โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

ดินแดนสุดหลอน ‘Freeman Ranch Body Farm’

Horrorism

อัพเดต 10 มี.ค. 2563 เวลา 00.00 น. • เผยแพร่ 10 มี.ค. 2563 เวลา 07.40 น. • Horrorism

 

       เชื่อได้ว่าใครหลาย ๆ คนคงจะเคยพาลูก ๆ หลาน ๆ ไปเที่ยว ‘ฟาร์ม’กันในช่วงวันหยุดของครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นฟาร์มแพะ ฟาร์มแกะ ฟาร์มวัว หรือฟาร์มอะไรก็ตามแต่ การเดินดูความน่ารักของบรรดาสัตว์น้อยใหญ่พร้อมกับกดชัตเตอร์ถ่ายภาพน่ารัก ๆ สักหน่อยก็จะสร้างความทรงจำแสนสุขให้คุณได้ไม่มากก็น้อย แต่ทว่าหากเป็นที่ ‘Freeman Ranch Body Farm’ คุณคงไม่กล้าแม้แต่จะลืมตาเป็นแน่!!!

 

ที่มาของภาพ : liekr

 

       นับเป็นฟาร์มที่แปลกและสยองสุด ๆ กับ Freeman Ranch Body Farm หรือ ‘ฟาร์มศพ’ ที่หากใครพบเห็นก็คงพูดไม่ต่างกันว่าฟาร์มแห่งนี้ช่างน่ากลัวเสียเหลือเกิน เพราะพื้นที่กว่า 40 ไร่ภายในฟาร์มแห่งนี้เต็มไปด้วยซากศพมนุษย์เกือบร้อยศพที่เรียงรายอยู่เต็มฟาร์ม ซึ่งบางศพก็มีสภาพเน่าเปื่อย บางศพก็แห้งจนเห็นกระดูก ทุกศพจะถูกวางเอาไว้เหมือนต้องการให้สลายตัวไปเองตามธรรมชาติ และบางศพจะมีกรงเหล็กที่ถูกทำขึ้นพิเศษคลุมศพเอาไว้เพื่อป้องกันไม่ให้นกจำพวกแร้งมากัดกินซากศพได้

 

ที่มาของภาพ : buzznick

 

       ที่น่าตกใจไปกว่านั้นคือ ฟาร์มศพสุดแปลกนี้มีอยู่มากมายหลายแห่งทั่วประเทศสหรัฐอเมริกา ทั้งที่มหาวิทยาลัย Tennessee, มหาวิทยาลัย Western Carolina, มหาวิทยาลัยรัฐ Texas, มหาวิทยาลัยรัฐ Sam Houston และมหาวิทยาลัย California นอกจากนี้ ยังมีข้อเสนอขอเปิดฟาร์มศพอีกหลายแห่งทั่วประเทศ แต่ส่วนใหญ่จะไม่สามารถสร้างได้เพราะปัจจัยในหลาย ๆ ด้าน

 

ที่มาของภาพ : vox

 

       ฟาร์มศพแห่งแรกที่Tennessee ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1981 โดยนายแพทย์ William M. Bass ผู้ซึ่งเป็นศาสตราจารย์สอนวิชามานุษยวิทยาของมหาวิทยาลัย Tennessee จุดเริ่มต้นมาจากในตอนนั้นข้อมูลความรู้ทางด้านการวิเคราะห์ซากศพมีอยู่น้อยมาก ทำให้เวลาที่เกิดคดีอะไรขึ้นตำรวจมักจะต้องมาขอความช่วยเหลือจากเขาอยู่เสมอ ๆ ดังนั้น เขาจึงได้หาสถานที่สำหรับทิ้งศพ เพื่อใช้ในศึกษาการเน่าเปื่อยของร่างกายมนุษย์ และสถานที่นี้ก็ได้เป็นแรงบันดาลใจให้กับนักเขียนที่ชื่อ Patricia Cornwell เขียนนวนิยายแนวสอบสวนเรื่อง Body farm ขึ้นมา และชื่อนี้ก็ได้กลายเป็นชื่อสำหรับเรียกสถานที่นี้ไป

 

ที่มาของภาพ : 66.media

 

