โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

ดีเดย์15ก.ค.ชวนเที่ยวปันสุข ใครจ่ายเงินก่อนมีสิทธิก่อน

เดลินิวส์

อัพเดต 04 ก.ค. 2563 เวลา 03.51 น. • เผยแพร่ 03 ก.ค. 2563 เวลา 09.27 น. • Dailynews
ดีเดย์15ก.ค.ชวนเที่ยวปันสุข ใครจ่ายเงินก่อนมีสิทธิก่อน
ชวนคนไทยเที่ยวไทยดีเดย์โครงการเที่ยวปันสุข 15 ก.ค.นี้ ใครจ่ายเงินมีสิทธิก่อนชักช้าตกขบวน  คาดเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ 7 แสนล้านบาท

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ   รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา  เปิดเผยว่า มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว โครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมภาคการท่องเที่ยว “เที่ยวปันสุข” ประกอบด้วย แพ็กเกจ เราเที่ยวด้วยกัน กรอบวงเงิน 20,000  ล้านบาท และแพ็กเกจกำลังใจ กรอบวงเงิน  2,400  ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 22,400  ล้านบาท เริ่มตั้งแต่เดือนก.ค. – ต.ค.   

สำหรับแพ็กเกจเราเที่ยวด้วยกัน เป็นการฟื้นฟูภาคธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ โดยการสนับสนุนค่าที่พักและ ค่าบัตรโดยสารเครื่องบิน รัฐบาลจะสนับสนุนค่าที่พักในลักษณะร่วมจ่าย (Co-pay) ในอัตรา  40 % ของค่าที่พัก แต่ไม่เกิน 3,000  บาท ต่อห้องต่อคืน ในการเข้าพักในโรงแรมที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรมและโฮมสเตย์ที่ได้ขึ้นทะเบียนตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 

นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวจะได้รับ E-Voucher คืนละ 600   บาท ใช้จ่ายเป็นค่าอาหารและค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวในลักษณะร่วมจ่ายเช่นกัน โดยจะเที่ยวจังหวัดไหนก็ได้ แต่ห้ามเที่ยวจังหวัดที่มีภูมิลำเนาอยู่ในทะเบียนบ้าน ซึ่งรัฐบาลจะสนับสนุนการใช้จ่ายในอัตรา 40% 

ส่วนสายการบิน รัฐบาลจะสนับสนุนค่าบัตรโดยสารเครื่องบินบางส่วนในลักษณะการจ่ายคืน (Redeem) สำหรับผู้จองที่พักที่เดินทางโดยสายการบิน โดยผู้จองที่พักจะต้องดำเนินการจองและชำระค่าบัตรโดยสารเครื่องบินเต็มจำนวนผ่านทางเว็บไซต์ของสายการบิน และรัฐบาลจะจ่ายเงินคืน 40%  ของค่าบัตรโดยสาร แต่ไม่เกิน 1,000  บาทต่อที่นั่ง เข้าสู่แอปพลิเคชั่นเป๋าตังของผู้จองที่พัก ภายหลังการเช็คเอาท์ สามารถนำไปใช้จ่ายหรือถอนเงินสดได้โดยไม่มีการกำหนดระยะเวลา

ขณะที่แพ็กเกจกำลังใจ เป็นการขอบคุณ อสม.,อสส., และ รพ.สต. ซึ่งเป็นผู้ที่เสียสละในการทำงานอย่างหนักและเป็นผู้ที่มีส่วนช่วยให้ประเทศไทยสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้ โดยสนับสนุนค่าใช้จ่ายเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไม่เกินคนละ 2,000  บาท สำหรับการเดินทาง 2 วัน 1 คืน โดยทั้งสองแพ็กเกจสามารถใช้สิทธิ์ผ่านเว็บไซต์ www.เที่ยวปันสุข.ไทย และ www.เราเที่ยวด้วยกัน.com  

