โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ด่วน! ผู้ว่าฯ กทม. ประกาศปิดทุกร้านค้า เที่ยงคืน-ตี5 มีผลคืนนี้ ทันที

Khaosod

อัพเดต 01 เม.ย. 2563 เวลา 08.05 น. • เผยแพร่ 01 เม.ย. 2563 เวลา 06.39 น.
เคอร์ฟิวร้านค้า
ผู้ว่าฯ กทม. ประกาศเคอร์ฟิวทุกร้านค้า

ผู้ว่า กทม. ประกาศ ปิดทุกร้านค้า เที่ยงคืน-ตี5 มีผลคืนนี้ ทันที

เมื่อวันที่ 1 เม.ย. ที่อาคารธานีนพรัตน์ ศาลาว่าการกทม. 2 ดินแดง พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม. กล่าวภายหลังเป็นประธานประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร เพื่อพิจารณาถึงมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19

ว่าได้เชิญคณะกรรมการทั้ง 26 คน มาหารือในรายละเอียด โดยที่ประชุมไม่เห็นด้วยในการอนุญาตให้เปิดร้านหรือศูนย์ให้บริการโทรศัพท์มือถือในเขตพื้นที่กรุงเทพฯเนื่องจากมองว่าจะกลายเป็นแหล่งแพร่เชื้อ ดังนั้นจึงมีมติไม่ให้เปิดศูนย์บริการและร้านซ่อมโทรศัพท์มือถือ

นอกจากนี้ยังมีมติให้ร้านค้าทุกร้านค้า ปิดทำการตั้งแต่เวลา 00:00 น. - 05:00 น. ของวันรุ่งขึ้น โดยจะมีผลบังคับตั้งแต่คืนนี้เป็นต้นไป

ส่วนเรื่องจะมีการออกประกาศเพิ่มเติมในข้อกำหนดต่างๆอย่างไรนั้น จะต้องรอการแถลงข่าวของ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 (โควิด-19) (ศบค.) ก่อน ในเวลา 13.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล

พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวต่อว่า ยืนยันว่ากทม.จะไม่ประกาศเคอร์ฟิว เพราะการประกาศเคอร์ฟิวไม่ใช่อำนาจของกทม. แต่เป็นอำนาจของ ศบค. ที่จะดำเนินการ ตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ซึ่งในตามต่างจังหวัดที่ประกาศออกมานั้น ไม่ได้เป็นการเคอร์ฟิว แต่เป็นการขอความร่วมมือให้ประชาชนไม่ออกจากบ้านหรือออกจากบ้านน้อยที่สุด

เพิ่มด่านตรวจทั่ว กทม.

นอกจากนี้ได้รับการประสานจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บชน.) ในการตั้งด่านตรวจคัดกรองทั่วพื้นที่กรุงเทพฯ แต่จะเพิ่มอีกกี่จุดนั้น บชน.จะเป็นให้รายละเอียดอีกครั้ง อย่างไรก็ตามกทม. ขอความร่วมมือประชาชนปฏิบัติตามประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง สั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราวอย่างเคร่งครัด

ลดการเดินทางไปยังสถานที่ที่มีการรวมตัวของประชาชน โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่มีโอกาสเป็นกลุ่มเสี่ยง ขอให้อยู่ที่บ้าน ส่วนกลุ่มที่น่าเป็นห่วงคือกลุ่มที่อยู่ในวัยทำงาน ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีเชื้อแล้วแสดงอาการน้อยมาก หรือไม่แสดงอาการเลย

ซึ่งนโยบายที่จะลดการทำงาน ให้ทำงานที่บ้าน หรือให้หยุดงาน อาจจะต้องเข้มข้นขึ้น เพื่อลดโอกาสที่กลุ่มคนดังกล่าวจะแพร่กระจายเชื้อโรคต่อ และหากมีความจำเป็นหรือสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น การเคลื่อนย้ายคน หรือการเคลื่อนย้ายในรูปแบบต่างๆ อาจจะต้องเข้มงวดมากขึ้นด้วยเช่นกัน

 

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0