โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

กีฬา

ดาวรุ่งตลอดกาล! รวม 7 เด็กเทพ แซมบ้าซ่าไม่สุดในโลกลูกหนัง

ขอบสนาม

อัพเดต 15 ก.พ. 2561 เวลา 03.21 น. • เผยแพร่ 16 ก.พ. 2562 เวลา 09.15 น. • ขอบสนาม
ดาวรุ่งตลอดกาล! รวม 7 เด็กเทพ แซมบ้าซ่าไม่สุดในโลกลูกหนัง

ช่วงชีวิตในการเป็นนักเตะดาวรุ่งต้องบอกว่าเป็นช่วงชีวิตที่พลิกผันได้ทุกเมื่อ ซึ่งหลายคนต้องรับแรงกดดัน รวมไปถึงควบคุมตัวเองไม่ให้ไปหลงอยู่ในแสงสีเสียง ทั้งนี้มี วันเดอร์คิด หลายคนที่ถูกยกไปเปรียบเป็น "นิว" ของเหล่าตำนานนักเตะ แต่สุดท้ายผลงานกับแป๊กด้วยการโดนกดดันจับตามอง และย้ายไปอยู่ผิดที่ผิดเวลา

ทั้งนี้มี 7 แข้ง บราซิเลียน ที่สมัยเป็นดาวรุ่งฟอร์มเปรี้ยงมาก แต่ไม่สามารถก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะระดับท็อปได้ มีใครบ้างมามาดูกันได้เลย

7. แอนเดอร์สัน

แอนเดอร์สัน เป็นนักฟุตบอลชาวบราซิล เริ่มต้นอาชีพค้าแข้งกับ เกรมิโอ้ โดยเป็นนักเตะเยาวชนของทีมในปี 1993 และในปี 2004 ได้ลงเล่นนัดแรกให้กับทีมชุดใหญ่ และจากการลงเล่น 5 เกมเจ้าตัวก็ทำประตูให้ทีมได้ 1 ประตู ในเกมที่พบกับ นอติโก้ ในเดือนเมษายน 2005 ได้ลงเล่นให้กับทีมชาติบราซิล ชุดอายุไม่เกิน 17 ปี และในเดือนตุลาคม ปีเดียวกันเขาก็คว้ารางวัลรองเท้าทองคำจาก อาดิดาส กับการเล่นให้ทีมชาติบราซิลชุดนี้ ก่อนย้ายไปเอฟซี ปอร์โต้ ในเดือนธันวาคม เจ้าตัวลงเล่นนัดแรกให้ปอร์โต้ ในวันที่ 5 มีนาคม 2006 และยังเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยคว้าแชมป์ลีกโปรตุเกส ให้กับทีมในฤดูกาลนั้น

จากแววที่เฉิดฉาย เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ถูกใจความสามารถในการเลี้ยงบอลและจ่ายบอลอย่างชาญฉลาดของเขา ได้ตัดสินใจคว้าเขามาร่วมทีม ด้วยค่าตัวราว 17 ล้านปอนด์ เจ้าของรางวัลโกลเด้น บอยในปี 2008 ย้ายมาค้าแข้งในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ดในปี 2007 โดยก่อนหน้านั้นเขาถูกขนานนามว่าเป็น "นิว โรนัลดินโญ่” จากฟอร์มการเล่นที่น่าตื่นตาตื่นใจกับปอร์โต้ในขณะนั้น อย่างไรก็ตาม ชื่อเสียงเหล่านั้นของเจ้าตัวกลับค่อยๆ เลือนลางไป แม้ตลอด 8 ฤดูกาลที่มิดฟิลด์รายนี้อยู่กับปีศาจแดง จะสามารถคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกถึง 4 สมัย รวมทั้ง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก อีกหนึ่งสมัยด้วย แต่เขากลับโชว์ฟอร์มได้ไม่ดีเท่าที่ควร จนถูกขายขาดให้อินเตอร์นาซิอองนาลในปี 2015 ปัจจุบันเจ้าตัวเซ็นสัญญาค้าแข้งให้กับ อดาน่า เดมีร์สปอร์ ในลีกรองตุรกี

6. อเล็กซานเดร ปาโต้

เอซี มิลาน ยอมควักเงิน 13 ล้านปอนด์เพื่อคว้าตัวกองหน้าดาวรุ่งรายนี้ในปี 2007 ซึ่งต้องบอกว่าตอนย้ายมาเล่นฤดูกาลแรกเขาทำได้ไม่เลวเลย เพราะเขาสามารถทำประตูได้ทั้งสิ้น 9 ประตูจากการลงสนาม 18 นัด และในฤดูกาล 2010/2011 ปาโต้ ก็โชว์ฟอร์มสุดยอดพาทีมดังแห่งอิตาลีคว้าแชมป์ กัลโช่ เซเรีย อา ได้สำเร็จ พร้อมกับทำสถิติยิง 50 ประตูในลีกจากการลงสนาม 102 นัด

