ดรามา “แพท-เบนซ์” จะไปต่อมั้ย ? รอถามใจเธอดู

เรียกว่าดรามาบังเกิดขึ้นมาจนได้ เมื่อนางเอก “แพท-ณปภา ตันตระกูล” เปิดใจให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน เกี่ยวกับสถานการณ์ภายในครอบครัว ของตนกับ “เบนซ์ - อัครกิตต์ วรโรจน์เจริญเดช”

“เราก็ยังไม่ได้คำตอบอะไรที่มันชัดเจน เลยคิดว่าทำอะไรให้มันดีที่สุดสำหรับลูกดีกว่า เรารู้สึกว่าถ้าอยากให้เขามาเลี้ยงก็โทร.เรียกให้มารับ ตอนนี้ก็เน้นที่สถานะพ่อแม่ลูก”

ส่วนสถานะสามีภรรยานั้น ให้ทางฝ่ายสามีเป็นคนตัดสินใจ !!

“เราตัดสินใจแล้วค่ะว่าให้เขาเลือก เพราะเราได้ทั้งสองทางจะเป็นพ่อแม่ลูก หรือเป็นสามีภรรยา เรารับได้หมด เลยคิดว่าไม่จำเป็นต้องเลือก เพราะเราไม่ได้มีปัญหาและแพทก็รู้สึกว่า มันไม่ใช่เรื่องที่แพทจะมัดมือชกใคร เลยอยากให้เป็นการตัดสินใจจากทั้งสองฝ่าย เราก็คุยกันดีค่ะ เหมือนเพื่อนคุยกัน ส่วนใหญ่จะคุยเรื่องลูกบ้าง

แพทก็อยากรู้เหมือนกันว่าติดปัญหาอะไร ทำไมถึงยังตัดสินใจไม่ได้ ไม่รู้เราจะบีบเขาไปทำไม ซึ่งเราก็ไม่ได้ขีดเส้นตาย ก่อนหน้านี้ก็เคยสัมภาษณ์ว่าพอเราเร่งเขา พยายามถาม สุดท้ายเขาก็หายไป 3-4 วัน เราก็ถามว่าหายไปไหน เขาก็บอกว่า เราถามเขาเยอะไปเลยรู้สึกโดนกดดัน เลยตัดปัญหาไม่อยากรู้คำตอบแล้วจะเป็นอย่างไรก็ช่างมัน”

เอาจริงๆ เรื่องความสัมพันธ์ที่ยังไม่ชัดเจนของทั้งคู่นั้น เป็นเรื่องที่ทุกคนคงพอจะรับรู้มาบ้างแล้ว ตามที่เป็นข่าวเป็นคราวปรากฏมาตลอด นับเนื่องจากที่ฝ่ายชายมีเรื่องมีราวพัวพันเกี่ยวกับคดียาเสพติด แต่ประเด็นที่นำพามาสู่เรื่องดรามา ก็เห็นจะเป็นเรื่อง แพทพูดถึงความสัมพันธ์ของสามี กับลูกชาย “น้องเรซซิ่ง” ที่ออกมาในทำนองว่าลูกไม่สนิทกับพ่อ

“เรื่องเลี้ยงน้อง เราแบ่งเวลากันค่ะ พี่เบนซ์จะได้อาทิตย์ละประมาณวันหรือสองวัน แล้วแต่เราสะดวก ถ้าวันไหน แพทว่าง พี่เบนซ์ก็ไม่ได้ไป สุดท้ายก็บอกพี่เบนซ์ว่าทุกอย่างคือแพทกำหนดเลยละกัน เขาโอเคมั้ยก็ไม่รู้ แต่เราโอเค เราเลี้ยงของเรามาแบบนี้ คือเราก็พูดกับเขาตรงๆ อยู่ดีๆ เขาจะมาจัดแจงแพทไม่โอเค แพททำเท่าที่แพททำได้ดีกว่า

เวลาห่างลูกมันจำเป็นค่ะ เราคิดว่าวันนึงพ่อลูกเขาต้องได้เจอกัน คือเราก็ให้เวลาเขาตั้งแต่เช้ายันเย็นเลย ถามว่าคิดถึงมั้ยก็คิดถึงแหละแต่อยากให้เขาอยู่ใกล้พ่อบ้าง พี่เบนซ์ก็จะได้ผูกพันกับลูกด้วย เรซซิ่งก็จะได้ผูกพันกับพ่อด้วย

ปรับตัวได้ค่ะ ถ้าไม่มีแม่อยู่ใกล้ๆ ถ้าเขามีแม่ ป้า หรือ น้า ที่คุ้นตา อยู่ใกล้ๆ เขาจะไม่เอาฝั่งพี่เบนซ์เลย เลยตัดปัญหาว่าไม่ต้องมีแม่ จะได้อยู่กันเต็มที่”

