"ณเดชน์" เผยไม่ได้เตรียมใจมาก่อนว่าจะถูกด่าเละ นอยด์และห่วงความรู้สึก "ญาญ่า" ที่สุด แต่ยันไม่ได้คิดเรื่องเซ็กส์ระหว่างโชว์ ขอกลับไปทบทวนเป็นการบ้านเรื่องความเหมาะสม ยันเรียกที่รักตามอารมณ์ สบายใจที่จะพูดออกไป
ผ่านพ้นไปแล้ว สำหรับคอนเสิร์ต "THE REAL NADECH CONCERT" โดยพระเอกฮอต "ณเดชน์ คูกิมิยะ" งานนี้หลังคอนเสิร์ตจบ ก็มีกระแสดรามาตามมาอื้อ โดยเฉพาะโชว์กับ "ญาญ่า อุรัสยา เสปอร์บันด์" ที่แซบและฟินจนแฟนคลับแทบจะลืมหายใจ แต่ไม่วายถูกวิจารณ์แรงไป ติดเรตเกินงาม โดยล่าสุดหนุ่มณเดชน์เปิดใจว่าห่วงความรู้สึกฝ่ายหญิงที่โดนกระแสอยู่ไม่น้อย คิดเป็นการบ้านทบทวนในครั้งต่อไป
"ถามว่าหายเหนื่อยหรือยัง ยังครับ (หัวเราะ) ตอนนี้ถ้าไม่มีงานก็คงอยู่บ้านพักผ่อน ไม่ค่อยอยากทำอะไรสักเท่าไหร่ ข้างนอกอาจจะดูสดใสแต่ข้างในพังๆ นิดนึง ปล่อยพลังเต็มที่ก็ดีนะครับ เราเองที่ได้พลังเยอะขนาดนั้นเพราะคนที่ไปเขาให้พลังเรามา ไม่ว่าจะสายตา เสียงกรี๊ด กำลังใจที่เขาให้มาเราได้รับตรงนั้น เราก็อยากส่งกลับไปให้ได้มากที่สุด เต็มที่กับทุกๆ อย่าง ทุกๆ คนที่ไปวันนั้น"
"ถามว่าพอใจกับโชว์ไหม สนุกครับ เป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆ การได้ทำงานกับทีมงานมืออาชีพก็ทำให้เราได้มีไอเดีย การพัฒนาและประสบการณ์ที่มากขึ้น"
เผยมีความสามรถทุกด้าน ต้องผ่านการฝึกฝนและซ้อมหนัก
"ก็ขึ้นอยู่กับการฝึกฝนครับ ผมให้เวลากับการซ้อมค่อนข้างเยอะมาก ช่วงนั้นแทบจะไม่รับงานเลย พยายามซีเรียสกับตรงนั้นให้มากที่สุด ไม่อยากปล่อยอะไรให้มีข้อผิดพลาด หรือทำให้กลายเป็นข้อบกพร่อง ก็พยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุด ก็ยากทุกพาร์ทครับ ช่วงเปิดโชว์ก็ถือว่ายาก ทำยังไงให้คนดูไม่เบื่อ ไม่ลุกกลับบ้าน เป็นโจทย์ที่เราต้องทำ แต่โดยรวมก็ขอบคุณทุกคนที่ไปร่วมสนุกกันนะครับ"
ประทับใจแขกรับเชิญทุกคน
"ดีใจครับ ดีใจที่ทุกคนให้เกียรติมา จริงๆ แล้วเสียงกรี๊ดที่ได้ยินที่ดังที่สุดก็คือพี่ก้อง สหรัถ ผมแทบจะเอาหน้ามุดดินเลยตอนนั้น พี่ก้อง พี่อี๊ด โปงลาง พี่ปั๊ป โปเตโต้ พี่แอม ยังบอย ทีเจ น้องญาญ่า ทุกคนที่มาให้โอกาสผม ก็ขอบคุณทุกคนมากๆ"
ถูกแซวเหมือนมางานแต่งแค่อีกสีสัน ลั่นได้เรียนรู้เราสองคนไปอีกระดับ
"กับน้องจริงๆ แล้วทุกคนก็รู้อยู่แล้วว่าแขกรับเชิญที่เราเปิดเผยเป็นน้องญาญ่า แฟนคลับส่วนนึงที่มาก็เป็นแฟนคลับน้องญาญ่าด้วย ส่วนที่โดนแซวว่าเหมือนมางานแต่ง มันก็เป็นช่วงที่เป็นอีกสีสันนึง พี่ฉอด (สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา) ก็ให้ไอเดียว่าเราจะทำยังไงให้มันดูสนุก ได้เรียนรู้เรื่องราวของเราสองคนไปในระดับนึงด้วย"
ปัดแกรนด์โอเพนนิ่งเรียกที่รัก สบายใจที่จะพูด อยากจะบอกออกไป
"ก็ไม่ได้แกรนด์โอเพนนิ่งอะไร ก็เป็นเช่นนั้นอยู่แล้ว เราก็รู้สึกสบายใจเพราะทุกคนที่ไปในคอนเสิร์ตวันนั้นเขาก็เป็นแฟนคลับเรา เขาไปให้กำลังใจเรา เขาอยู่กับเราแล้ว เราเลยรู้สึกสบายใจที่จะพูดอะไรบางอย่าง อยากจะบอกแฟนคลับด้วย อยากจะบอกน้องญาญ่าด้วย มันเลยเกิดโมเมนต์ตรงนั้น"
