนั้นก็ผ่านไปแบบเศร้าโศกมากมาย ทุกคนจึงหยุดกิจกรรมที่มีทั้งหมดลงแล้วก็กลับกรุงเทพฯโดยทันที

วันเวลาก็ล่วงผ่านไปอีกหนึ่งปี ส่วนกิจกรรมรับน้องม.ปลายทั้งหมดได้ยกเลิกกันไปแล้ว โดยที่ทางโรงเรียนให้จัดกิจกรรมที่โรงเรียนแทน แต่ว่าในวันเด็กทุกๆ ปี โรงเรียนจะพานักเรียนกลับไปที่วัดนั้นอีกครั้งเพื่อทำบุญ นำของไปบริจาคเด็กยากไร้ในชุมชนแถวนั้น และก็ไม่รู้ว่าเป็นความบังเอิญหรือว่าอะไรก็ตาม เด็ก 7 คนจากในกลุ่ม 8 คนที่เคยหายไปเมื่อปีที่แล้ว ก็ได้มารวมตัวทำกิจกรรมร่วมกันอีกครั้งหนึ่ง 

ในคืนแรกที่ไปถึงนั้นก็ประมาณหนึ่งทุ่มเศษๆ ทุกคนก็ได้จัดหาอาหารและเตรียมเต็นท์กิจกรรมให้เด็กๆ ที่จะมางานในวันถัดไป กว่าทุกอย่างจะเข้าที่เรียบร้อยก็ประมาณห้าทุ่มแล้ว ทุกคนก็แยกย้ายกันไปจัดที่นอนโดยที่ทุกคนจะนอนกันในศาลาวัด ศาลาแห่งนี้นั้นต้องขึ้นเขาไปอีกและทางก็มืดมาก พอทุกคนเดินขึ้นไปถึงศาลา แยกย้ายกันทำธุระส่วนตัวเสร็จ คุณเอในฐานะรุ่นพี่ที่คุมน้องๆ มา ก็เตรียมนับเช็คเด็กให้ครบก่อนที่จะเข้านอน แต่ว่าในระหว่างที่กำลับนับเด็กที่อยู่บนศาลาอยู่นั้น สายตาของคุณเอก็เหลือบไปมองเห็นเด็กผู้ชายคนหนึ่งเดินไปทางข้างหลังห้องน้ำ คุณเอก็เลยตะโกนเรียกว่า…

“น้องๆ ไปไหน ดึกๆ น่ะนอนได้แล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้มีงานต้องทำกันอีก”

แต่ว่าเด็กคนนั้นไม่ได้ให้ความสนใจต่อเสียงที่คุณเอตะโกนออกไปยังคงเดินมุ่งหน้าไปทางห้องน้ำ คุณเอก็เลยคิดในใจว่า น้องคนนี้มันต้องไปทำอะไรที่ไม่ดีแน่ๆ ก็เลยเดินลงจากศาลาตามเข้าไปดู แต่ปรากฏว่าหลังจากลงมาดูแล้วไม่เจอเงาใครสักคน ณ เวลานั้นคุณเอรู้สึกถึงคำว่าขนหัวลุกเป็นยังไง ก็เลยรีบวิ่งกลับขึ้นมาบนศาลา นับจำนวนเด็กใหม่ทั้งหมดก็ปรากฏว่าอยู่กันครบมีทั้งหมด 20 คน มีเด็กกลุ่มนั้น 7 คน และเพื่อนๆ อีก 13 คน คุณเอจึงตัดสินใจบอกให้ทุกคนรีบเข้านอนในทันที

วันรุ่งขึ้นทุกคนต่างก็ตั้งใจทำกิจกรรมกันเต็มที่ ทุกคนเหนื่อยมากกว่าจะเสร็จงานก็ตก 5 โมงเย็นเข้าไปแล้ว คุณเอจึงให้น้องๆ มานั่งล้อมวงคุยกันพร้อมกับนั่งพักก่อนจะทานอาหารเย็น มีการเล่นกีตาร์กันไปเพื่อผ่อนคลายด้วย ในระหว่างนั้นจู่ๆ ก็มีเสียงเพลงดังขึ้น เป็นเสียงเพลงที่เหมือนกับเปิดในงานสวดศพ เสียงเพลงนั้นถึงแม้จะเบาและก็แผ่วพอสมควร แต่ทุกคนที่นั่งล้อมวงกันอยู่ก็ได้ยินกันหมดเต็มสองรูหู คุณเอสังเกตไปที่น้องทั้ง 7 คนนั้นนั่งกันตัวสั่นงันงก คุณเอก็เลยพูดประมาณว่าอาจจะเป็นเสียงจากวัดอื่นๆ แถวนี้ก็ได้ วัดที่เราอยู่ไม่มีเตาเผาจะมีการสวดศพได้ยังไง อย่าคิดมากเลย แล้วคุณเอก็รีบพาน้องๆ ไปทานข้าว และเข้านอนเร็วกว่าทุกวัน

วันรุ่งขึ้นเป็นวันที่ทุกคนกำลังจะเตรียมตัวจะกลับบ้าน คุณเอก็เลยบอกให้น้องๆ มายืนรวมกันเพื่อที่จะถ่ายรูปหมู่เก็บเอาไว้ด้วย ในระหว่างที่คุณเอกำลังก้มหน้าก้มตาเตรียมกล้องอยู่นั้นก็ได้ยินเสียงน้องคนหนึ่งพูดขึ้นมาว่า

