ช้างศึก ฟูลทีม ธีรศิลป์, สุภโชค นำทัพ ปะทะ ยูเออี คัดบอลโลกคืนนี้

เช็กความพร้อมเกมคัดบอลโลก โซนเอเชีย นัดที่ 3 กลุ่มจี ช้างศึก ฟูลทีม ส่ง ธีรศิลป์, สุภโชค นำทัพ รับมือ ยูเออี ทุ่มตรงวันนี้ (15 ต.ค.62)

ฟุตบอลกระชับมิตรทีมชาติ

วันพฤหัสบดีที่ 10 ต.ค.62
ทีมชาติไทย (114) พบ คองโก (90)
สนามลีโอ สเตเดี้ยม 19.00 น. (ไทยรัฐทีวี)

ความพร้อมทีมช้างศึก ของกุนซือ อากิระ นิชิโนะ ที่ 2 เกมแรก พาทีมเปิดบ้านเสมอเวียดนาม 0-0 และบุกไปถล่มอินโดนิเซีย 3-0 มีอยู่ 4 คะแนน รั้งอันดับสองของตาราง สภาพความพร้อมถือว่าสมบูรณ์กว่าเกมอุ่นเครื่องกับคองโก เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (10 ต.ค.62) เพราะบรรดาแข้งที่มีอาการบาดเจ็บก่อนหน้านี้อย่าง พรรษา เหมวิบูลย์, นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม, สุภโชค สารชาติ และ ธีราทร บุญมาทัน ก็กลับมาฟิตสมบูรณ์พร้อมลงสนามได้ทั้งหมด จะมีก็แต่เพียง ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ที่มีอาการบาดเจ็บเล็กน้อยมาจากเกมอุ่นเครื่องกับคองโก ก็น่าจะทำให้ต้องออกสตาร์ทที่ม้านั่งสำรองไปก่อน

ส่วนแกนหลักในเกมนี้ก็น่าจะกลับไปยึดแผนการเล่นและตัวผู้เล่นหลักๆ จากเกมที่ชนะอินโด โดยแผนการเล่นจะใช้ระบบ 4-2-3-1 เหมือนเดิม ผู้รักษาประตู ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน น่าจะกลับมาเฝ้าเสาพร้อมสวมปลอกแขนกัปตันทีมอีกครั้ง แนวรับ มี พรรษา เหมวิบูลย์ กับ มานูเอล ทอม เบียห์ร ยืนเป็นคู่เซ็นเตอร์ แบ็กขวาจะเป็นโอกาสของ นิติพงษ์ เสลานนท์ ที่ดชว์ฟอร์มได้ดีในเกมอุ่นเครื่อง ส่วนทางซ้าย โก๋อุ้ม พร้อมประจำการ

แดนกลาง สารัช อยู่เย็น ยังคุมเกมร่วมกับ พิธิวัต สุขจิตธรรมกุล โดยมี 3 ตัวรุกอย่าง เอกนิษฐ์ ปัญญา, ศุภชัย ใจเด็ด และ สุภโชค สารชาติ และหน้าเป้าคือ ธีรศิลป์ แดงดา ที่ลงล่าตาข่าย

สำหรับรายชื่อ 11 ตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนาม ระบบ 4-2-3-1 ประกอบไปด้วย

ผู้รักษาประตู : ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน (GK)

กองหลัง :นิติพงษ์ เสลานนท์ / มานูเอล ทอม / พรรษา เหมวิบูลย์ / ธีราทร บุญมาทัน

กองกลางตัวรับ : สารัช อยู่เย็น / พิธิวัต สุขจิตธรรมกุล

ตัวรุก 3 คน : เอกนิษฐ์ ปัญญา / ศุภชัย ใจเด็ด / สุภโชค สารชาติ

หน้าเป้า : ธีรศิลป์ แดงดา

ขณะที่ทีมเยือนอย่างยูเออี ของกุนซือ เบิร์ต ฟาน มาร์ไวค์ ชาวฮอลแลนด์ ที่พาทีมชนะรวดมา 2 นัด กับ มาเลเซีย 2-1 และเกมล่าสุดถล่มอินโดฯ 5-0 นำเป็นจ่าฝูงกลุ่มจี สภาพทีมพวกเขาได้ โอมาร์ อับดุลราห์มาน จอมทัพตัวเก่ง กับ อาเหม็ด คาลิล กองหน้าตัวความหวังหายเจ็บกลับมา และก็ได้ประเดิมลงสนามเป้นสำรองในเกมล่าสุดมาทั้งคู่ ซึ่งต้องรอดูว่าเกมนี้ โอมาร์ กับ คาลิล จะได้ลงเล่นเป็นตัวจริงเลยหรือเปล่า

ส่วนแกนหลักที่ลงเล่นมาตลอดสองเกมที่ผ่านมา ก็จะมี อาลี มับคูต กองหน้าตัวเก่งที่ชอบยิงทีมชาติไทย อาลี ซาเล่ห์ ปีกตัวจี๊ด และก็มีนายทวารจอมเหนียวหนึบอย่าง คาลิด อิสซ่า ลงเฝ้าเสา

เกมนี้ถือเป็นงานหนักของทีมชาติไทย ที่หากต้องการจะผ่านเข้าสู่รอบ 12 ทีมสุดท้ายในฐานะแชมป์กลุ่ม ก็ต้องผ่านเกมนี้ไปให้ได้ ด้วยการเก็บสามแต้ม แต่ดูแล้วคงไม่ใช่เรื่องง่าย แต่การได้ 1 แต้มกับยูเออี จะว่าไปก็ไม่ได้เสียหายอะไรมากนัก อย่างไรก็ตามเราห้ามแพ้เด็ดขาด หากต้องการเข้ารอบ ซึ่งก็ต้องมาลุ้นกันว่าทีมชาติไทยของเราจะเก็บแต้มจากยูเออี ได้หรือไม่ ขอบสนามฟันธงเกมนี้ ไทยไม่แพ้ มีโอกาสเฉือนชนะ แต่น่าจะออกมาเสมอกัน 1-1