ช้ำคือเรา!! เมื่อกลีบลำดวนถูกเทเอาตอนแก่

ก็คงได้รู้แล้วว่า…เธอไม่จริงใจ…เราไม่มีความหมาย

เธอคงไม่มีน้ำใจ…ไปจากฉันง่ายดาย…โดยไม่มีร่ำลา

เสียงเพลงขุ่นแม่นิตยา บุญสูงเนิน ลอยมาอย่างไว ในจังหวะที่เขาคนนั้น และเธอคนนี้มาบอก ‘ลา’ กันกลางทาง ในช่วงอายุที่เริ่มจะแตะหรือเลยหลัก 4 

ตาลอยๆ ขาที่ค้างชะงัก แต่เสียงก้องดังในใจกลับดังย้ำๆ ว่า ‘เชี่ยเอ้ย ทำไมทำกะกรูได้ลงคอ’

ระยะเวลาของคนบางคนที่คบกันมายาวนานแบบ 7 ปี 10 ปี ไม่ว่าจะแต่งแล้ว หรือยังไม่แต่ง และคิดว่าอุตส่าห์ผ่านช่วงเวลาของเลขอาถรรพ์มาได้ แต่ทำไมกลับกลายมาลงเอยแบบนี้

เรื่องนี้เป็นปัญหาใหญ่ของคนในยุคปัจจุบัน ที่แม้แต่ระยะเวลาแห่งความหอมหวลในช่วงความรัก ก็มิได้มีผลอันใด หากใครคนใดคนหนึ่งพร้อมลาจากไปแบบชิลๆ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม

กรมสุขภาพจิต เคยเผยว่า ความสัมพันธ์ของครอบครัวและชีวิตคู่ของคนไทยเปราะบางขึ้น 

ในช่วง 10 ปีนี้มานี้ ตามสถิติประชากรไทยของกระทรวงมหาดไทย มีจำนวนครอบครัวทั้งหมด 25 ล้านกว่าครัวเรือน จดทะเบียนสมรสรวม 307,746 คู่ และมีผู้จดทะเบียนหย่า 118,539 คู่ ถ้าคิดเป็นสัดส่วนย้อนไปเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ก็คือ ปัจจุบันคนไทยหย่ากันเพิ่มขึ้นเกือบ 40% 

ว่ากันว่าสาเหตุของการจากลา มาจากแรงกดดันจากภายนอก เช่น 

• เครียดจากงาน สภาวะทางเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งส่งผลกระทบต่อสัมพันธภาพภายในครอบครัว 
• ความไม่สม่ำเสมอด้านสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยา เพราะการใช้คำพูดที่ไม่เหมาะสมหรือที่เรียกว่าฟังแล้วปรี๊ดหู มีผลบั่นทอนจิตใจและความรู้สึก
• พฤติกรรมบางอย่างที่เคยรับได้ เมื่อหมดโปรโมชั่น ค่าการ์ดพลังนี้จะหมดไป เช่น แต่ก่อนนอนกรนยังว่าเป็นเสียงสวรรค์ ตกเสียงดังยังว่าเป็นกลิ่นหอมลาเวนเดอร์ 
• และสุดคลาสสิกกับ ‘เขาหรือเธอ มีคนใหม่’

เหล่านี้เป็นเรื่องใหญ่และเป็นชนวนสะสมที่ทำให้ใครคนใดพร้อมทิ้งอีกคนไปแบบไร้เยื่อใย

แล้วเราจะอยู่กับชีวิตต่อจากนี้ได้อย่างไร?

แน่นอนว่าว่าเป็นโสดว่าน่ากลัวแล้ว แต่เป็นโสดตอนแก่นี่น่ากลัวกว่าเยอะ โดยเฉพาะกับคนที่ทุ่มเทใจทั้งหมดไปให้อีกฝ่าย เพราะสิ่งที่เราจะได้ คือ ความว่างเปล่าในเชิงสถานะ แต่ล้นเอ่อไปด้วยความฟุ้งซ่านจากภาพอดีตที่ไม่มีวันสลัดหลุดในเร็ววัน

เชื่อไหมว่าสิ่งที่แย่มากๆ ของคนที่มาถูกเทเอาตอนแก่ คือ ถ้าเลิกกันตอนวัยเอ๊าะๆ มันก็พอมีเวลาเหมาะๆ ให้ไปเริ่มต้นกับใครใหม่

แต่ถ้าเกิดชีวิตเริ่มหลุดหลัก 4 ตีตรงเข้าดอนเมืองเข้าไปมากเท่าไร โอกาสที่จะเกิดความคิดแบบคู่มันก็ลดน้อยลง (ที่ยังไม่นับสังขารที่ร่วงลงไปตามวัย จนหาใครดามชีวิตต่อไม่ได้นะ)

ต่อให้คิดว่ายังมีหวังกับเรื่องความรัก แต่คนวัยนี้ที่เคยผ่านชีวิตคู่มาในระดับหนึ่ง การผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่า คือ ความกลัว และเข็ดขยาด จนต่อให้มีใครเข้ามาในชีวิตก็ไม่กล้าเริ่มใหม่ (เหมือนรู้ว่าเหยียบแก้วแล้วมันเจ็บ ก็ไม่อยากเริ่มง่ะ)

