โตโยต้าไม่หวั่นนโยบายควบคุมสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ของแบงก์ชาติ อัดแคมเปญดาวน์ 0 บาทกระตุ้นยอดอีโคคาร์ ด้านนิสสัน กดราคามาร์ช เหลือ 3.69 แสนบาท ผ่อนนาน 7 ปี นายกสมาคมรถมือสองยืนยันหนี้เสียพุ่ง เหตุไฟแนนซ์ปล่อยสินเชื่อง่าย ดันยอดหนี้คงค้างพุ่ง 1.1 ล้านล้านบาท
ตามที่ธนาคารแห่งประเทศ ไทย เริ่มกังวลกับระดับหนี้ครัวเรือนที่สูงขึ้นจากการปล่อยสินเชื่อ
เช่าซื้อรถยนต์ของสถาบันการเงินต่างๆ จนมียอดสินเชื่อคงค้างเกิน 1.1 ล้านล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ของประเทศไทย(ช่วงรถยนต์คันแรกขายเกิน 1 ล้านคัน ยังมียอดสินเชื่อคงค้างแค่ 2.1 แสนล้านบาท) หวั่นหนี้เสียลุกลาม จนมีผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ
ปรากฏการณ์นี้สะท้อนผ่านยอดขายรถยนต์ปี 2561 ที่ทำได้ 1.039 ล้านคัน ส่วนปีนี้หลังผ่านไตรมาสแรกขายไป 2.64 แสนคัน โต 11.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และยังประเมินว่าตลาดรถยนต์รวมปี 2562 มีโอกาสถึง 1 ล้านคันอีกครั้ง ด้วยการโหมแคมเปญส่งเสริมการขาย ทั้งแบบเป็นทางการคลอดออกมาจากบริษัทแม่ และแบบดีลเลอร์เล่นเอง (เช่นมีการซับเงินดาวน์ เพื่อให้ลูกค้าใช้เงินน้อยที่สุดในการออกรถ แต่ก็ต้องยอมรับภาระของดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นด้วย)
ธุรกิจขายรถยนต์ในปัจจุบันแต่ละดีลเลอร์ต้องแข่งขันกันสูง ขณะที่บริษัทผู้ผลิตรถยนต์เองถูกเงื่อนไขการลงทุนบังคับ เช่น โครงการอีโคคาร์ เฟส 1 ต้องผลิต รถให้ได้ 1 แสนคันทุกปีตั้งแต่การผลิตในปีที่ 5-8 (หรือ 4 ปี สุดท้ายต้องทำได้รวม 4 แสนคัน) ถึงจะถูกยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย 8 ปี
ดังนั้นการทำแคมเปญส่งเสริมการขายแบบวางบนโต๊ะและเล่นกันใต้โต๊ะ พร้อมได้รับการสนับสนุนจากสถาบันการเงินที่เป็นพันธมิตร หรือบางค่ายที่มีลีสซิ่งเป็นของตนเอง จึงเป็นกลยุทธ์สำคัญในการผลักดันยอดขาย โดยไม่ตระหนักว่าลูกค้าที่ซื้อรถไปจะมีความสามารถในการชำระหนี้ในระยะยาวได้หรือเปล่า
ในส่วนแคมเปญส่งเสริมการขายที่เล่นกันหนักตั้งแต่งานบางกอกมอเตอร์โชว์ 2019 ทั้ง ส่วนลด หรือเลือกแบบดาวน์ตํ่า ดอกเบี้ย 0% ผ่อนนาน 7 ปี ซึ่งหลายค่ายลากแคมเปญยาวมาถึงทุกวันนี้ เช่น มาสด้า ซีเอ็กซ์-5 ดอกเบี้ย 0% ผ่อนนาน 48 เดือน พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง 2 ปี ขณะที่ปิกอัพฟอร์ด เรนเจอร์ ตัวถังดับเบิลแค็บ XLT ดอกเบี้ย 0% ผ่อนนาน 48 เดือน พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง หรือเลือกดาวน์ตํ่า 29,000 บาท ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง
กลุ่มอีโคคาร์ที่แข่งขันกันดุเดือด โตโยต้าเน้นเพิ่มยอดขายในรุ่นล่างโดย ยาริส เอทีฟ รุ่นเริ่มต้น J Eco เกียร์อัตโนมัติ ราคา 4.79 แสนบาท จัดโปรโมชันร่วมกับ โตโยต้า ลีสซิ่ง ดาวน์ 0 บาท แต่ลูกค้าต้องผ่อน 7,196 บาท นาน 84 เดือน ด้วยดอกเบี้ย 4.69% เมื่อจองและรับรถระหว่าง 8 เมษายน-31 พฤษภาคมนี้
เช่นเดียวกับฮอนด้าที่จัดแคมเปญ ดาวน์ 0 บาท ให้ทั้ง ซิตี้ แจ๊ซ เอชอาร์-วี ซีวิค ส่วนอีโคคาร์ บริโอ้ ผ่อนเริ่มต้น 4,000 บาท ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง ขณะที่นิสสัน มาร์ช รุ่น 1.2 S เกียร์ธรรมดา ราคาพิเศษ 3.69 แสนบาท ผ่อนได้นาน 84 เดือน ซูซูกิ สวิฟท์ ให้ลูกค้าเลือกระหว่างรับรถไปขับฟรี 90 วัน หรือเลือกรับส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่งมูลค่าสูงสุด 30,000 บาท บัตรเติมนํ้ามันมูลค่า 5,000 บาท ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินระยะเวลา 3 ปี
สำหรับยอดขายกลุ่มอีโคคาร์ช่วงไตรมาสแรกของปี 2562 โตโยต้า ยาริส (แฮตช์แบ็ก) ขายไป 10,760 คัน ยาริส เอทีฟ 9,431 คัน มาสด้า2 จำนวน 12,460 คัน มิตซูบิชิ แอททราจ 3,318 คัน มิราจ 2,324 คัน นิสสัน อัลเมร่า 5,046 คัน โน๊ต 2,853 คัน มาร์ช 2,539 คัน ซูซูกิ สวิฟท์ 3,084 คัน เซียส 1,040 คัน ฮอนด้า
บริโอ้ รวม 303 คัน
นายวิสุทธิ์ เหมพรรณไพเราะ นายกสมาคมผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้ว เปิดเผยว่า สถานการณ์รถที่ถูกยึดเข้ามายังลานประมูลเริ่มมีมากขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากปีที่ผ่านมารถใหม่ขายดี ไฟแนนซ์ปล่อยสินเชื่อง่าย ส่งผลให้ลูกค้าที่ไม่มีวินัยทางการเงิน ไม่สามารถผ่อนต่อได้และถูกยึดรถในที่สุด ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทยเตรียมออกนโยบายหรือมาตรการคุมเข้มถือว่าเป็นเรื่องที่ดี
“รถที่ถูกยึดมีทุกวัน แต่เนื่องจากปีที่แล้วรถใหม่ขายดีกว่า 1.04 ล้านคัน และลูกค้าขาดวินัยทำให้หนี้เสียในกลุ่มมือ 1 โตขึ้นมาก ถามว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกระทบกับรถมือ 2 หรือไม่นั้น ในเบื้องต้นอาจจะกระทบต่อการปล่อยสินเชื่อที่เข้มงวดมากขึ้น ส่วนนโยบายของธปท.จะมีผลกับรถมือ 2 หรือไม่ต้องรอดูต่อไป”นายวิสุทธิ์ กล่าว
หน้า 1 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,464 วันที่ 25-27 เมษายน 2562