เอาจริงๆ ถ้าความสันพันธ์ฉันพ่อ-ลูกจะออกมาในลักษณะนี้ ก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่น่าแปลกใจเท่าไรนัก ตามที่รู้กันดีว่า ตัวเบนซ์เองมีช่วงเวลาที่ได้อยู่ใกล้ชิดกับลูกชายน้อยมาก หรืออาจจะเรียกว่าแทบจะไม่มีเลยด้วยซ้ำ เพราะถูกนำตัวไปควบคุมที่ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลางในความผิดฐานสนับสนุนช่วยเหลือผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด สมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินฯ และร่วมกันฟอกเงิน ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 พ.ร.บ.มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. 2534 มาตรา 3, 4 ,6, 10, 14 และพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 ตั้งแต่ช่วงเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว ซึ่งในเวลานั้น น้องเรซซิ่งเพิ่งจะลืมตาดูโลกได้เพียง 3 เดือนเศษเท่านั้นเอง

ก็ไม่แปลกที่เด็กจะมีความคุ้นเคยกับทางฝั่งแม่ เพราะเป็นผู้ที่เลี้ยงดูมาตั้งแต่เกิด ความสนิทสนม ความสัมพันธ์ ก็ย่อมจะมีมากกว่าเป็นเรื่องธรรมดา

การที่เบนซ์จะก้าวข้ามเรื่องนี้ไปให้ได้ ก็ต้องอาศัยระยะเวลาพอสมควร เพราะการสร้างความผูกพันนั้น ไม่ได้เกิดขึ้นได้เพียงชั่วข้ามคืน

อย่างไรก็ตาม เรื่องราวไมได้หยุดอยู่แค่พ่อ-แม่-ลูก แต่ยังมีบุคคลอื่นเป็นตัวละครเพิ่มเข้ามาในเรื่องนี้ นั่นก็คือแฟนเก่าของเบนซ์ ที่ว่ากันว่ามีการนัดแนะกันออกไปพบปะ พูดคุย เที่ยวเตร่กันอยู่บ่อยครั้ง โดยมีผู้หวังดี นำมารายงานแพทเป็นระยะๆ

แต่ด้วยเพราะบทสัมภาษณ์ดังกล่าวที่สะท้อนตัวตนของแพทที่เป็นคนพูดจาเปิดเผย ตรงไปตรงมานี่เอง กลายเป็นชนวนที่ทำให้ฝั่งของสามีถึงกับฟิวส์ขาด ขนาดว่ามีการโพสต์ข้อความประกาศหาปืนมาระเบิดสมองตัวเองลงในไอจีส่วนตัว ว่ากันว่าน่าจะเป็นเพราะความเครียดสะสมจากข่าวทั้งหลายที่ประเดประดังเข้ามาไม่หยุดหย่อน

ถึงตรงนี้ ถ้าตัดตัวละครแวดล้อมอื่นๆ ออกทั้งหมด เหลือไว้เพียง 2 ตัวเอก คือแพทกับเบนซ์ สิ่งที่สมควรจะทำเป็นอันดับแรกก็คือการเปิดอกพูดคุยกัน และหาคำตอบที่ชัดเจนเกี่ยวกับสถานะความสัมพันธ์ ว่าจะเลือกเดินไปต่อด้วยกันฉันสามี-ภรรยา หรือจะลดระดับลงมาเหลือแค่เป็นเพื่อน ที่ต่างก็มีอีกหนึ่งบทบาทคือความเป็นพ่อ และแม่ของลูก เชื่อว่าความชัดเจน จะช่วยให้ปัญหาทุกอย่างคลี่คลายลงไปในทางที่ดีได้ สมมติว่าต่างคนต่างอยากจะเริ่มต้นชีวิตใหม่กับใคร ก็สามารถทำได้โดยไม่ต้องอิหลักอิเหลื่อ หรือตะขิดตะขวงใจ อีกทั้งไม่ต้องเจอกับคำครหาหนาหูที่จะเข้ามาให้ระคายความรู้สึก

เรื่องราวของ “สงกรานต์-แอฟ-แมท” น่าจะเป็นกรณีศึกษาในเรื่องนี้ได้ดีที่สุด !!

สงกรานต์กับแอฟ สิ้นสุดความเป็นสามี-ภรรยากันทางพฤตินัยมานาน ที่สำคัญฝ่ายหญิงยืนยันชัดเจนว่าไม่มีโอกาสที่จะกลับไปใช้ชีวิตครอบครัวด้วยกันอีกอย่างแน่นอน แต่ฝ่ายชายกลับเป็นคนประวิงเวลาออกไป โดยไม่ยอมจัดการในเรื่องทางนิตินัยให้ถูกต้อง กระทั่งมีข่าวเรื่องแมทซ้อนขึ้นมาก่อนจะจดทะเบียนหย่า เรื่องราวก็เลยกลายเป็นมหากาพย์ดรามาในสื่อบันเทิงที่ถูกลากยาวมาเป็นเดือน

เรื่องใดๆ ก็ตาม ถ้าตั้งอยู่บนความชัดเจน ก็ย่อมจะสามารถสยบความดรามาทั้งหลายทั้งปวงที่จะเกิดตามมาได้เป็นอย่างดี

นิตยสาร ผู้จัดการ 360 องศา สุดสัปดาห์ ฉบับที่ 469 17-23 พฤศจิกายน 2561