22 ก.ย.61- ช่วงบ่ายที่ผ่านมา นายอรุณ เครือจันทร์ พร้อมญาติๆกว่า 50 คน นำศพนายชิษณุพงษ์ เครือจันทร์ อายุ 29 ปี ซึ่งถูกตำรวจวิสามัญเสียชีวิตเมื่อวันที่ 18 ก.ย.ที่ผ่านมา ออกจากวัดเก็ตโฮ่ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต เดินทางมายังศาลากลางจังหวัดภูเก็ตเพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรมกับทางผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตโดยระบุว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทำเกินกว่าเหตุ ซึ่งมี นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พล.ต.ต.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมรับเรื่องร้องเรียน
นายอรุณ เครือจันทร์ บิดาของ นายชิษณุพงษ์ เครือจันทร์ ผู้เสียชีวิต ระบุว่า การเคลื่อนศพลูกชายมาประท้วงขอความเป็นธรรมในครั้งนี้เนื่องจากติดใจในประเด็นการเสียชีวิตที่ตำรวจทำการวิสามัญซึ่งไม่เข้าใจว่าทำไมต้องทำถึงขนาดนั้น ซึ่งจากข้อมูลที่ตำรวจแจ้งมาอ้างว่าลูกชายตนขับรถแหกด่านจากพื้นที่ สภ.เมืองภูเก็ต หลบหนีไป ยังพื้นที่ สภ.เชิงทะเลซึ่งขณะนั้นรถตำรวจได้ขับไล่ตามมาตลอดทางและรถของลูกชายได้เสียหลักไปชนกับฟุตปาธริมถนน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอ้างว่าได้เข้าไปสั่งให้ลูกชายตนลงจากรถแต่ผู้ตายไม่ยอมลง กลับใช้อาวุธปืนยกขึ้นเล็งมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อยิงต่อสู้ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ใช้อาวุธปืนยิงเพื่อยับยั้ง แต่กระสุนถูกชายตนเสียชีวิต ซึ่งคิดว่าตำรวจทำเกินกว่าเหตุทั้งที่ผู้ตายไม่ได้มีการยิงปืนใส่ตำรวจเลย
การนำศพมาที่ศาลากลางในวันนี้เพื่อต้องการเรียกร้องให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตรับเรื่องตรวจสอบข้อเท็จจริงในทุกขั้นตอนตั้งแต่ที่ตำรวจอ้างว่าผู้ตายขับรถแหกด่านไปจนถึงจุดที่ถูกตำรวจยิงเสียชีวิตว่ามีความจริงมากน้อยเพียงใด พร้อมทั้งต้องการให้ย้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งหมดที่มีส่วนร่วมในการเสียชีวิตของลุกชายตนในครั้งนี้ด้วย
นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตยืนยันจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่ายโดยเบื้องต้นได้ให้ทางญาติผู้เสียหายเข้าให้ข้อมูลกับศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ตเพื่อที่ทางศูนย์ดำรงธรรมรับเรื่องดำเนินการแจ้งหน่วยงานเกี่ยวข้องร่วมกันแก้ไขเยียวยาต่อไป
ขณะที่ทาง พล.ต.ต.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ระบุว่า เรื่องดังกล่าวทางตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจโดยยืนยันจะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่ายซึ่งหลังเกิดเหตุทาง พนักงานสอบสวน สภ.เชิงทะเล พนักงานอัยการ ,แพทย์ ,ฝ่ายปกครอง และพิสูจน์หลักฐาน ก็ได้เข้าข้อมูลหลักฐานเรียบร้อยแล้ว ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ร่วมในเหตุการณ์มีทั้งหมด 9 คนตนจะมีคำสั่งย้ายออกจากพื้นที่ภายใน 24 ชั่วโมงเพื่อความสบายใจของทางญาติในการดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงทางคดีและจะเบื้องต้นจะแจ้งข้อกล่าวหาฆ่าคนตายแก่ตำรวจทั้ง 9 นายด้วย ซึ่งการสอบสวนทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนยืนยันจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่ายอย่างแน่นอนหากผลการสอบสวนออกมาว่าตำรวจเป็นฝ่ายกระทำเกินกว่าเหตุจริงก็ต้องดำเนินคดีตามกฏหมาย
ส่วนศพของนายชิษณุพงษ์ เครือจันทร์ ทางญาติได้เคลื่อนไปเก็บไว้ที่วัดกะทู้เพื่อรอผลการชันสูตรและการสอบสวนว่าเป็นอย่างไรจึงจะทำการเผาตามหลักศาสนา
