จากกรณี นายเจนภพ วีรพร อายุ 41 ปี นักธุรกิจชื่อดัง ขับรถเบนซ์ รุ่นซีแอลเค สีดำ ทะเบียน ษง 3333 กรุงเทพมหานคร พุ่งชนท้ายรถเก๋งฟอร์ด เฟียสต้า ทะเบียน ฆย 6911 จนเกิดไฟไหม้ ทำให้ นายกฤษณะ ถาวร อายุ 32 ปี และ น.ส.ธันฐภัทร์ ฮ้อแสงชัย สาวนักศึกษาปริญญาโท โดนไฟคลอกเสียชีวิต 2 ศพ เหตุเกิดบนถนนพหลโยธิน กม.53 หมู่ 8 ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 13 มี.ค. 2559
ภายหลังศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลยเป็นเวลา 2 ปี 6 เดือน โดยไม่รอลงอาญา ขณะที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 มีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 8 พ.ค. 2562 ลงโทษจำคุกจำเลยฐานเสพเมทแอมเฟตามีนขับรถ เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ลงโทษจำคุก 6 ปี แต่จำเลยให้การเป็นประโยชน์ ลดโทษให้บางส่วน เหลือลงโทษจำคุกจำเลย 4 ปี ไม่รอลงอาญาตามที่ปรากฏเหตุการณ์ไปแล้วนั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 3 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.ที่ผ่านมา ที่ศาลจังหวัดพระนคศรีอยุธยา ศาลอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ที่พนักงานอัยการจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเป็นโจทก์ นายไพบูลย์ ถาวร กับพวกรวม 4 คน เป็นโจทก์ร่วมกันฟ้อง นายเจนภพ วีรพร จำเลย ฐานกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย โดยศาลฎีกา ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือกันแล้วเห็นว่า เมื่อวันที่ 13 มี.ค. 2559 จำเลยขับรถเบนซ์ ทะเบียน ษง 3333 กรุงเทพมหานคร ลงมาจากโทลเวย์อุตราภิมุข มาบนถนนพหลโยธิน ถึงบริเวณกม. 52+4000 แล้วชนกับรถฟอร์ด ทำให้ผู้โดยสาร ผู้ขับขี่ ถึงแก่ความตาย เห็นว่า
แม้จำเลยขอลงโทษสถานเบา ให้เหตุผลว่าจบการศึกษาปริญญาโทจากต่างประเทศ เป็นกรรมการบริษัทต่างๆ ทำประโยชน์แก่สังคม บวชให้ผู้ตายนาน 2 เดือน 3 สัปดาห์ ยังไม่เป็นเหตุบรรเทาโทษ ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาเหมาะสมแล้ว พิพากษายืน