ใกล้สิ้นสุดการรอคอยแล้ว สำหรับโครงการรถไฟความเร็วสูง หรือ ไฮสปีดเทรน เชื่อม 3 สนามบิน ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา เมื่อผลการเจรจาระหว่างคณะกรรมการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนโครงการรถไฟความเร็วสูง หรือ ไฮสปีดเทรน เชื่อม 3 สนามบิน กับกลุ่มกิจการร่วมค้า บริษัท เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตร หรือ กลุ่ม ซีพี มีความคืบหน้า
นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ รฟท. กล่าวว่า การเจรจา ในวันนี้ (4 เม.ย.) มีความคืบหน้าหลังการเจรจาทำความเข้าใจใน 12 ข้อเสนอแล้วเสร็จ เป็นไปตามเอกสารการคัดเลือกเอกชน หรือ RFP ทั้งหมด ซึ่งนับเป็นประเด็นหลักของการเจรจา
แต่ทั้งนี้ยังเหลือรายละเอียดของถ้อยคำในสัญญา และค่าปรับ ซึ่งเป็นรายละเอียดปลีกย่อยที่จะให้ฝ่ายกฎหมายของทั้ง 2 ฝ่ายมาพููดคุยกัน และหลังจากนั้นนำเสนอให้คณะกรรมการคัดเลือกฯ พิจารณา ซึ่งจะมีการประชุมกันหลังเทศกาลสงกรานต์ ก็จะสรุปเสร็จ 100 % ของการเจรจา จากนั้น จะส่งสัญญาให้กับสำนักงานอัยการสูงสุด คาดว่า ยื่นต่อคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ได้ภายในเดือนเมษายนนี้ หลังจากนั้นจะนำเข้าสู่ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี และคาดว่าจะมีการลงนามในสัญญา เดือนพฤษภาคม ที่จะถึงนี้
รักษาการผู้ว่า รฟท. กล่าวถึงสาเหตุที่ต้องใช้เวลาในการเจรจา เนื่องจากโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน มีสัญญา 50 ปี จึงต้องมีความสมบูรณ์มากที่สุด
สำหรับโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน เอกชนจะได้รับสิทธิ์พัฒนาบริหาร เดินรถไฟความเร็วสูง พร้อมทั้งพัฒนาและบริหารที่ดินมักกะสัน และสถานีศรีราชา โดยมีมูลค่าโครงการลงทุน ประมาณ 224,000 ล้านบาท ขณะที่ผลการวิเคราะห์ผลตอบแทนทางด้านเศรษฐกิจตลอดทั้งโครงการประมาณ 700,000 ล้านบาท