พูดจากใจ ไร้สคริปต์ เกิดจากอารมณ์ล้วนๆ
"สคริปต์มันก็เป็นแค่ไกด์ๆ ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้น ณ อารมณ์ตรงนั้นเอง วันแรกกับวันที่ 2 ก็ไม่ได้เหมือนกันซะทุกอย่างครับ ถามว่าเขินไหม ก็เขินนิดหน่อย รู้สึกดีที่เราได้บอกคนที่เขารักเรา หมายถึงแฟนๆ เขาก็ดีใจ"
ไม่ได้เตรียมใจรับกระแส แค่อยากให้ทุกคนมีความสุข
"กระแสไม่ได้เตรียมใจไว้เลยครับ (หัวเราะ) ว่าจะเกิดอะไรแบบนี้ขึ้น เราก็อยากจะให้ทุกคนที่จ่ายตังค์ไปดูได้มีความสุขเท่านั้นเอง แค่นั้นเองจริง"
นอยด์ และห่วงความรู้สึก "ญาญ่า"
"เรานอยด์กับความรู้สึกของญาญ่ามากกว่า เราไม่ได้นอยด์ว่าเดี๋ยวคนจะมาด่าเรา เราเป็นห่วงความรู้สึกของน้องมากกว่า เพราะเขาก็อุตส่าห์มาช่วยเราทำโชว์โดยเฉพาะ ผมไม่รู้เรื่องอะไรเลยจนกระทั่งวันสุดท้าย ก็มีการพูดคุยกันเกิดขึ้น อันนี้ผมไม่รู้เรื่องมาก่อน ก็ยังไม่ได้เห็นเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่ามันเกิดอะไรขึ้น วันนั้นยังเพิ่งเสร็จคอนเสิร์ตหลังจากนั้นก็เลยได้ถาม ได้พูดคุยกันถึงเรื่องปัญหาที่เกิดขึ้น"
เคลียร์แม่ปลาแล้ว โชว์ไปแล้วแก้ไขอะไรไม่ได้
"คุยครับ ก็บอกว่ามันเกิดจากอะไร ว่าเราจะมีวิธีการแก้ไขยังไง แต่ว่าจริงๆ แล้วพอโชว์มันออกไปแล้วการจะแก้ไขอะไรมันก็แก้ไขไม่ได้ ดีที่สุดเราก็อธิบายด้วยเหตุผลของเราที่เราได้เตรียมงานมา แต่ละคนก็มีเหตุผลของตัวเองอยู่แล้ว ผมเข้าใจในเสียงวิพากษ์วิจารณ์อยู่แล้ว ก็น้อมรับไว้ ขอบคุณมากๆ"
"ถามว่าแม่ปลาคอมเมนต์อะไรไหม ในเรื่องการคุยเรื่องงานอย่างละเอียดจะเป็นทางผู้ใหญ่กับผู้ใหญ่ แม่ปลาจะคุยกับทางพี่ฉอดเองเสียมากกว่า รายละเอียดตรงนี้ผมจะไปแก้ไขอะไรเองไม่ได้ ก็ปล่อยให้เป็นไปตามความสบายใจของคุณแม่ดีกว่า"
เปิดใจเป็นโชว์หนึ่งที่เป็นสเปเชียล อยู่ในโหมดนักแสดง ไม่ได้คิดถึงเรื่องเพศ เรื่องเซ็กส์
"เอาจริงๆ เลยในมุมมองของผม ผมรู้สึกว่านั่นคือการแสดง มันคือโชว์นึงที่เป็นสเปเชียลโชว์ที่เกิดขึ้นในพาร์ทเดียวสำหรับเพลงนี้ ผมรู้สึกว่าเราอยู่ในโหมดของนักแสดงที่กำลังเพอร์ฟอร์มตรงนั้นออกมาเลยไม่ได้คิดถึงเรื่องเพศ เรื่องเซ็กส์ หรืออะไร มันคือโชว์มากกว่า"
ต้องกลับไปทำการบ้านอะไรเหมาะไม่เหมาะ
"น้องบอกผู้ชมคือผู้ปกครองที่คอยติชม สำหรับผมก็มีส่วนสำคัญนะครับสำหรับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของคนดู ความรู้สึกของทุกคนที่ได้รับ มันเป็นเหมือนกับการทำโพล เพราะทุกคนอยากจะรู้ว่าทำออกมาแล้วเป็นอย่างไร มันเหมือนเป็นการทำการบ้าน ทำการตลาด อย่างที่น้องได้พูดไปแล้วซึ่งน้องตอบคำถามดีมากๆ การรับฟังคนดู มันก็เป็นสิ่งที่ทำให้เรารู้ว่าคนดูรู้สึกแบบไหนกับสิ่งๆ นั้นที่เราได้แสดงออกไป อาจจะมีการกลับมานั่งทำการบ้านว่าอะไรเหมาะอะไรไม่เหมาะ"