       หลังจากนั้นจึงมีการสร้างฟาร์มศพเพิ่มขึ้นหลายแห่งเนื่องจากเล็งเห็นถึงประโยชน์ของการศึกษาและวิจัยด้านมานุษยวิทยา แต่ฟาร์มศพที่ใหญ่ที่สุดก็คือฟาร์มซึ่งเป็นศูนย์วิจัยทางนิติวิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัยแห่งรัฐ Texas (Texas State University) ซึ่งมหาวิทยาลัยแห่งนี้มีศูนย์มานุษยวิทยานิติวิทยาศาสตร์ ชื่อว่า Forensic Anthropology Center at Texas State (FACTS)อย่างไรก็ตาม ถึงฟาร์มศพจะดูเป็นวิธีที่ดีสำหรับการศึกษาและมีประโยชน์ในหลาย ๆ ด้าน แต่กว่าจะทำให้เกิดขึ้นได้จริงนั้นก็มีปัญหามากมายเช่นกัน เพราะในตอนที่จะมีการสร้างฟาร์มศพที่รัฐ Texas นั้นประชาชนที่อยู่ใกล้เคียงต่างก็ไม่เห็นด้วยและออกมาต่อต้านความคิดนี้ เพราะมีความเป็นห่วงทั้งเรื่องของกลิ่น และสัตว์กินซากที่จะตามมารบกวน และที่น่ากลัวที่สุดคืออาจจะเกิดโรคระบาดขึ้นได้

 

ที่มาของภาพ : viralnova

 

       ดังนั้น ทางมหาวิทยาลัยจึงต้องมีการยืนยันว่าศพที่นำมาศึกษาจะต้องผ่านการตรวจสอบแล้วว่าตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ไม่ได้ป่วยเป็นโรคติดต่อ ได้รับวัคซีนครบถ้วน และไม่เป็นพาหะนำโรค

 

ที่มาของภาพ : liekr

 

 

       Danny Wescottผู้อำนวยการศูนย์นิติวิทยาศาสตร์ได้เปิดเผยว่า ปัจจุบันภายในฟาร์มของศูนย์แห่งนี้มีซากศพมากกว่า 70 ศพ ซึ่งมีข้อจำกัด 2 ประการในการบริจาคซากศพคือ ในช่วงที่เสียชีวิตร่างกายนั้นต้องมีน้ำหนักน้อยกว่า 500 ปอนด์ (226 กิโลกรัม) และไม่มีโรคติดเชื้อใด ๆ เมื่อร่างกายตรงตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ ก็จะถูกวางไว้ข้างนอกเพื่อรับแสงแดดเป็นเวลา 2 ปี

 

ที่มาของภาพ : viralnova

 

       แต่ทั้งนี้ผู้บริจาคหรือญาติสามารถที่จะเข้าพูดคุยเพื่อทำความเข้าใจกับทางศูนย์วิจัยก่อนได้ ว่าอนุญาตให้ทำอะไรกับร่างกายบ้างเพื่อเป็นการให้เกียรติและเคารพศพ

 

ที่มาของภาพ : buzznick

 

       Krystle Lewis นักศึกษาผู้เข้าร่วมการศึกษากล่าวว่า เธอกำลังศึกษาว่าเสื้อผ้าที่ติดอยู่กับร่างของผู้ตายนั้นจะส่งผลอย่างไรต่อศพ ในขณะที่ Justin Demere นักศึกษาอีกคนที่เข้าร่วมการศึกษาในศูนย์วิจัยแห่งนี้เล่าว่า เขาศึกษาเกี่ยวกับศพที่ถูกฆาตกรรมซึ่งร่องรอยที่ฆาตกรอำพรางไว้จะถูกค้นพบได้อย่างไร

 

ที่มาของภาพ : buzznick

 

ที่มาของภาพ : buzznick

 

/

       พื้นที่แห่งนี้ไม่ได้เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชม เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่ใช้ศึกษาโดยเฉพาะ และเพื่อเคารพสิทธิของผู้บริจาคร่างกายที่ล่วงลับไปแล้ว และต้องบอกเลยว่านับถือทั้งผู้ก่อตั้งและผู้ที่เสียสละบริจาคร่างกาย ซึ่งไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด ๆ ก็ตาม แต่การศึกษาร่างกายนั้น ๆ ก็เป็นผลทำให้สามารถคลี่คลายคดีต่าง ๆ รวมไปถึงสามารถจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุอันชั่วช้าให้เข้าไปสู่กระบวนการทางกฎหมายได้ง่ายขึ้นนั่นเอง

 

ข้อมูลอ้างอิงและภาพประกอบ : ดินแดนสุดหลอน ‘Freeman Ranch Body Farm’

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0