เพราะการไปจูนทัศนคติใหม่กับใครสักคน มันเป็นเรื่องไม่ บางทีดราม่าของเขาและเธอผู้เป็นอดีต ก็ล่องลอยเข้ามาในโสดสมองส่วนที่โง่ที่สุด จนแยกแยะไม่ได้ และก็มักจะคิดว่าเขาและเธอคนนี้จะดีเหมือนเขาและเธอคนนั้น…ได้แค่ไหน? (ฟังดูเหมือนอ่อนแอ แต่มันคือความพ่ายแพ้ที่ยิ่งใหญ่ของชีวิต)

อย่างไรซะ ต่อให้โดนเท ตอนกลีบลำดวนเริ่มเฉา หรือมะม่วงเผาเริ่มเหี่ยว จนไม่รู้จะเซไปหาใคร หรือมั่นใจแล้วว่าฉันต้องเกาะคานเกิน 90% ก็อย่าได้หาแคร์ไม่ เพราะชีวิตนี้ยังมีอะไรให้ทำอีกมาก อนาคตยังรอเราอยู่

• ได้เวลารักตัวเอง ถูกเทนะไม่ได้ถูกมีดบาด ความเจ็บปวดมันเลยหายไม่ได้ด้วยการทาเบตาดีน ยาแก้ที่ดีที่สุด คือ การร้องไห้ บางคนบอกอย่าไปร้อง เพราะมันแสดงถึงความอ่อนแอ และไม่รู้จักโต แต่เชื่อเถอะว่า ร้องแม่มให้สุด ร้องมันให้หมด เพราะมันคือธรรมชาติของมนุษย์ที่จะช่วยระบายความรู้สึกแย่ๆ ออกมาได้ดีมาก และเมื่อสติของเรากลับมา จงบอกกับตัวเองดังๆ ว่า โคตรเสียเวลา เขาไม่รักก็ต้องรักตัวเอง
• อยู่คนเดียวให้ชิน มันอาจจะยากหน่อย ที่ต้องกลับมาอยู่คนเดียวอีกครั้ง โดยเฉพาะกับคนที่คบหากันมานานๆ บางคนทั้งชีวิตมีเธอหรือเขาเพียงคนเดียว จนเหมือนเขาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตไปแล้ว แต่ในเมื่อเขายังตัดคุณได้ คุณก็ต้องทำได้ อยู่คนเดียวไม่ได้ยาก อยู่ให้ชิน แล้วจะรู้ว่ามันไม่ได้แย่อย่างที่คิด
• ลองในสิ่งที่ไม่เคย อย่าขังตัวเองอยู่ในที่เดิมๆ ทำอะไรเดิมๆ ที่เคยทำ เพราะมันยิ่งทำให้คิดถึงเรื่องเก่าๆ ออกไปทำอะไรที่เคยอยากทำ แต่ยังไม่ได้ทำ กอบโกยความสุขให้ตัวเอง เพราะชีวิตยังมีอีกหลายอย่างที่ทำให้สุขได้ แม้ไม่ได้มีแฟน
• สวยหล่อเข้าไว้ อย่าละเลยที่จะดูแลตัวเอง ทั้งรูปลักษณ์ภายนอก รวมถึงสุขภาพภายใน ยิ่งอายุมากขึ้นยิ่งต้องดูแลเป็นพิเศษ ครีมบำรุง อาหารเสริม การออกกำลังกาย และพักผ่อนให้พอ
• เดินให้ช้าลง ขอบอกเลยว่าไม่ผิดนะ ถ้าท้ายที่สุดคุณจะยังอยากโหยหาใครสักคน แต่ก่อนจะเริ่มต้นใหม่ ก็ต้องลบอะไรเก่าๆ ที่ไม่ดีให้หมด เคลียร์ตัวเอง ทั้งเรื่องความรู้สึก และสิ่งที่ทำให้เป็นปมร้าวจนคุณถูกเท แต่ก็ไม่ได้บอกให้เปลี่ยนความเป็นตัวเองไปนะ เมื่อพร้อมแล้ว ก็ลองมองคนให้มากขึ้น ลองเดินให้ช้าลง อาจจะได้เจอใครที่พร้อมกับวันนี้ของคุณก็ได้

ยังไงซะ ที่ว่ามามันฟังดูเหมือนง่ายที่จะคิดและทำเพื่อคลายปมร้าวในใจให้จางหาย ซึ่งมันก็จะมีช่วงเวลาอมทุกข์ที่สั้นยาวแตกต่างไปตามความเข้มแข็งของแต่ละคน

แต่เชื่อเถอะว่า ถ้าไม่คิดจะดิ่งตึก หรือกรอกยานอนหลับซักโหลไปก่อน คุณจะได้เพลิดเพลินกับโลกของวันพรุ่งนี้ ที่เผลอๆ อาจจะย้อนกลับไปมองช่วงเวลา 7 ปี 10 ปีที่ผ่านมาว่า…‘ไร้สาระชิบเป๋ง’

ขอให้ใครที่โดนเท…ตอนแก่…จงรักตัวเองให้มากขึ้นก่อนในทุกๆ วัน…ก็พอ

รู้แหละว่าโสดตอนแก่ แถมได้ฟีลหนาวมากระตุ้นเฮือกมันรวดร้าว แต่ธรรมชาติของมนุษย์ทุกคน มันผ่านเรื่องแบบนี้ไปได้จริงๆ เชื่อดิ…