เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ คุมตัวนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี พร้อมพวกรวม 4 คน ไปขออำนาจศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางฝากขังผัดแรก หลังจากเมื่อช่วงเช้านายชัยวัฒน์และพวก เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาในคดีการเสียชีวิตของนายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ แกนนำกะเหรี่ยงบ้านโป่ง-บางกลอย เจ้าหน้าที่ใช้เวลาในการสอบปากคำนานเกือบ4 ชั่วโมง นายชัยวัฒน์ และพวก มีสีหน้าเคร่งเครียด นายชัยวัฒน์ บอกเพียงสั้นๆว่าจะขอยื่นประกันตัวในชั้นศาล โดยจะใช้เอกสารรับรองจากกรมอุทยานฯ ยื่นเป็นหลักทรัพย์ประกันตัว และยังคงยืนยันถึงความบริสุทธิ์ว่าไม่ได้ทำ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าวด้วย
พ.ต.ท.ปกรณ์ สุชีวกุล รองอธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาและแจ้งพฤติการณ์ของทั้ง 4 คน เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และไม่ได้ใช้สิทธิขอปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นสอบสวน พนักงานสอบสวนจึงนำตัวไปขออำนาจศาลฝากขัง และจะคัดค้านการประกันตัว ส่วนจะยื่นประกันตัวในชั้นศาลหรือไม่ ขึ้นอยู่กับผู้ต้องหา
ส่วนที่นายชัยวัฒน์ ตั้งข้อสังเกตว่าข้อหาที่ถูกแจ้งเป็นคดีอาญาแต่เพราะเหตุใดศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางเป็นผู้ออกหมายจับ พ.ต.ท.ปกรณ์ ระบุว่า เนื่องจากเป็นการทุจริตในหน้าที่ราชการ ประพฤติโดยมิชอบ และขณะนี้ ยังไม่มีการออกหมายเรียกหรือหมายจับใครเพิ่มเติม จะต้องสอบปากคำพยานเพิ่มเติมให้ครบถ้วนก่อน และยังไม่ได้รับรายงานกรณีที่วันนี้ดีเอสไอเข้าตรวจค้น4-5จุดในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรีเพื่อหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม ยืนยันคดีนี้ดีเอสไอไม่ได้ตั้งธงหรือพุ่งเป้าไปที่ใคร ทุกอย่างเป็นไปตามพยานหลักฐาน
สำหรับคดีนี้นายชัยวัฒน์และพวกถูกแจ้ง 6 ข้อหา ประกอบด้วย ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน,ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นโดยใช้อาวุธ ,ร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยวเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย,ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้าย และมีอาวุธมาขู่เข็ญ,ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยใช้อาวุธ,ร่วมกันทุจริตอำพรางคดีโดยกระทำการแก่ศพให้ผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป
