โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

บันเทิง

ซีรี่ส์ Sex Education : “โป๊” มากแค่ไหน? ดูแล้วได้อะไรบ้าง?

Manager Online

อัพเดต 24 ม.ค. 2562 เวลา 11.53 น. • เผยแพร่ 24 ม.ค. 2562 เวลา 11.53 น. • MGR Online

อันที่จริง ซีรี่ส์เรื่องนี้ก็คงจะอยู่ในที่ทางของมันอย่างนั้นไปตามปกติ ถ้าไม่ถูกยกขึ้นมาเป็นประเด็นโดยพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง ที่ถึงขั้นลงทุนขึ้นบิลบอร์ดใหญ่หรากลางเมือง ว่าวัยรุ่นไทยยังไม่พร้อมที่จะดูซีรี่ส์แบบนี้ ขณะที่พอเกิดเป็นข่าว หลายคนก็มองว่า นี่น่าจะเป็นกลยุทธ์การตลาดหาเสียงแบบหนึ่ง เพราะหวังว่ากระแสสังคมจะเห็นพ้องต้องด้วย แต่ถึงตอนนี้ คงเป็นที่ประจักษ์ชัดไปแล้วว่า ถ้าเป็นแคมเปญการตลาดหาเสียง มันสำเร็จหรือล้มเหลว?

อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับครับว่า ไม่ใช่จะมีแค่เพียงเสียงคัดค้าน เพราะยังมีอีกฝั่งที่เห็นด้วยคล้อยตามกับข้อเสนอของพรรคการเมืองดังกล่าว และก็ยังมีที่ไม่สุดโต่งถึงขั้นนั้น คือเห็นว่าวัยรุ่นก็ดูได้ เพียงแต่อาจจะต้องได้รับคำชี้แนะเพิ่มเติมจากผู้ปกครอง ซึ่งอันนี้เป็นข้อแรกที่ผมคิดว่าน่าไตร่ตรองมากกว่า

เพราะว่ากันตามจริง ซีรี่ส์ที่ฉายทางเน็ตฟลิกซ์เรื่องนี้ Sex Education ก็ขึ้นข้อความระบุไว้ชัดเจนแก่สายตาว่า เป็นซีรี่ส์เรต 16+ นั่นหมายถึง อาจมีภาพ-เนื้อหา หรือถ้อยคำซึ่งเหมาะสำหรับคนที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป แต่ทั้งนี้ ไม่ได้หมายความว่า คนที่มีอายุต่ำกว่านั้น จะดูไม่ได้ เพียงแต่ควรได้รับคำชี้แนะจากพ่อแม่ผู้ปกครอง หรือเอาเข้าจริง ต่อให้อายุครบหรือเกิน 16 ปีไปแล้ว ถ้าพ่อแม่ผู้ปกครองจะแนะนำ หรือถ้าเด็กวัยรุ่นจะขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากพ่อแม่ผู้ปกครองหรือผู้หลักใหญ่อย่างครูบาอาจารย์ ในแง่มุมที่สงสัย ก็จะนับว่าเป็นเรื่องดียิ่งขึ้นไปอีก

สรุปไปเลยละกันครับว่า เรต 16+ ที่ซีรี่ส์เรื่องนี้ได้มา นอกจากเนื้อหาบางส่วนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเพศ ยังมีการเปิดเผยจุดซ่อนเร้นบางส่วนของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นหน้าอก (นม) หรือแม้กระทั่งอวัยวะเพศชาย ทั้งนี้รวมไปถึงอวัยวะเพศหญิงที่มาในรูปแบบของภาพวาดและภาพถ่าย (อย่างหลังนี้ เห็นแว้บๆ ผ่านๆ แบบทิ้งไว้ให้สงสัย) แต่ไม่ว่าจะอย่างไร แต่ละการเปิดเผยอวัยวะนั้นๆ ล้วนแล้วแต่มีประเด็นเนื้อหาที่แข็งแรงรองรับไว้ อย่างเช่น การเปิดเผยอวัยวะเพศชาย ก็มีทั้งเรื่องประเด็นของการขาดความมั่นใจ ความกดดันบีบคั้นจากครอบครัว การใช้ยากระตุ้น (ไวอากร้า) แบบผิดๆ รองรับอยู่ ขณะที่การนำภาพอวัยวะเพศหญิงมานำเสนอ (แบบผ่านๆ) ก็มีประเด็นของการ Bully หรือกลั่นแกล้งกันในโรงเรียน ที่จะสร้างบาดแผลทางใจให้เกิดกับคนคนหนึ่งไปอีกยาวนาน