อย่างไรก็ตาม ฟอร์มของปาโต้ก็มีอันต้องสะดุดลงเมื่อเขาถูกอาการบาดเจ็บเล่นงาน โดยเริ่มจากอาการบาดเจ็บที่ต้นขา ตามด้วยที่กล้ามเนื้อซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาอดย้ายไปค้าแข้งกับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง อาการบาดเจ็บมันคือจุดเริ่มต้นของช่วงขาลงของกองหน้ารายนี้ และกระทั่งในปี 2013 ปาโต้ก็ถูกขายต่อให้กับ โครินเธียนส์ ด้วยค่าตัว 15 ล้านปอนด์ ซึ่งเจ้าตัวดูเหมือนจะเริ่มต้นได้ดีเมื่อทำประตูได้ตั้งแต่นัดแรกที่ลงสนาม ทว่าหลังจากนั้นฟอร์มของเขาก็ไม่ได้ดีมากมายนัก แถมเขายังไปทำให้แฟนบอลผู้สนับสนุนเขาโกรธสุดๆ เมื่อเขาดันไปยิงจุดโทษแบบปาเนก้าพลาดจนทำให้ทีมตกรอบฟุตบอลถ้วยในประเทศ

หลังจากนั้น ปาโต้ ตัดสินใจเก็บของออกจากถิ่น โครินเธียนส์ ชั่วคราวเพื่อย้ายไปร่วมทัพคู่อริอย่าง เซา เปาโล ก่อนที่จะย้ายกลับมาต้นสังกัดอีกครั้ง ทว่าคราวนี้ โครินเธียนส์ กลับไม่อดทนต่อไป ปาโต้ ถูกขายทิ้งทันที ซึ่งความจริงแล้วก็มีสโมสรจากจีนที่สนใจดึงตัวเขาไปร่วมทัพ ทว่าเจ้าตัวก็ปฏิเสธไป และก็เป็น เชลซี ได้ตัวเขาไปแบบยืมตัว แต่ด้วยปัญหาเรื่องสภาพความฟิตเขาแทบไม่ได้โอกาสลงสนามเลย และสุดท้ายก็ต้องกลับไปบราซิลอีกครั้งก่อนที่คราวนี้จะเป็นบียาร์เรอัล ที่เจียดเงิน 3 ล้านปอนด์ดึงตัวเขาไปร่วมทีม ปัจจุบันเขากำลังสนุกสนานกับการระเบิดประตูในลีกจีนกับ เทียนจิน ฉวนเจี้ยน ในไชนีสซูเปอร์ลีก

5. เคอร์ลอน มูร่า ซูซ่า

นี่คือดาวรุ่งพุ่งแรงที่สุดคนหนึ่งของ อเมริกาใต้ เมื่อในดีต อดีตดาวซัลโวและเจ้าของรางวัลรองเท้าทองคำ ฟุตบอลชิงแชมป์อเมริกาใต้ชุดอายุต่ำกว่า 17 ปี เมื่อปี 2005 อีกหนึ่งบราซิเลียน อีกหนึ่งแข้งความหวัง และอีกหนึ่งความผิดหวัง เคอร์ลอนสร้างชื่อจากการเล่นที่น่าตื่นตาตื่นใจ และการครองบอลที่ยอดเยี่ยม นักเตะดาวรุ่งรายนี้ชอบที่จะยกบอลขึ้นไปเลี้ยงไว้บนหัวพร้อมกับวิ่งผ่านกองหลังเข้าไป หลังจากย้ายไป อินเตอร์ มิลาน ดูเหมือนชีวิตค้าแข้งท่าทางจะรุ่ง แต่ทว่าเขาล้มเหลวไม่เป็นท่า โดยลงสนามไปเพียง 1 นัด

ช่วงเวลาของเขาในอิตาลีเต็มไปด้วยเหตุการณ์ยากลำบาก เมื่อเขาได้รับบาดเจ็บบริเวณหัวเข่า ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงกับฟอร์มการเล่นและการพัฒนา การถูกปล่อยไปเล่นแบบยืมตัวไม่ได้ทำให้สถานการณ์ดีขึ้น จนกระทั่งเมื่ออินเตอร์ปล่อยเขาออกจากทีม ดาวเตะวัย 25 ปี ก็ต้องระเห็จไปเล่นในเอเชีย บนดินแดนอาทิตย์อุทัยกับทีมในเจลีก ฟุจิเอดะ เอ็มวายเอฟซี จากนั้นก็กลายเป็นนักเตะพเนจร ก่อนจะย้ายมาเล่นสโมสร สปาตัก เทอร์นาวา ในสโลวาเกีย เป็นสโมสรสุดท้าย และตัดสินใจรีไทร์อาชีพค้าแข้ง ส่วนทักษะและชื่อเสียงสมัยดาวรุ่งก็ค่อยเลือนหายไปตามกาลเวลา

