ซิโก้ ยันชัด ไม่ทิ้งงานกุนซือ พร้อมคัมแบ๊กเป็นโค้ชอีกครั้ง เผยเตรียมตัวพร้อมตลอดเวลา รอโอกาสที่เหมาะสม ระบุยังมีไฟเต็มเปี่ยม ติดตามวงการอย่างใกล้ชิด
กดติดตามไลน์ข่าวสด official account ได้ที่นี่
ศึกฟุตบอลโตโยต้าไทยลีก 2020-21 กระแสร้อนแรง เข้มข้น แม้จะกลับมาเตะต่อในนัดที่ 5 เดือน ก.ย. แต่ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดการย้ายทีมของผู้เล่นระดับซูเปอร์สตาร์ "กิเลนผยอง" เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ปล่อย "เก่ง" อดิศร พรหมรักษ์ ให้ การท่าเรือ เอฟซี และ "ตังค์" สารัช อยู่เย็น ให้ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด นอกจากนี้ บีจี ปทุม ยังได้ อันเดรส ตูเนซ อดีตกองหลัง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มาเสริมแนวรับด้วย ทำให้เชื่อว่าการชิงชัยจะเข้มข้น ซึ่งนอกจากแย่งแชมป์กันแล้ว ทีมอันดับ 1-4 ในเลกแรก ยังได้สิทธิไป เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 2021 ด้วย
ผู้สื่อข่าวสอบถามความเห็น "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง อดีตกองหน้า และหัวหน้าโค้ชทีมชาติไทย ถึงโอกาสการลุ้นแชมป์ โค้ชซิโก้ กล่าวว่า เป็นบรรยากาศที่สนุก จากที่เมื่อก่อน มี เมืองทอง กับ ชลบุรี เอฟซี มาเป็น บุรีรัมย์ กับ เมืองทอง จากนั้น สิงห์ เชียงราย ก็ขึ้นมาเบียดคว้าแชมป์ฤดูกาลที่แล้ว ดังนั้น ทีมใหญ่ๆ ที่ยังไม่ถึงฝั่งฝันก็ตั้งความหวัง ทั้ง บีจี ที่ลงทุนเยอะ, การท่าเรือ ซึ่ง "มาดามแป้ง" นวลพรรณ ล่ำซำ ประธานสโมสร ทุ่มเททั้งร่างกาย และจิตใจ ไหนจะ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่ตอนนี้ดูเงียบๆ แต่จริงๆ ก็เสริมมานานแล้ว
อย่างไรก็ตาม ซิโก้ มองว่า บุรีรัมย์ ยังเป็นทีมที่อันตราย มีโอกาสคว้าแชมป์มากที่สุด โดยระบุว่า "บุรีรัมย์ ยังซุ่มอยู่ เรายังไม่รู้ตัวต่างชาติจะมีใครบ้าง แต่เขามีเป้าหมายเดียวอยู่แล้ว ยิ่งปีที่แล้วพลาด ยิ่งฮึกเหิม มีแรงกระตุ้น ส่วน บีจี น้องใหม่หน้าเก่า ยังไม่คุ้นเคยเส้นทางการลุ้นแชมป์ จึงมองว่า บุรีรัมย์ ยังเป็นเต็ง ตามด้วย กลุ่มของ การท่าเรือ, บีจี, ทรู แบงค็อก หรือแม้แต่ สิงห์ เชียงราย ส่วน เมืองทอง ด้วยสปอนเซอร์ขนาดนี้ จะบอกว่าไม่ลุ้นแชมป์คงไม่ใช่ จริงๆ อาจลุ้นเงียบๆ ไม่ต้องกดดัน ผมให้กำลังใจทุกทีมที่ทุ่มเท"
โดยในกลุ่มทีมที่ ซิโก้ กล่าวถึงนั้น อันดับคะแนนหลังผ่าน 4 นัด ทรู แบงค็อก ชนะรวด เท่ากับ ราชบุรี มิตรผล มี 12 แต้ม, ท่าเรือ กับ บีจี มี 10 แต้ม, เมืองทอง 6 แต้ม, สิงห์ เชียงราย 5 แต้ม, บุรีรัมย์ 4 แต้ม
โค้ชซิโก้ ยังให้ทัศนะ ถึงการปล่อยตัวหลักของ เมืองทอง ทั้ง สารัช และ อดิศร ว่า ต้องยอมรับว่าทั้งคู่อยู่กับทีมมานาน เมืองทอง ให้โอกาสตั้งแต่ระดับเยาวชน อย่างสารัช ดันจนเป็นทีมชาติ แต่การซื้อขาย เป็นเรื่องธรรมชาติ วิถีของฟุตบอล หากการขายนั้นมีตัวขึ้นมาทดแทน เป็นผลดีกับนักเตะไปหาความท้าทายใหม่ๆ สโมสรที่ซื้อพอใจ ให้ราคาที่ดี ถือว่าได้ประโยชน์กันทุกฝ่าย
สำหรับโค้ชซิโก้ หลังลุกจากเก้าอี้กุนซือทีมชาติไทย ก็มาคุมการท่าเรือ ก่อนลาออกเมื่อเดือน ก.ย.ปี 2560 หรือกว่า 20 เดือนแล้ว ที่เขาไม่ได้รับงานคุมทีม ซึ่งผู้สื่อข่าวถามถึงโอกาสคัมแบ๊กกลับมาเป็นโค้ชอีกครั้ง ซิโก้ กุนซือดีกรีโปรไลเซนส์วัย 46 ปี ตอบในข้อนี้ว่า ยังไม่ทิ้งเส้นทางนี้แน่ หากมีข้อเสนอที่ลงตัว ก็พร้อมกลับไปคุมทีม
"เคยพูดไว้อยู่แล้ว สิ่งที่ทำทุกวันนี้ คืองานอดิเรก เพราะในเลือดยังมีฟุตบอล ติดตามบอลไทย ทีมชาติไทย ติดตามทุกสโมสร ดูนักเตะทุกคน จนถึงเยาวชน ไม่ได้หนีจากวงการฟุตบอลเลย ยิ่งติดตามมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ ดูโค้ชที่อบรมกันมา โปรไลเซนส์, เอ-บี เป็นอย่างไร มีพัฒนาการอย่างไร"
"ผมเตรียมตัวให้พร้อมตลอดเวลา เมื่อมีโอกาส มีข้อเสนอ มีอะไรดีๆ มาในชีวิต ผมเพิ่งผ่านโปรไลเซนส์ ถือว่ายังใหม่ มีเวลาอีกเยอะ ยังมีไฟในการทำทีม เพียงแต่ว่า ที่ผ่านมายังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม ฉะนั้นยืนยันว่า ไม่หนีไปไหน" ซิโก้ ทิ้งท้าย.