อันที่จริง ซีรี่ส์เรื่องนี้ก็คงจะอยู่ในที่ทางของมันอย่างนั้นไปตามปกติ ถ้าไม่ถูกยกขึ้นมาเป็นประเด็นโดยพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง ที่ถึงขั้นลงทุนขึ้นบิลบอร์ดใหญ่หรากลางเมือง ว่าวัยรุ่นไทยยังไม่พร้อมที่จะดูซีรี่ส์แบบนี้ ขณะที่พอเกิดเป็นข่าว หลายคนก็มองว่า นี่น่าจะเป็นกลยุทธ์การตลาดหาเสียงแบบหนึ่ง เพราะหวังว่ากระแสสังคมจะเห็นพ้องต้องด้วย แต่ถึงตอนนี้ คงเป็นที่ประจักษ์ชัดไปแล้วว่า ถ้าเป็นแคมเปญการตลาดหาเสียง มันสำเร็จหรือล้มเหลว?

อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับครับว่า ไม่ใช่จะมีแค่เพียงเสียงคัดค้าน เพราะยังมีอีกฝั่งที่เห็นด้วยคล้อยตามกับข้อเสนอของพรรคการเมืองดังกล่าว และก็ยังมีที่ไม่สุดโต่งถึงขั้นนั้น คือเห็นว่าวัยรุ่นก็ดูได้ เพียงแต่อาจจะต้องได้รับคำชี้แนะเพิ่มเติมจากผู้ปกครอง ซึ่งอันนี้เป็นข้อแรกที่ผมคิดว่าน่าไตร่ตรองมากกว่า

เพราะว่ากันตามจริง ซีรี่ส์ที่ฉายทางเน็ตฟลิกซ์เรื่องนี้ Sex Education ก็ขึ้นข้อความระบุไว้ชัดเจนแก่สายตาว่า เป็นซีรี่ส์เรต 16+ นั่นหมายถึง อาจมีภาพ-เนื้อหา หรือถ้อยคำซึ่งเหมาะสำหรับคนที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป แต่ทั้งนี้ ไม่ได้หมายความว่า คนที่มีอายุต่ำกว่านั้น จะดูไม่ได้ เพียงแต่ควรได้รับคำชี้แนะจากพ่อแม่ผู้ปกครอง หรือเอาเข้าจริง ต่อให้อายุครบหรือเกิน 16 ปีไปแล้ว ถ้าพ่อแม่ผู้ปกครองจะแนะนำ หรือถ้าเด็กวัยรุ่นจะขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากพ่อแม่ผู้ปกครองหรือผู้หลักใหญ่อย่างครูบาอาจารย์ ในแง่มุมที่สงสัย ก็จะนับว่าเป็นเรื่องดียิ่งขึ้นไปอีก

สรุปไปเลยละกันครับว่า เรต 16+ ที่ซีรี่ส์เรื่องนี้ได้มา นอกจากเนื้อหาบางส่วนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเพศ ยังมีการเปิดเผยจุดซ่อนเร้นบางส่วนของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นหน้าอก (นม) หรือแม้กระทั่งอวัยวะเพศชาย ทั้งนี้รวมไปถึงอวัยวะเพศหญิงที่มาในรูปแบบของภาพวาดและภาพถ่าย (อย่างหลังนี้ เห็นแว้บๆ ผ่านๆ แบบทิ้งไว้ให้สงสัย) แต่ไม่ว่าจะอย่างไร แต่ละการเปิดเผยอวัยวะนั้นๆ ล้วนแล้วแต่มีประเด็นเนื้อหาที่แข็งแรงรองรับไว้ อย่างเช่น การเปิดเผยอวัยวะเพศชาย ก็มีทั้งเรื่องประเด็นของการขาดความมั่นใจ ความกดดันบีบคั้นจากครอบครัว การใช้ยากระตุ้น (ไวอากร้า) แบบผิดๆ รองรับอยู่ ขณะที่การนำภาพอวัยวะเพศหญิงมานำเสนอ (แบบผ่านๆ) ก็มีประเด็นของการ Bully หรือกลั่นแกล้งกันในโรงเรียน ที่จะสร้างบาดแผลทางใจให้เกิดกับคนคนหนึ่งไปอีกยาวนาน

แต่ถึงกระนั้น ซีรี่ส์ก็มีดีตรงที่ได้สร้างพื้นฐานไว้แล้วว่า “โอทิส” แกนนำที่ปรึกษาทางเพศ มีแม่เป็นนักบำบัดทางเพศโดยอาศัยศาสตร์ด้านจิตวิทยา และเขาก็ได้ซึมซับความรู้ดังกล่าวมาจากแม่พอสมควร และอีกทั้งการศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมจากตำรับตำรา เมื่อต้องเจอกับปัญหาที่ดูเหมือนว่ายากจะแก้ได้ ก็ช่วยให้เขาสามารถให้คำปรึกษาที่ดูมี “วุฒิภาวะ” ได้ และจริงๆ ก็ต้องบอกว่า เป็นคำแนะนำที่ดีใช้ได้ทีเดียวเชียวล่ะ

