โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

คาด “Impact Fund”…จ่อเข้ามาเป็นทางเลือก ‘ด้าน ESG’ เพิ่มเติมในอนาคต !!!

Wealthy Thai

อัพเดต 10 ส.ค. 2566 เวลา 01.56 น. • เผยแพร่ 02 พ.ค. 2564 เวลา 06.48 น. • สรวิศ อิ่มบำรุง

ธีมการลงทุนแบบยั่งยืน(Sustainable Investing)” หนึ่งใน“Mega Trend” ของโลกที่ภาพชัดเจนยิ่งขึ้นหลังการขึ้นมาครองตำแหน่งประธานธิบดีสหรัฐคนที่46 ของโจไบเดน
แต่ภาพนี้แท้จริงมีมานานแล้วในโลกของการลงทุนโดยเฉพาะในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วซึ่งปัจจุบันได้ถาโถมเป็นกระแสหลักออกไปในกลุ่มนักลงทุนทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทยด้วยเช่นกัน
ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงรากฐานที่แข็งแกร่งที่สามารถก้าวขึ้นมายืนเป็นอีกหนึ่ง“Mega Trend” ในโลกการลงทุนได้อย่างเต็มตัว
วันนี้ทีมงาน‘Wealthythai’ มีสถิติและข้อมูลที่น่าสนใจในช่วงไตรมาสที่1/21 ที่ผ่านมาจาก“Morningstar” มาฝากกัน

กองทุนยั่งยืน ไตรมาสที่1/21 มีสินทรัพย์สุทธิ5.4 หมื่นล้านบาทเพิ่มขึ้น81% จากสิ้นปี20

จากข้อมูลของบจ.มอร์นิ่งสตาร์รีเสิรช(ประเทศไทย)” ระบุว่าการลงทุนอย่างยั่งยืน(Sustainable Investing)” มีการเติบโตอย่างชัดเจนในปีนี้โดยสิ้นไตรมาสที่1/21 มีมูลค่าทรัพย์สินรวม5.4 หมื่นล้านบาทเพิ่มขึ้น81% จากสิ้นปี2020 โดยในปีนี้มีกองทุนเปิดใหม่15 กองทุนรวมมูลค่าเกือบ8 พันล้านบาทโดยทั้งหมดเป็นการลงทุนต่างประเทศ ซึ่งรูปแบบการลงทุนนั้นมีส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปแบบ‘Feeder Fund’ ที่อาจเน้นธุรกิจพลังงานสะอาด, พลังงานหมุนเวียนหรืออาจเป็นกองทุนที่ให้ความสำคัญทั้ง3 ด้านของESG โดยรายชื่อกองทุนพร้อมกับชื่อกองทุนที่กองทุนไทยไปลงทุนดังนี้

“ในภาพรวมกองทุน‘Master Fund’ หลายกองทุนมีผลตอบแทนที่สูงมากเช่นBNP Paribas Energy Transition, iShares Global Clean Energy ETF, BGF Sustainable Energy ซึ่งมีผลตอบแทน1 ปีมากกว่า90% หรือผลตอบแทนมากกว่า20% ต่อปีในรอบ3 ปีโดยทั้ง3 กองทุนที่ได้กล่าวถึงมีการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจพลังงานเพื่อความยั่งยืนเช่นการพัฒนา/วางระบบพลังงานแสงอาทิตย์, เทคโนโลยีเซลล์เชื้อเพลิง, ธุรกิจไฟฟ้าพลังงานน้ำ/พลังงานลมเป็นต้น”

การลงทุนแบบยั่งยืน”…ยังแบ่งย่อยได้อีก-แต่นักลงทุนไทยอาจยังไม่คุ้นเคย

ทั้งนี้หากไปดูที่กองทุนจากทั่วโลกที่เน้นลงทุนด้าน“Renewable Energy” จะพบว่ามีผลตอบแทนเฉลี่ยที่สูงถึง107% หรือ17.6% ต่อปีในรอบ5 ปีทำให้การลงทุนประเภท“Environmental Sector Fund” มีผลตอบแทนเฉลี่ย1 ปีและ5 ปีที่80.1% และ14.4% ต่อปีตามลำดับ

“อย่างไรก็ดีนอกจาก‘กองทุนESG’ แล้วยังมีการลงทุนอย่างยั่งยืนอีกประเภทหนึ่งที่อาจยังไม่เป็นที่แพร่หลายนักในประเทศไทยคือการลงทุนที่สร้างผลกระทบเชิงบวก ในด้านต่างๆหรือ‘Impact Fund’ ซึ่งมีกองทุนลักษณะนี้ทั่วโลกกว่า1,700 กองทุนโดยการลงทุนจะคำนึงถึงประเด็นตัวอย่างเช่นความเท่าเทียมและความหลากหลายทางเพศ, Low Carbon/ fossil-fuel free, การพัฒนาชุมชน/สังคมหรือด้านอื่นๆที่อาจอ้างอิงมาจากU.N. Sustainable Development Goals (UNSDG) 17 ข้อมูลค่าทรัพย์สิน5.3 ล้านล้านบาทหรือมากกว่ามูลค่าทั้งอุตสาหกรรมกองทุนรวมไทยเสียอีกโดยในช่วงที่ปีที่ผ่านมากองทุนประเภทImpact Fund นี้มีผลตอบแทนเฉลี่ย1 ปีที่35.1% และ5 ปีที่7.6% ต่อปีตามลำดับ”

“Impact Fund” มีโอกาสที่บลจ.ต่างๆจะนำเสนอให้กับนักลงทุนไทยในอนาคต

ทาง“Morningstar” ยังกำหนดคุณลักษณะการลงทุนอย่างยั่งยืน(Sustainable Investment)” เป็น3 กลุ่มคือ1.ESG fund: ESG Incorporation
2.Impact Fund: Gender& Diversity, Low Carbon/Fossil-Fuel Free, Community Development, Environment, Other Impact Themes
3.Environmental Sector Fund: Renewable Energy, Water-Focused, General Environmental Sector
“สำหรับกองทุนESG ส่วนใหญ่ยังเป็นภาพรวมเป็นส่วนใหญ่แต่ในโลกการลงทุนเรายังแบ่งได้เป็นอีก3 ประเภทหลักซึ่งตรงนั้นก็มองว่าเป็นอีกโอกาสที่บลจ.ต่างๆจะนำเสนอกองทุนภายใต้แนวคิดESG ออกมาเป็นทางเลือกให้กับนักลงทุนไทยเพิ่มเติมโดยเฉพาะในกลุ่มImpact Fund ซึ่งจะเห็นว่าผลงานโดยภาพรวมของกองทุนESG ในต่างประเทศนั้นสามารถสร้างผลตอบแทนเฉลี่ยที่ดีได้จริงๆ”
ใครที่กำลังมองหาการลงทุนที่ได้ทั้งผลตอบแทน พร้อมกับได้ดูแลโลก ไปพร้อมๆกันแล้วเชื่อว่ากลุ่มกองทุนยั่งยืน จะตอบโจทย์คุณได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0