ดีเดย์ขึ้นค่ารถเมล์!ปชช.บ่นอุบจ่ายเพิ่มแต่บริการยังแย่

วันนี้ ( 22 เม.ย. 62) การขึ้นอัตราค่าโดยสารรถเมล์ของขสมก. เริ่มวันนี้เป็นวันแรก จากการสำรวจพบว่าประชาชนบางรายระบุว่า ทุกวันจะใช้บริการรถโดยสารธารณะ ของ ขสมก. หรือรถเมล์ เพื่อไปทำงาน โดยมีค่าใช้จ่าย สำหรับใช้บริการรถเมล์ วันละ 20-30 บาท ซึ่งหลังจากวันนี้อาจมีค่าบริการเพิ่มขึ้นไม่เกินวันละ 40 บาท และถึงแม้จะมีการปรับขึ้นอัตราค่าโดยสาร การให้บริการรถเมล์ ของ ขสมก.ก็ไม่ได้รับผลกระทบ เพราะใช้บริการรถเมล์เพียงต่อเดียว แต่อยากให้ขสมก.ปรับปรุงการให้บริการของพนักงานประจำรถเมล์แต่ละสาย รวมถึงควรพิจารณาการเพิ่มเที่ยวรถหรือปริมาณรถเพื่อให้บริการประชาชนเพิ่ม เพราะ รถเมล์บางสายก็มีไม่เพียงพอ-ต้องรอนาน โดยเฉพาะชั่วโมงเร่งด่วน

ขณะที่บางคนบอกว่า แม้จะใช้บริการรถเมล์เพียงต่อเดียว แต่ก็ได้รับผลกระทบ เพราะใช้บริการรถเมล์แบบปรับอากาศ ซึ่งคิดค่าโดยสารตามระยะทาง จากปกติต่อวันต้องจ่ายค่าโดยสาร 30-40 บาท ต้องเพิ่มขึ้น 50-60 บาท และมองว่าหากเปลี่ยนไปใช้บริการโดยจ่ายรายสัปดาห์ หรือ รายเดือนแบบตั๋วล่วงหน้า ก็ไม่ช่วยลดค่าใช้จ่ายลงมาก

ขณะที่นายประยูร ช่วยแก้ว รักษาการผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ บอกว่า การขึ้นอัตราค่าโดยสาร รถสาธารณะ ต้องมีคำถามเรื่องคุณภาพการให้บริการ จากประชาชน ซึ่งทาง ขสมก.ได้เข้มงวดกับพนักงานเรื่องการให้บริการมาตลอด และได้กำชับให้บริการที่มีคุณภาพเพิ่มขึ้น ซึ่งการขึ้นอัตราค่าโดยสาร จะแบ่งเป็น 2 ช่วง คือช่วงแรกเริ่มปรับในวันนี้ หรือ วันที่ 22 เม.ย. ถึง 7เม.ย. 2563 ซึ่งจะยังปรับไม่เต็มเพดานหลังจากนั้นเมื่อครบ 1 ปีจึงจะปรับขึ้นส่วนที่เหลือ

สำหรับค่าโดยสารที่จะปรับเพิ่มขึ้นอยู่ในราคาตั้งแต่ 1 บาท ถึง 7 บาท ตามแต่ประเภทรถและระยะทาง โดยรถโดยสารธรรมดา สีครีมแดง ของ ขสมก. ปรับราคาจาก 6.50 บาท เป็น 8 บาทตลอดสาย รถโดยสารปรับอากาศสีครีมน้ำเงิน ปรับจาก 10-18 บาท เพิ่มเป็น 12-20 บาท ตามแต่ระยะทาง, ส่วน รถปรับอากาศยูโรทู ปรับจาก 11-23 บาท เพิ่มเป็น 13-25 บาท ตามแต่ระยะทางเช่นกัน

ส่วนรถปรับอากาศเชื้อเพลิง NGV (สีขาว) จากเดิม 11-23 บาท ตามระยะทาง เป็น 13-25 บาท ตามระยะทาง และรถโดยสารปรับอากาศรุ่นใหม่ (สีฟ้า)จากเดิม 11-23 บาท ตามระยะทาง เป็น 13-25 บาท ตามระยะทาง

ขสมก.ยืนยันว่าการปรับค่าโดยสารมีข้อดีเพราะเป็นการปรับขึ้นอัตราค่าโดยสารในราคาที่ต่างกัน ของทั้งรถที่ให้บริการรุ่นเดิมและรุ่นใหม่ ซึ่งจะเป็นการสร้างแรงจูงใจสำหรับบริษัทเอกชน รถร่วมขสมก. ที่ต้องการปรับขึ้นราคา ต้องจัดหารถที่มีคุณภาพมาให้บริการประชาชน เพราะหากเป็นรถใหม่จะเก็บค่าโดยสารเพิ่มได้ 15-25 บาท