“ถ่ายรูปร่วมกันหมดเลยนะครับพี่”

คุณเอกำลังยุ่งๆ อยู่ก็เลยตอบตกลงแบบส่งๆ โดยที่ไม่ได้หันไปดูว่าน้องคนที่พูดคือใคร และในระหว่างที่คุณเอกำลังก้มหน้ากดชัตเตอร์อยู่นั้น คุณเอกดชัตเตอร์เกือบห้าครั้ง แต่ว่ากลับติดมาได้แค่ภาพเดียว แล้วภาพที่ติดมานั้นก็เบลอแค่บางจุดเท่านั้น นั่นก็คือเบลอตรงน้องๆ 7 คนเหมือนมีอะไรสักอย่างมาบัง ส่วนตัวของคุณเอนั้นรู้สึกไม่ค่อยจะดี ก็เลยให้หลวงพ่อที่วัดนั้นพรมน้ำมนต์ให้น้องๆ ทั้งหมด และเพื่อนๆก่อนจะกลับ

พอกลับมาถึงกรุงเทพฯคุณเอสังเกตหน้าตาของน้องเบนซ์ ดูไม่ค่อยจะแจ่มใส หมองเศร้า ดูดำๆ หน้าตาไม่ดีจริงๆ

คุณเอจึงถามขึ้นมาว่า “เฮ้ย เบนซ์ เป็นอะไรรึเปล่า”

แต่ว่าเบนซ์ไม่ตอบ มีแค่ยิ้มที่มุมปาก แล้วก็บอกกับคุณเอว่า

“ผมไปก่อนนะพี่” คุณเอก็เลยพูดว่า “เออ กลับกันดีๆ ล่ะ”

เวลาล่วงผ่านไปแค่ 1-2 วันเท่านั้น คุณเอได้รับโทรศัพท์จากอาจารย์ที่โรงเรียนเก่าถามว่าจะมางานน้องเบนซ์มั้ย คุณเอถึงกับงง ถามอาจารย์กลับไปว่า “เบนซ์ไหน งานอะไรครับ” อาจารย์ท่านก็ตอบกลับมาว่า “น้องเบนซ์ไงที่ไปค่ายด้วยกันกับพวกเรา ตายแล้วนะ รู้แค่ว่าจมน้ำตาย” คุณเอก็เลยรีบไปช่วยงานศพของน้องเบนซ์ พอไปถึงที่วัดก็ได้เจอกับเพื่อนอีก 6 คนที่เหลือที่เป็นเพื่อนสนิทกับน้องเบนซ์ คุณเอก็เลยถามขึ้นมาว่า ไอ้เบนซ์มันจมน้ำได้ยังไง เพื่อนในกลุ่มนั้นก็บอกแค่ว่า เบนซ์ได้ไปเล่นน้ำที่แม่น้ำเจ้าพระยาหลังบ้านนั่นแหละครับ แต่ว่าอยู่ดีๆ เบนซ์ก็จมน้ำหายไป ทั้งๆ ที่เบนซ์นั้นเป็นคนที่ว่ายน้ำเก่งมาก คุณเอก็เลยถามโน่นซักนี่ไปเรื่อย จนความจริงทั้งหมดก็ได้พรั่งพรูออกมาจากปากของเด็กทั้ง 6 คนว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อหนึ่งปีที่แล้ว…

ย้อนกลับไปเมื่อช่วงเวลาที่ก้องจมน้ำเสียชีวิตที่อุทยานแห่งชาติ วันที่ก้องเสียชีวิตนั้น สาเหตุก็มาจากเบนซ์นี่แหละครับ ก้องนั้นเป็นคนที่ว่ายน้ำไม่แข็งและไม่ได้เป็นคนชวนเพื่อนทุกคนไปว่ายน้ำด้วย เบนซ์ต่างหากที่เป็นคนชวน และพอไปถึงริมน้ำเบนซ์นี่ล่ะครับที่เป็นคนจับก้องโยนลงไปในน้ำเองเลย ตอนแรกก้องก็จมน้ำ เบนซ์ก็รีบโดดน้ำว่ายเข้าไปช่วย แต่ว่าก้องนั้นเป็นคนมีน้ำหนักมากและแรงเยอะ เบนซ์จึงไม่สามารถช่วยได้ ปล่อยให้จมน้ำหายไปต่อหน้าต่อตา และก็รีบวิ่งไปตามทุกคนมาช่วย 

ที่เบนซ์เสียชีวิตจากการจมน้ำครั้งนี้ อาจจะเป็นเพราะว่าก้องมาดึงเพื่อนไปอยู่ด้วยกันก็เป็นได้…

สำหรับท่านใดที่ชอบเรื่องราวสยองขวัญสามารถติดตามผลงานของพวกเรา The Shock ได้ที่ facebook.com/THESHOCK13 หรืออยากร่วมถ่ายทอดประสบการณ์ ก็สามารถส่งเรื่องราวเข้ามาได้ที่ shockfm@hotmail.com ครับ

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0