4. เคียร์ริสัน

แข้งแซมบ้ารายนี้เคยได้รับการจับตามองในฐานะ "นิว โรมาริโอ" ด้วยความสามารถในการปิดสกอร์ชั้นเลิศ ทำได้ถึง 33 ประตู จากการลงเล่น 63 นัด ให้ คอริติบา ทีมแจ้งเกิด ก่อนที่ พัลไมรัส ยักษ์ใหญ่แห่งบราซิลจะมาคว้าตัวไปในเดือนมกราคม 2009 อนาคตของเขาสดใสมากในเวลานั้น อย่างไรก็ดี ก้าวต่อไปของเคียร์ริสัน กลับเต็มไปด้วยข้อผิดพลาด เมื่อครั้งอายุ 20 ปี เท่านั้น ตอนที่ตัดสินใจมาเผชิญโชคชะตาในยุโรป กับ บาร์เซโลน่า เป็นจุดที่ทำให้เขาเข้าสู่ขาลงอย่างรวดเร็ว ชีวิตที่ไม่เป็นเหมือนฝันกับวงการลูกหนังในยุโรป กลายเป็นต้องถูกปล่อยไปเล่นยืมตัวไปเล่นให้ เบนฟิก้า, ฟิออเรนติน่า ก่อนจะซมซานกลับมาบราซิลกับทีม ซานโตส, ครูเซโร่ และกลับมาซบทีมเก่าของเขาอย่าง คอริติบา อีกครั้ง ซึ่งในปัจจุบันเจ้าตัวไม่ได้ประกาศรีไทร์แต่เป็นนักเตะไร้สังกัดอยู่

*3. โรบินโญ่ *

ก่อนที่ บราซิล จะมีวันเดอร์คิดอย่าง เนย์มาร์ พวกเขาเคยมีโคตรดาวรุ่งอย่าง โรบินโญ่ กองหน้าจอมเทคนิคที่ได้รับฉายาว่า "นิว เปเล่" เมื่อครั้งอดีต เขาสร้างชื่อในฐานะยอดดาวรุ่งของ ซานโตส ติดทีมชาติบราซิลชุดใหญ่ตั้งแต่อายุ 19 ปีในปี 2003 และหลังจากนั้นคือช่วงเวลาที่ชื่อของ โรบินโญ่ เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกและตัวเขาเองก็เป็นที่หมายตาของหลายทีมในยุโรป หลังยิงถึง 80 ประตูในการลงสนาม 180 นัดกับ ซานโตส เรอัล มาดริด ทุ่มเงินกว่า 30 ล้านปอนด์คว้าตัวเขามาร่วมทีมในปี 2005 พร้อมมอบเสื้อหมายเลข 10 ที่เคยเป็นของตำนานอย่าง หลุยส์ ฟิโก้ ให้เจ้าตัวอีกด้วย

โรบินโญ่ เหมือนกับนักเตะบราซิลทั่วไปเขาวูบวาบและดูน่าตื่นตาตื่นใจเสมอยามได้ลงสนาม แต่ด้วยความไม่ต่อเนื่อง รวมถึงความประพฤติของเขาที่เสเพลจนเกินไป เขาถูกขายให้กับ แมนฯ ซิตี้ ในปี 2008 จากนั้นผลงานของเขาก็ตกต่ำไปเรื่อย ชื่อของ โรบินโญ่ เริ่มหายเข้ากลีบเมฆ และกลายเป็นนักเตะพเนจรกับทั้ง ซานโตส,มิลาน และ กว่างโจว เอเวอร์แกรนด์

หลังจากนั้นเจ้าตัวก็ตกเป็นข่าวบนหน้าสื่อลูกหนังไปทั่วโลกเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ศูนย์หน้าแซมบ้า ถูกตัดสินจำคุก 9 ปี ในคดีมีส่วนร่วมในการข่มขืนหญิงสาวในเมืองมิลาน เมื่อวันที่ 22 มกราคม ปี 2013 ศาลอิตาลีตัดสินว่า โรบินโญ่ นักเตะวัย 33 ปีและชายชาวบราซิลอีก 5 คน มีส่วนเกี่ยวข้องในคดีรุมทำร้ายร่างกายและล่วงละเมิดหญิงชาวแอลเบเนีย วัย 22 ปี หลังจากที่ดื่มแอลกอฮอล์ในไนท์คลับแห่งหนึ่ง ในเมืองมิลาน เมื่อวันที่ 22 มกราคม ปี 2013 อย่างไรก็ตามเมื่อปีที่ผ่านมา ชิวาสสปอร์ ทีมในลีกตุรกี แถลงยืนยันคว้าอดีตกองหน้าทีมชาติบราซิลบรรลุข้อตกลงเบื้องต้นย้ายมาเล่นในลีกแดนไก่งวง แม้ว่าเขาถูกศาลอิตาลีคาดโทษจำคุก 9 ปีก็ตา ก่อนเจ้าตัวจะย้ายมาเล่นให้กับ อิสตันบูล บาซาคเซฮีร์จนถึงปัจจุบัน

