ด.ญ.14 กลับถึงบ้านอย่างปลอดภัยแล้ว หลังถูกหนุ่มใหญ่วัย 45 ปี พาหนีไปอยู่กทม.ตั้งแต่เดือนธ.ค.61 เผยหนุ่มใหญ่เห็นข่าวตัวเองโดนออกหมายจับ จึงกลัวเลยส่งด.ญ.ขึ้นรถกลับบ้าน ส่วนตัวเองยังหลบหนี
กรณีนางสำราญ ผู้เป็นยาย แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ลานสัก จ.อุทัยธานี ว่า นายมาโนช จงกศิริ อายุ 45 ปี ชาว จ.อุทัยธานี พาหลานสาววัย 14 ปี ซึ่งเป็นนักเรียนของโรงเรียนแห่งหนึ่ง ในต.ลานสัก หลบหนีไปกทม.ตั้งแต่เดือนธ.ค.ที่ผ่านมา จนตำรวจขอหมายศาลเลขที่ จ.5/2562 ที่ศาลจังหวัดอุทัยธานี อนุมัติหมายจับนายมาโนช แจ้งข้อหาฐานความผิด พาเด็กหญิงอายุไม่เกิน 15 ปี เพื่อการอนาจาร พรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี โดยเด็กนั้นยินยอม ตามที่เสนอข่าวไปนั้น
ด.ญ.14 / ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 22 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ศาลอนุมัติออกหมายจับ นายมาโนช จงกศิริ อายุ 45 ปี ซึ่งเป็นผู้ที่พาตัวด.ญ.อายุ 14 ปี ไป ทำให้นายมาโนชซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาทนแรงกดดันไม่ไหว จึงส่งตัวด.ญ.เอ ขึ้นรถแท็กซี่จากที่พักไปสถานีขนส่งหมอชิต 2 เพื่อขึ้นรถตู้ต่อกลับไปจังหวัดอุทัยธานี
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
โดยขณะนี้ด.ญ.เอกลับถึงบ้านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนตัวนายมาโนชนั้นกลัวความผิด จึงยังคงหลบหนีอยู่ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังเร่งติดตามตัวนายมาโนช มาดำเนินคดีอย่างเร่งด่วน ซึ่งจะประสานไปยังสภ.ท้องที่ ที่คาดว่านายมาโนชจะหลบหนีไปอีกทางหนึ่ง
ทั้งนี้ ช่วงเช้าวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปที่บ้านของด.ญ.เอในจ.อุทัยธานี พบว่าด.ญ.เอนั้นเดินทางถึงบ้านแล้วจริง โดยพบกับนางสำราญ รัฐมนตรี อายุ 62 ปี และนายปริม เทียมไย อายุ 73 ปี และด.ญ.เอ อยู่ที่บ้าน โดยใช้ชีวิตตามปกติ
ยายของด.ญ.เอ กล่าวว่า ดีใจที่หลานกลับมาอย่างปลอดภัย ส่วนการฟ้องร้องตนไม่มีปัญญา โดยจะปล่อยเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย และตนก็ยังกลัวว่าหลานตัวเองจะหนีไปอีก
ส่วนเรื่องเรียนหนังสือหรือไม่ ก็ตามใจหลาน จะเรียนก็ได้หรือไม่เรียนก็ได้ ส่วนเด็กบอกว่าที่ตนตัดสินใจเดินทางกลับ เนื่องจากนายมาโนชเห็นการนำเสนอข่าว การถูกออกหมายจับจึงจะขอหนี โดยส่งตัวหลานขึ้นรถแท็กซี่และไปขึ้นรถตู้โดยสารเดินทางกลับมาที่จ.อุทัยธานีดังกล่าว