ณ ขณะนี้ Sex Education จบซีซั่นหนึ่งไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้วยจำนวน 8 ตอน ซึ่งแต่ละตอนก็สะท้อนภาวะความเป็นวัยรุ่นที่ปกติก็มักจะว้าวุ่นอลหม่านตามธรรมดาของช่วงวัยที่ฮอร์โมนส์พลุ่งพล่านอยู่แล้ว แล้วมียิ่งเรื่องทางเพศผสมปนเปกันเข้าไปอีก ยิ่งดูน่าสับสนเข้าไปใหญ่ ซึ่งในแต่ละตอน เราก็จะได้กรณีตัวอย่างความสับสนว้าวุ่นใจในเรื่องเพศในแง่มุมต่างๆ ที่ต้องการ “คำอธิบาย” และ “การสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง”

ก็ต้องยอมรับครับว่า ในปัญหาแต่ละอย่างเหล่านั้น เมื่อถึงตอนสรุป ซีรี่ส์ก็ได้นำเสนอมุมมองที่ถือว่าเป็นทางออกที่เหมาะสมให้ด้วย เป็นการช่วยคลี่คลายความสับสนของตัวละครที่ต้องเจอกับปัญหานั้นๆ สำหรับคนดู ดูแล้วก็ได้เรียนรู้และเติบโตไปพร้อมกับตัวละครในทุกๆ ตอนที่ดูจบ

อย่างไรก็ดี สิ่งที่ทำให้ Sex Education มีความ “เฉียบ” ยิ่งขึ้นไปอีกก็คือ เรื่องของความสัมพันธ์ คือนอกจากเรื่องความสัมพันธ์ทางเพศที่ซับซ้อนชวนสับสนสำหรับวัยรุ่น ยังมีแง่มุมของความสัมพันธ์ทางใจ ซึ่งไล่ระดับไปตั้งแต่ความสัมพันธ์กับเพื่อน ความสัมพันธ์กับแฟน ไปจนถึงความสัมพันธ์ระหว่างตัวของวัยรุ่นกับครอบครัวหรือพ่อแม่ผู้ปกครอง ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลก็ล้วนแต่ให้คุณค่าในเชิงบทเรียนชีวิตได้ทั้งนั้น

บางตอนก็ดูแล้วซึ้งถึงขั้นน้ำตาซึม บางตอนก็ทำให้มองเห็นปัญหาอันเกิดจากความเข้าใจระหว่างกัน บางตอนก็ย้อนกลับไปที่ครอบครัวพ่อแม่ว่าควรจะดูแลลูกหลานอย่างไรเพื่อไม่ให้เกิดช่องว่างจนอาจจะทำให้เด็กยิ่งนานวันยิ่งหลงทาง กลายเป็นเด็กมีปัญหาและเติบโตไปพร้อมกับบาดแผลทางใจที่บาดร้าวฝังลึก หรือแม้กระทั่งความคาดหวังของพ่อแม่ที่มีต่อลูกซึ่งกลายเป็นภาระที่กดทับชีวิตลูกจนขาดความสุขในการดำเนินชีวิตหรือการพัฒนาตนเอง

สรุปก็คือ ไม่ใช่แค่เฉพาะเรื่องทางเพศที่เป็นเรื่อง “อยากรู้-อยากลอง-สงสัย” ของวัยรุ่น แต่หลากหลายปัญหาในช่วงเวลาแห่งการเป็นวัยรุ่น ต่างถูกหยิบยกขึ้นมานำเสนอแบบชี้ชวนให้ขบคิด พร้อมกับนำเสนอทางออกของปัญหาที่น่าจะเป็นหรือควรจะเป็น ซึ่งอันที่จริง อาจจะมีทางออกอีกร้อยแปดพันเก้า มากกว่าที่ซีรี่ส์นำเสนอก็ได้

ภาพรวมทั้งหมด Sex Education เป็นซีรี่ส์ที่ดูสนุก มีความน่าติดตาม มีความฮา ความซึ้ง และลึกซึ้ง มีสาระแง่คิดให้กับชีวิตเยอะมากๆ ครับ เมื่อเทียบกับความโป๊หรือถ้อยคำที่ไม่เหมาะสม มันมีแค่ 5 ถึง 10 เปอร์เซ็นต์ในร้อยเท่านั้น และภาพหรือคำไม่เหมาะสมเหล่านั้น ก็เป็นอะไรที่น่าขำ ไม่ได้ก่อให้เกิดความรู้สึกคึกคักนึกอยากป่ำป๊ำอะไรใดๆ

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0