ปกติเวลานั่งทำงานจะนั่งฟังเพลงไปด้วย พอดีเจอเพลงประกอบละครมงกุฎดอกส้มขึ้นพอดี ถ้าใครเคยดูน่าจะคุ้นๆกับท่อนนี้
"เคยแอบฝันจะเป็นเจ้าหญิงของใครสักคนมีดอกส้มมาร้อยเป็นมงกุฎดอกไม้ เฝ้ารอวันจะเจอรักแท้ สักวันจะเจอเจ้าชาย ฉันคงมีความสุข เหลือเกิน"
เคยมีใครสงสัยมั้ย…ทำไมต้องดอกส้ม? วันนี้เราจะมาเล่ากัน
ดอกส้มเป็นสัญลักษณ์สำคัญของงานแต่งงานในอดีต เริ่มมาจากตำนานกรีก-โรมันนู่นเลย ที่มีความเชื่อว่าว่า ไกอา มารดาแห่งโลกได้มอบดอกส้มให้เป็นของขวัญวันแต่งงานแก่เฮร่าราชินีแห่งสวรรค์ การแต่งงานและการครองเรือน กับ ซุส
ไม่เพียงแต่กรีกเท่านั้น ทางจีนเองก็มีความเชื่อในการนำดอกส้มมาใช้ประกอบพิธีกรรมแต่งงานเช่นกัน เนื่องจากมีการเชื่อมโยงถึงความอุดมสมบูรณ์เนื่องจากส้มเป็นผลไม้ที่สามารถออกดอกและผลได้พร้อมๆกัน ความรักที่ยืนยาวเพราะต้นส้มมีความเขียวชอุ่มตลอดปี ไม่โรยราตามฤดูกาล นอกจากนี้ยังมีความเชื่อว่าจะเสริมโชคลาภให้เจ้าสาวอีกด้วย
ความเชื่อเหล่านี้ส่งต่อมาถึงยุโรปเมื่อครั้งสงครามครูเสด และได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในยุควิคตอเรียน เมื่อพระราชินีวิคตอเรียแห่งอังกฤษอภิเษกสมรสด้วยการสวมมงกุฎดอกไม้ และมีของที่ระลึกเป็นกลีมส้มทองคำ ตัวดอกส้มทำด้วยกระเบื้องเคลือบสีขาว
ธรรมเนียมนี้เข้าสู่ราชสำนักสยามในช่วงสมัยรัชกาลที่ 6 เมื่อพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทำการอภิเษกอย่างตะวันตกกับพระสุจริตสุดา พระสนมเอก ในงานนั้นพระนางก็ใส่มงกุฎดอกส้มและถือช่อดอกส้มด้วยเช่นกัน
ติดตามบทความใหม่ ๆ จาก ละครสะท้อนอะไร ได้ทุกวันพฤหัสบดี บน LINE TODAY และหากสามารถอ่านบทความอื่นได้ที่เพจละครสะท้อนอะไร