**เช็กความพร้อมฟุตบอลยู-23 ชิงแชมป์เอเชีย รอบ 8 ทีมสุดท้าย ช้างศึก ปะทะ ซาอุดิอาระเบีย เพื่อลุ้นเข้ารอบรองชนะเลิศ 18 ม.ค.นี้ ที่ ม.ธรรมศาสตร์
ฟุตบอลยู-23 ชิงแชมป์เอเชีย (รอบ 8 ทีม)
วันเสาร์ที่ 18 ม.ค.63
ซาอุดิอาระเบีย พบ ทีมชาติไทย
สนาม ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต 17.15 น. (ช่อง 7 HD)
ความพร้อมทัพช้างศึกจูเนียร์ ของ อากิระ นิชิโนะ หลังสามารถผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายมาได้ ในฐานะรองแชมป์กลุ่มเอ ด้วยการชนะบาห์เรน 5-0 ,แพ้ออสเตรเลีย 1-2 และเกมล่าสุดเสมออิรัก 1-1 เก็บได้ 4 คะแนน
สภาพทีมถือว่าพร้อมทุกขุมกำลัง อยู่ที่ว่ากุนซือซามูไรจะเลือกใครลงสนาม แต่คาดว่าน่าจะกลับมาใช้ผู้เล่นชุดหลักเหมือนกับสองเกมแรกที่ผ่านมา โดยทั้ง สุภโชค สารชาติ และ ศุภชัย ใจเด็ด น่าจะกลับมาเป็นตัวจริง ประสานงานร่วมกับ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา และ อานนท์ อมรเลิศศํกดิ์ โดยมี เบนจามิน เดวิส ที่ได้คำชมจากเกมที่แล้วเป็นตัวสอดแทรก
ตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนาม ในระบบ 4-2-3-1
ผู้รักษาประตู : กรพัฒน์ นารีจันทร์
กองหลัง : มีโชค มหาศรานุกูล / ชินภัทร์ ลีเอาะ / ศฤงคาร พรหมสุภะ / ทิตาธร อักษรศรี
กองกลาง : กฤษดา กาแมน / สรวิทย์ พานทอง
ตัวรุก 3 คน : อานนท์ อมรเลิศศักด์ / สุภโชค สารชาติ / ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา
กองหน้า : ศุภชัย ใจเด็ด
ส่วนทีมเศรษฐีน้ำมัน ของกุนซือ ซาอัด อัล เชอร์รี่ ที่ผ่านเข้ารอบมาด้วยการเป็นแชมป์กลุ่มบี ด้วยผลงานชนะ ญี่ปุ่น 2-1, เสมอกาตาร์ 0-0 และ ชนะซีเรีย เกมล่าสุด 1-0 เก็บได้ 7 คะแนน ถือว่าเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมมาก
โดยผู้เล่นที่เป็นตัวอันตรายของซาอุฯ ประกอบไปด้วยกองหน้าตัวความหวังอย่าง ฟิราส อัล บุรัยกัน และมีจอมทัพอย่าง อาลี อัล ฮัสซัน พร้อมทั้งปีกตัวจี๊ดทั้งสองข้าง คอลิด อัล กานนัม และ ซาอัด อัล เซโลลี่
โดยไทย กับ ซาอุฯ เจอกันมาแล้วครั้งนึงในเกมอุ่นเครื่องก่อนเริ่มทัวร์นาเม้นท์ โดยทีมจากแดนอาหรับชนะไปได้ 1-0 ซึ่งเกมนี้คาดว่า ทีมชาติไทย จะเน้นเกมเพรสซิ่งที่ถนัด และคอยใช้จังหวะเข้าทำเร็วเหมือนนัดที่ผ่านๆ มา แม้ฟอร์มโดยรวมดูจะเป็นรอง แต่ถ้าแข้งช้างศึกรับเหนียวแน่น และใช้โอกาสไม่เปลืองก็มีลุ้นเหมือนกัน เกมนี้ขอบสนามขอไม่ฟันธงละกัน เพราะฟันธงทีไรไทยผลงานไม่ดีทุกที เอาเป็นว่าในฐานะคนไทย ขอส่งแรงใจส่งให้แข้งช้างศึกเต็มที่ เพื่อสร้างประวัติศาสตร์ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศให้ได้ และเพิ่มโอกาสลุ้นตั๋วไปโอลิมปิก 2020 ต่อไป