จากกรณี น.ส.จันจิรา น้อยสุวรรณ อายุ 24 ปี ร้องขอความเป็นธรรมว่าช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา ตนเองพร้อมด้วยน้องชาย น้องสะใภ้ และลูกชาย 1 ขวบ ขับรถมอเตอร์ไซค์ประสบอุบัติเหตุ ถูกรถจักรยานยนต์พ่วงข้างตัดหน้ากระชั้นชิด เเละชนเข้าอย่างจัง เป็นเหตุให้ลูกชายวัย 1 ขวบได้รับบาดเจ็บสาหัส ตับเเตก ผ่านการรักษาหลายโรงพยาบาล ค่ารักษากว่า 1.3 แสนบาท ต้องผ่อนชำระ ส่วนคู่กรณีก็ไม่รับผิดชอบ เหตุเกิดบริเวณถนนมิตรสัมพันธ์ ต.บ้านปึก อ.เมือง จ.ชลบุรี
ล่าสุด วันที่ 14 พ.ย. 62 นายสำราญ ทัพทวี คนขับรถซาเล้งคู่กรณี กล่าวว่า วันเกิดเหตุ ขณะที่ตนเองกำลังจะออกจากซอย คู่กรณีขับมาทางตรง โดยนั่งซ้อน 4 เอาเด็กนั่งหน้า ขับมาด้วยความเร็ว ซึ่งตนเองยอมรับว่าเป็นผู้ขับปาดหน้าจริง เเต่คู่กรณีก็ไม่เบรกเช่นกัน โดยหลังจากเกิดเหตุ ก็มีการไกล่เกลี่ยกันที่โรงพัก ตอนเเรกคู่กรณีเรียกเงิน 30,000 บาท ซึ่ง พ.ร.บ.ก็จ่ายไปเเล้ว 80,000 บาท เเละตนก็ยังซ่อมรถให้คู่กรณีอีก 7,500 บาท นอกจากนี้ยังไปยืมเงินคนอื่นอีก 2,000 บาท นำไปให้คู่กรณีที่โรงพยาบาล
หลังจากนั้น คู่กรณีเรียกเงินอีกหลักแสน เป็นค่ารักษาพยาบาล ซึ่งตนคิดว่าเรียกร้องมากเกินไป ก็ไม่มีให้ เพราะชีวิตความเป็นอยู่ของตนก็ลำบาก ต้องเก็บของเก่าขายประทังชีวิต จะเอาเงินจากไหนไปให้ หลังจากนี้ หากถูกฟ้องร้อง ก็ขอไปให้การในชั้นศาล
ด้าน น.ส.จันจิรา น้อยสุวรรณ แม่ของเด็กผู้บาดเจ็บ กล่าวว่า เงิน 80,000 บาทที่ได้รับ ไม่ได้มาจากรถคู่กรณีคันเดียว เเต่มาจาก พ.ร.บ.รถ 2 คัน คือรถตน 35,000 บาท เเละรถคู่กรณี 45,000 บาท เเละคู่กรณีมีการซ่อมรถให้จริง 7,500 บาท เเต่รถก็ไม่ได้กลับมาเหมือนเดิม เพราะตอนนี้ก็ยังซ่อมอยู่เรื่อย ๆ ส่วนเงินอีก 130,000 บาทที่ตนเรียกไป เป็นค่ารักษาพยาบาลของลูก ตอนนี้ตนต้องขอผ่อนกับทางโรงพยาบาล ซึ่งตนคิดว่าจำนวนเงินที่เรียกไปไม่ได้เรียกมากเกินไป เพราะเป็นค่ารักษาล้วน ๆ ไม่ใช่ค่าทำขวัญ
โดยหลังจากเกิดอุบัติเหตุ ชีวิตลูกก็เปลี่ยนไป ตับบางส่วนยังใช้งานไม่ได้ กระเพาะก็มีปัญหา นี้ยังไม่รู้ว่าค่ารักษาพยาบาลจะเพิ่มไปอีกมากหรือไม่ เพราะลูกต้องไปหาหมออย่างต่อเนื่อง ส่วนที่คู่กรณีบอกว่าไม่มีเงินจ่ายเเล้ว ตนก็เสียใจ เพราะเขาเป็นผู้ใหญ่ น่าจะมีความรับผิดชอบมากกว่านี้ ตอนนี้ชีวิตความเป็นอยู่ก็ลำบากมาก ต้องลาออกจากงานมาดูเเลลูก ส่วนรายได้ก็มาจากค่าเเรงวันละ 400 บาท ของสามีเพียงคนเดียว ตนขอดำเนินการตามกฎหมายให้ถึงที่สุด
