โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ดาวสภาอับแสง! 'บิ๊กตู่' ย้อนเกล็ดกู้เงิน แขวะ 'จิรายุ' ซึ่งก็ 'ห่วงทรัพย์' จริงๆ

ไทยโพสต์

อัพเดต 03 ก.ค. 2563 เวลา 12.20 น. • เผยแพร่ 03 ก.ค. 2563 เวลา 12.20 น. • ไทยโพสต์

3 ก.ค.63 - เวลา 18.00 น. ที่รัฐสภา นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส. กทม. พรรคเพื่อไทยกล่าวอภิปรายร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2464 ว่า มีการวิเคราะห์ว่าหนี้สาธารณะในปี 2564 จะทะลุร้อยละ 60 ก็เป็นเหตุให้รัฐบาลไม่สามารถกู้เงินได้ ทำให้ประเทศถูกบันทึกไว้ว่าล้มละลาย ขณะที่การทำงบประมาณปี 2564 ทำแบบไม่ดูตาม้าตาเรือ ซึ่งจะมีงบประจำ 2.62 ล้านล้านบาท มีงบลงทุนเพียง 5 หมื่นล้านบาท ซึ่งขัดกับกฎหมายที่จะต้องมีงบลงทุน 20 เปอร์เซ็นต์ และจำเป็นต้องกู้มาลงทุน 5 แสนล้านบาท แต่เนื่องจากขณะนี้หนี้เกินเพดานการกู้ จึงต้องมีการแก้กฎหมายขยายเพดานเงินกู้ ส่งผลให้นายกฯทั้ง 28 คน ก่อนหน้ายังไม่มีใครกู้ได้เท่าพล.อ.ประยุทธ์ เพียงคนเดียว 

“เมื่อไม่สามารถกู้ได้ต่อไปในปี 2564 และ 2565 จะเกิดยุทธการดุลข้าราชการ เช่น ในยุคจอมพล ป. พิบูลสงคราม อดีตนายกรัฐมนตรี ที่มีการยกเลิกกรม กอง ต่างๆ ในกระทรวงที่ไม่จำเป็นเพื่อพยายามสลัดไขมัน และกองทัพก็ถูกลดกำลังพล เพื่อลดรายจ่ายประจำซึ่งเชื่อว่าจะเกิดขึ้นในสังคมไทย และหวังว่าคงจะไม่เกิดขึ้น” นายจิรายุกล่าวและว่า ที่ผ่านมารัฐบาลไม่ได้พูดวิธีการหารายได้ รัฐมนตรีต่างๆ มาพูดแต่ผลงานตัวเอง ไม่มีใครชี้แจงแทนนายกฯ ถือว่าเป็นเรื่องน่าเห็นใจ นอกจากนี้รัฐมนตรีบางคนยังโลกลืม ตนยังจำชื่อไม่ได้ จึงอยากให้ทำงานเป็นทีมเพราะประเทศขับเคลื่อนไม่ได้เพราะวันนี้แม้จะไม่มีคนติดเชื้อโควิด-19 แต่ยอดคนติดหนี้มีเต็มบ้านเต็มเมือง

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวชี้แจงว่ากรณีที่ระบุว่าตนกู้หนี้มากกว่านายกฯ 28 คนที่ผ่านมา ถือเป็นเรื่องที่ท่านพิจารณา แต่อยากให้ไปดูว่าที่ผ่านมามีการพัฒนาประเทศไปมากแค่ไหน อยากให้ย้อนกกลับไปดูปี2556 ว่ามีหนี้สาธารณะร้อยละ 42 ส่วนปี 2557 มีหนี้สาธารธร้อยละ 43 และปี 2558 เหลือร้อยละ 42 และปี 2559-2562 เหลือประมาณร้อยละ 41 ส่วนเดือนพ.ค. 2563 ขึ้นมาเป็นร้อยละ 44  ที่มีตัวเลขยอดสาธารณะเพิ่มขึ้น เพราะเราต้องการกู้มาแก้ปัญหาโควิด-19 ประมาณ 5.5 แสนล้านบาท ส่วนใหญ่เยียวยาประชาชน ส่วนเรื่องจากจัดเก็บรายได้ถ้าสถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้นก็คาดว่าจะเก็บรายได้ได้ดีขึ้น แต่หากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้นต้องมีวิธีบริหารจัดการในการจัดเก็บที่มีอยู่ให้ได้ 

ทั้งนี้ยืนยันว่าที่ผ่านมารัฐบาลได้สร้างโอกาสให้ประชาชนด้วยความเป็นธรรมผู้มีรายได้น้อย ซึ่งมีตัวเลขที่ดีขึ้นแต่ไม่เคยเอามาพูด เกษตรกรมีรายได้เท่าไหร่ไม่เคยเอามาพูด ส่วนการจ้างงานในส่วนของงบฟื้นฟูก็จะมีการทยอยดำเนินการไปตามลำดับ 

“วันนี้ท่านบอกว่าหารตัวเลขมาแล้วบอกมีหนี้จำนวนมาก อยากถามว่าก่อนหน้าที่ผมเข้ามา หนี้มาจากใคร ก็มาจากทุกรัฐบาล ที่มีการกู้กันมา มากน้อยก็ขึ้นอยู่กับการเติบโตของประชากรไม่ใช่หรอ ผมจึงขอขอบคุณนายจิรายุ ซึ่งก็ห่วงทรัพย์จริงๆ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ที่ระบุว่า รัฐมนตรีแต่ละคนพูดแต่ผลงานตัวเอง ตนขอยืนยันว่าตนรับผิดชอบในภาพรวม ทั้งนี้คุณเข้าใจคำว่าหัวหน้ารัฐบาลหรือไม่ ที่ผ่านมารัฐมนตรีพูดอะไรตนก็รับฟังไปด้วย หากพูดไม่ตรงตนก็ตำหนิเขา เพราะทุกอย่างต้องอนุมัติโดยครม. ไม่ใช่นายกฯ เพียงคนเดียว และที่ผ่านมาก็ให้แนวทางปฎิบัติแก่รัฐมนตรีที่คือหน้าที่ของผู้บังคับบัญชา และหน่วยงานต้องนำไปปฎิบัติและผ่านการตรวจสอบขึ้นมาก่อนจะเข้าครม.ก็หวังว่าไม่มีใครต้องถูกดำเนินคดีตั้งแต่นี้ก็แล้วกัน.  

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0