*2. เดนิลสัน *

เรอัล เบติส ยอมทุ่มเงินว้าปีกชาวบราซิลจาก เซา เปาโล มาร่วมทีมในราคา 21 ล้านปอนด์ซึ่งเป็นราคาที่เป็นสถิติโลกในเวลานั้น เดนิลสัน โดดเด่นด้วยทักษะตามแบบฉบับเเซมบ้าและมีความเร็วระดับหาตัวจับยาก แต่ทว่าผลงานของเขากับ เบติส คงต้องบอกว่ามันสวนทางกับค่าตัวของเขาอย่างชัดเจน เดนิลสัน ได้เล่น 29 เกมและยิงได้เพียง 2 ประตูเท่านั้น หลังจากพังกับ เบติส แบบไม่เป็นท่า เดนิลสัน กลายเป็นจอมพเนจรเต็มขั้นเขาย้ายไปอยู่กับ บอร์กโดซ์,อัล นาสเซอร์, เอฟซี ดัลลาส,พัลไมรัส, ไห่ฟง ในเวียดนาม ซึ่งเขาลงเล่นได้ 45 นาทีก่อนจะยกเลิกสัญญา และ เนอ คาวาลา เป็นสโมสรสุดท้านก่อนประกาศรีไทร์

อย่างไรก็ตามแม้ว่าผลงานค้าแข้งในลีกล้มเหลวไม่เป็นท่า แต่ก็มีเกียรติประวัติประดับในอาชีพว่า ครั้งหนึ่งเขาคือ 1 ในขุมกำลังของทีมชาติบราซิลชุดคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกปี 2002 และนี่คือความสำเร็จสูงสุดในอาชีพค้าแข้งของเขาเลยก็ว่าได้

*1. เปาโล เอ็นรีเก้ กานโซ่ *

กานโซเป็นหนึ่งในผู้เล่นพรสวรรค์สูงสุดคนหนึ่งในวงการฟุตบอลบราซิล ถูกจับตามองมาตั้งแต่ยังเป็นดาวรุ่ง ซานโตส รุ่นเดียวกับ เนย์มาร์ ว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นผู้เล่นระดับโลก อย่างไรก็ตามเจ้าตัวได้แต่โลดแล่นพาทีมในลีกบราซิลกวาดแชมป์ แต่ชื่อของเขาค่อยเลือนหายไปก่อนกลับมามีชื่ออีกครั้งบนหน้าสื่อ เมื่อจะได้ออกมาค้าแข้งในถิ่นยุโรป ซึ่งต้องรอจนอายุ 26 เจ้าตัวถึงได้ย้ายออกมาเล่นในต่างประเทศเป็นครั้งแรก และเป็นแชมป์ ยูฟ่า ยูโรป้าลีก อย่าง เซบีย่า ที่ตัดสินใจคว้าตัวมาร่วมทัพ

อย่างไรก็ตาม การย้ายมาอยู่กับ เซบีย่า ดูเหมือนจะไปได้ไม่สวยอย่างที่ฝัน กานโซ่ ย้ายมาในยุคของ เอดูอาร์โด้ เบริซโซ่ คุมทีม ซึ่งมีโอกาสสลับลงสนามบ้าง แต่เมื่อเทรนเนอร์ชาวอาร์เจนไตน์ถูกปลดโดยมี วินเชนโซ่ มอนเตลล่า เข้ามารับช่วงต่อ มิดฟิลด์ชาวบราซิเลียนแทบจะไม่มีส่วนร่วมกับทีมของเทรนเนอร์ชาวอิตาเลียนเลย สุดท้ายถูกส่งไปยืมตัวที่ อาเมียงส์ ในช่วงซัมเมอร์ปี 2018 ก่อนมกราคม 2019 เจ้าตัวจะตัดสินใจกลับไปเล่นในบ้านเกิดอีกรอบหลังไม่ประสบความสำเร็จกับการมาค้าแข้งในยุโรป โดยย้ายไปเล่นให้กับ ฟลูมิเนนเซ่

- เปี๊ยกบางใหญ่ -

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0