เมื่อวันที่ 15 พ.ย. นพ.ชลวิทย์ หลาวทอง ผอ.รพ.ร้อยเอ็ด พร้อมเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล ได้มอบพวงหรีดเพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณ นายสมหวัง เดิมบุรี บิดา และนางสิริลักษณ์ เสริมพิมาย ภรรยาของนายชาคริต เดิมบุรี อายุ 27 ปี ชาวอ.พิมาย จ.นครราชสีมา ผู้บริจาคอวัยวะรายที่ 4 ในปีงบประมาณ 2563 ด้วยภาวะสมองตายจากสาเหตุเลือดออกในสมองจากอุบัติเหตุรถทัวร์โดยสารพลิกคว่ำที่อ.สุวรรณภูมิ จ.เอ็ด โดยได้บริจาคตับ, ไตและดวงตา 2 ข้าง ให้กับศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย เพื่อนำไปปลูกถ่ายให้แก่ผู้ป่วยต่อไป
นายสมหวัง บิดาผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ครั้งแรกที่ได้รับข่าวการเสียชีวิตของนายชาคริต ญาติทุกคนล้วนมีความเสียใจเป็นอย่างมาก แต่เมื่อทุกคนมีความเห็นพร้อมกันในการที่จะบริจาคอวัยวะของผู้เสียชีวิตแล้ว ต่างมีความภาคภูมิใจที่ทางครอบครัวได้มีส่วนร่วมในการได้บริจาคอวัยวะ เพื่อเป็นการสร้างกุศลให้แก่ผู้เสียชีวิต และบรรดาญาติ ๆ อีกทั้งเป็นการสร้างชีวิตใหม่จาก 1 ผู้ให้ ช่วยได้ 8 ชีวิต
นพ.ชลวิทย์ กล่าวว่า ปัจจุบันรพ.ร้อยเอ็ด มีผู้ป่วยในระยะสุดท้ายอยู่เป็นจำนวนมาก ที่ทุกข์ทรมานจากการที่อวัยวะสำคัญ เช่น หัวใจ ตับ ไต ปอด ฯลฯ ไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ วิธีรักษาทางการแพทย์ที่ดีที่สุดสำหรับผู้ป่วยเหล่านี้ คือ การปลูกถ่ายอวัยวะใหม่ จึงรอผู้มีจิตศรัทธา ซึ่งได้แสดงเจตนารมณ์ในการบริจาคอวัยวะ หรือได้จากญาติที่มีความประสงค์บริจาคอวัยวะของบุคคลนั้น จึงจะช่วยให้ผู้ป่วยในระยะสุดท้ายมีชีวิตอยู่เป็นประโยชน์ต่อครอบครัวและสังคมต่อไปได้ อย่างไรก็ตาม คุณสมบัติของผู้บริจาคอวัยวะ จะต้องมีอายุไม่เกิน 60 ปี เสียชีวิตจากสภาวะสมองตายด้วยสาเหตุต่าง ๆ ปราศจากโรคติดเชื้อ และโรคมะเร็ง ไม่เป็นโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน หัวใจ โรคไต ความดันโลหิตสูง โรคตับ และไม่ติดสุรา นอกจากนี้อวัยวะที่จะนำไปปลูกถ่ายต้องทำงานได้ดี ปราศจากเชื้อที่ถ่ายทอดทางการปลูกถ่ายอวัยวะ เช่น ไวรัสตับอักเสบชนิดบี ไวรัสเอดส์ เป็นต้น.
