โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ด.ญ.1ขวบ อมลูกบอล กลืนติดคอดับสลด ยายเศร้าหนัก โทษตัวเองที่เผลอหลับ

Khaosod

อัพเดต 19 ก.พ. 2562 เวลา 07.55 น. • เผยแพร่ 19 ก.พ. 2562 เวลา 07.55 น.
ลูกบอลติดคอดับ

ด.ญ.1ขวบ อมลูกบอล กลืนติดคอดับสลด ยายเศร้าหนัก โทษตัวเองที่เผลอหลับ

เมื่อวันที่ 19 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เด็กหญิงวัย 1 ขวบ เสียชีวิต เมื่อวันที่ 17 ก.พ. ที่ผ่านมา หลังเข้ารับการรักษา ที่ รพ.บ้านฉาง อ.บ้านฉาง จ.ระยอง เนื่องจากป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ แต่เสียชีวิตลงจากการกลืนลูกบอลไฟฟ้าของเล่น ลงไปติดคอและอุดหลอดลมจนเสียชีวิต

นายสุวรรณ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี พ่อของด.ญ.เอ (นามสมมติ) อายุ 1 ขวบ เผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. วันที่ 16 ก.พ. ที่ผ่านมา ก่อนเกิดเหตุ ด.ญ.เอ เข้ารักษาอาการป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ ที่ รพ.บ้านฉาง เป็นเวลา 2 สัปดาห์แล้ว โดยมีแม่ยาย อายุ 60 ปี เป็นยายแท้ๆเป็นคนมาเฝ้า

นายสุวรรณ กล่าวต่อว่า ช่วงเกิดเหตุยายได้เผลอหลับไป โดยนอนอยู่ข้างเตียง ซึ่งรอบข้างไม่มีผู้ป่วยคนอื่นเลย โดยไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุร้ายขึ้น กระทั่งพยาบาลมาตรวจอาการจึงพบว่าน้องแน่นิ่งไป พยาบาลจึงเรียกแพทย์เข้ามาตรวจอาการ และเปิดช่องปากเตรียมดูดเสมหะ เพราะคิดว่าเกิดเสมหะอุดหลอดลม แต่ปรากฎว่าพบกับลูกบอลไฟฟ้าของเล่นขนาดกว้างประมาณ 1.5 ซม. ติดอยู่ที่คอ

“แพทย์จึงรีบใช้คีมคีบเอาลูกบอลดังกล่าวออกมา แล้วรีบปั๊มหัวใจเพื่อช่วยเหลือทันที แต่สุดท้ายก็ไม่อาจยื้อชีวิตลูกสาวไว้ได้ และเสียชีวิตในวันที่ 17 ก.พ. สาเหตุคาดว่าน้องคงหยิบลูกบอลไฟฟ้าขนาดเท่ากับฝาขวดน้ำมาเล่นเองแล้วนำใส่ปาก เผลอกลืนลงไปจนติดคอและอุดหลอดลมจนเสียชีวิต” นายสุวรรณ กล่าว

แอดไลน์ข่าวสดไม่พลาดทุกข่าวสาร

เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน

นายสุวรรณ กล่าวต่อว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางครอบครัวเสียใจมากต่อการสูญเสียน้องไป โดยเฉพาะยายของน้องเครียดมาก โทษตัวเองว่าที่เผลอหลับไปจนเป็นเหตุให้หลานเสียชีวิต แต่ทางตนและภรรยาเข้าใจ พร้อมกับบอกยาย ว่าอย่าเครียดถือเสียว่าน้องคงมีบุญเพียงเท่านี้ ไม่มีใครอยากให้เกิด จึงไม่ควรจะโทษใคร

“อยากฝากเป็นอุทาหรณ์ให้ผู้ปกครองควรระวังเกี่ยวกับของเล่นบางประเภท ที่ไม่ควรให้เด็กเล่นตามลำพัง อาจจะเกิดเหตุร้ายขึ้นได้ จะได้ไม่เกิดการสูญเสีย” นายสุวรรณ กล่าว

ด้านแพทย์รักษา กล่าวว่า สำหรับกรณีที่เกิดขึ้นนับเป็นเหตุสุดวิสัยที่ไม่ทราบว่า น้องขาดอากาศหายใจไปนานเท่าไหร่ เพราะตอนที่พยาบาลมาพบ น้องก็แน่นิ่งไปแล้ว จึงพยายามปั๊มหัวใจเพื่อให้ชีพจรกลับมา แต่น้องก็ไม่ตอบสนอง

แพทย์ กล่าวต่อว่า ทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวน้องไปยัง รพ.ระยอง ที่มีเครื่องมือแพทย์ที่ครบพร้อม แต่ก็ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้ คาดคงจะเกิดจากการที่น้องขาดอากาศหายเป็นเวลานาน จากการสอบถามยายที่เฝ้าน้องอยู่ที่เผลอหลับไปประมาณ 30 นาที จึงอาจเป็นไปได้ว่าน้องอาจจะขาดอากาศหายใจไปเกินสิบนาที จึงยากที่จะช่วยชีวิตไว้ได้

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0