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)  กล่าวว่า www.เราเที่ยวด้วยกัน.com  ผู้ประกอบการโรงแรม ที่พัก สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการได้ตั้งแต่วันนี้ สำหรับประชาชนทั่วไปจะเปิดให้ลงทะเบียนใน วันที่  15 ก.ค. โดยไม่จำกัดสิทธิ แต่ต้องรีบไปจองห้องพัก เพื่อได้รับสิทธิ์ไปเที่ยวครั้งนี้ หากไม่จ่ายตังก์ก็ยังไม่ได้สิทธิ  ซึ่งห้องพักมีทั้งหมด 5 ล้านห้อง ส่วนตั๋วเครื่องบินมีจำนวน 2 ล้านใบ ใครลงทะเบียนก่อนได้รับสิทธิ์ก่อน  แต่ผู้เดินทางต้องจ่ายเงินเต็มจำนวนไปก่อนและขอคืนส่วนต่างในภายหลัง 40%  แต่ถ้าครบ 2 ล้านใบแล้วก็ไม่สามารถขอเงินคืนได้  โดยจองห้องพัก 1 ห้องซื้อตั๋วโดยสารได้ 2 ใบ

ส่วนแพ็กเกจกำลังใจ จะเปิดให้ผู้ประกอบการนำเที่ยวลงทะเบียนผ่าน  www.เที่ยวปันสุข.ไทย ในวันที่ 10 ก.ค. สำหรับ อสม.,อสส., และ รพ.สต. สามารถเข้าไปลงทะเบียนในวันที่ 25 ก.ค. และเดินทางท่องเที่ยวได้ในวันที่ 30 ก.ค. ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการบริโภคให้เติบโต และทำให้เกิดการจ้างงานในภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ได้แก่ ธุรกิจนำเที่ยว ธุรกิจโรงแรม  ธุรกิจร้านอาหาร และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องต่อไป

อย่างไรก็ตาม  โครงการดังกล่าวก่อให้เกิดเงินสะพัดต่อการท่องเที่ยวโดยตรง 50,000 ล้านบาท  ธุรกิจทางอ้อม 26,000 ล้านบาท นอกจากนี้สภาพัฒนาการสังคมเศรษฐแและสังคมแห่งชาติ(สศช.) ก่อให้เกิดเงินหมุนเวียนในระบบ 7 แสนล้านบาทในช่วง 4 เดือนข้างหน้า (ก.ค.-ต.ค.)

นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธนาคารพร้อมสนับสนุนมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศของรัฐบาล เพื่อช่วยเหลือเพิ่มสภาพคล่องแก่ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว ซึ่งเป็นภาคธุรกิจที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ทำให้เกิดรายได้หมุนเวียนลงไปในระดับฐานราก  ที่ผ่านมา ธนาคารร่วมดำเนินโครงการและกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศมาโดยตลอดเช่นกัน โดยในครั้งนี้ “เราเที่ยวด้วยกัน” และ “กำลังใจ” ธนาคารได้พัฒนาแพลตฟอร์มการลงทะเบียนและการชำระเงินแบบดิจิทัลผ่าน www.เราเที่ยวด้วยกัน.com เชื่อมโยงข้อมูลระหว่างประชาชนกับผู้ประกอบการเข้าไว้ด้วยกัน ไม่ยุ่งยากซับซ้อน เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชน

 

นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า  คุณสมบัติของประชาชนที่จะลงทะเบียนรับสิทธิ  ต้องเป็นบุคคลสัญชาติไทย มีอายุ 10 ปีขึ้น ณ วันที่ลงทะเบียน มีบัตรประชาชน และโทรศัพท์มือถือ สามารถลงทะเบียนรับสิทธิท่องเที่ยว ที่พัก และสิทธิประโยชน์อื่น ๆ โดยขอย้ำว่าต้องใช้สิทธิในจังหวัดที่ไม่ใช่ทะเบียนบ้านของตนเอง ซึ่งการลงทะเบียนขอแนะนำให้ประชาชนดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น เป๋าตัง มาเตรียมไว้ ซึ่งมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ เชื่อมั่นว่าจะช่วยเร่งการฟื้นฟูอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศให้กลับมาเติบโตได้อย่างยั่งยืนต่อไป

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0