โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

กีฬา

"ช้างศึก" ถล่ม "อิเหนา" 4-2 จ่อเข้ารอบ2"ซูซูกิคัพ"

เดลินิวส์

อัพเดต 17 พ.ย. 2561 เวลา 13.36 น. • เผยแพร่ 17 พ.ย. 2561 เวลา 13.31 น. • Dailynews
“ช้างศึก” เปิดบ้านถล่ม “อิเหนา” หายห่วง 4-2 “กรกช-ไกรษร-ปกเกล้า” ยิงคนละลูกอย่างเหนือชั้น เก็บชัยนะ 2 นัดรวด จ่อเข้ารอบ 2 ศึกลูกหนัง “ซูซูกิ คัพ” เต็มแก่ นัดหน้า บุกไปเยือน “ฟิลิปปินส์” 21 พ.ย. เวลา 18.30 น.

ศึกฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน 2018 "เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ 2018" เมื่อวันที่ 17 พ.ย. ในกลุ่ม B "ช้างศึก" ทีมชาติไทย เปิดสนามราชมังคลากีฬาสถาน พบกับ "อิเหนา" อินโดนีเซีย โดย "ช้างศึก" ดีกรีแชมป์ 5 สมัย ลุ้นสร้างประวัติศาสตร์เป็นทีมแรกที่คว้าแชมป์ 3 สมัยติดต่อกัน โดยนัดแรก ไทย ถล่ม ติมอร์เลสเต 7-0 ขณะที่ "แข้งการูดา" เตะมา 2 นัด นัดแรก บุกไปแพ้ สิงคโปร์ 0-1 และเล่นในบ้านชนะ ติมอร์เลสเต 3-1

สถิติระหว่าง ไทย กับ อินโดนีเซีย ที่ "ฟีฟ่า" บันทึกไว้ เจอกันมา 66 ครั้ง ไทย ชนะ 31 เสมอ 18 และ อินโดนีเซีย ชนะ 17 ครั้ง ส่วนในศึกชิงแชมป์อาเซียน ล่าสุด เมื่อ 2 ปีก่อน เจอกัน 3 ครั้ง รอบแรก ที่ฟิลิปปินส์ นัดเปิดสนาม ไทย ชนะ 4-2 จากนั้นรอบชิงชนะเลิศ นัดแรก อินโดนีเซีย เล่นในบ้านชนะ 2-1 ก่อนที่ ไทย จะกลับเอาคืน ชนะ 2-0 คว้าแชมป์มาครอง รายการนี้ "ช้างศึก" เล่นในถิ่นตัวเองแข็งแกร่ง แพ้แค่หนเดียวต่อ เวียดนาม ในรอบชิงชนะเลิศ เมื่อปี 2008 นัดแรก ด้วยสกอร์ 1-2

เกมนี้ มิโลวาน ราเยวัช กุนซือใหญ่ของทีมไทย เปลี่ยนนักเตะจากนัดแรกเพียงตำแหน่งเดียวเท่านั้น ในระบบ 4-3-3 ผู้รักษาประตู ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน, เซ็นเตอร์ เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว (กัปตันทีม), พรรษา เหมวิบูลย์, แบ๊กขวา ฟิลิป, แบ๊กซ้าย กรกช วิริยอุดมศิริ, กองกลาง ธนบูรณ์ เกษารัตน์ กับ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ โดยมี สรรวัชญ์ เดชมิตร เป็นตัวรุก, ริมเส้นขวา-ซ้าย มงคล ทศไกร กับ นูรูล ศรียานเก็ม โดยมี "กอล์ฟ" อดิศักดิ์ ไกรษร ที่นัดแรกระเบิดฟอร์มยิงคนเดียว 6 ลูก เป็นกองหน้าตัวเป้า

ฝั่ง อินโดนีเซีย ของกุนซือ บิมา ซักติ หลังพิงฝาจะแพ้อีกไม่ได้แล้ว ส่ง สเตฟาโน ลิลิปาลี กองหน้าวัย 28 ปี ที่นัดล่าสุดลงเป็นตัวสำรอง ยิงประตูนำติมอร์ฯ 2-1 กลับมาเป็นตัวจริง ผนึกกำลังกับ อัลแบร์โต กอนซัลเวส กองหน้าจอมเก๋าวัย 37 ปี โดยมี อันดิก เวอร์มันซาห์ ลากเลื้อยริมเส้น

เริ่มครึ่งแรก ไทย ครองบอลได้มากกว่า แต่ อินโดนีเซีย ก็โต้กลับได้อย่างน่ากลัว นาทีที่ 26 สเตฟาโน ลิลิปาลี หลุดเดี่ยวเข้าไปยิงติดขา ศิวรักษ์ ออกข้างไป "ช้างศึก" รอดเสียประตูอย่างเหลือเชื่อ นาทีที่ 30 อินโดนีเซีย ได้เตะมุมเปิดเข้ากลางมาให้ ซัลเฟียนดี ยิงไกลเต็มข้อ บอลพุ่งเสียบมุมเสาแรกเข้าไปอย่างงดงาม ขึ้นนำ 1-0

แต่นาทีที่ 37 ไทย ตามตีเสมอได้สำเร็จ จากจังหวะการปั่นไซด์โค้งลูกเตะมุมของ กรกช วิริยอุดมศิริ บอลลอยชนเสาไกลเข้าประตูไปอย่างงดงาม ช่วงทดเวลาเจ็บ กองเชียร์ไทย ได้เฮลั่น หลัง กรกช คนเดิม ปั่นฟรีคิกเข้าไปหน้าประตู กองหลังอิเหนา เคลียร์บอลไม่ขาดลูกมาเข้าทาง พรรษา เหมวิบูลย์ ซ้ำเน้นๆ เข้าไป จบครึ่งแรก ไทย แซงนำ 2-1

ครึ่งหลัง ไทย ส่ง ปกเกล้า อนันต์ แทน มงคล ทศไกร นาทีที่ 64 ก็มาได้ประตูหนีห่าง 3-1 จาก อดิศักดิ์ ไกรษร ใช้ความสามารถเฉพาะตัวพลิกบอลหนีสองผู้เล่นอินโดนีเซีย เข้าไปยิงตุงตาข่าย เป็นลูกที่ 7 ของตัวเองในรายการนี้ จากนั้น ราเยวัช เปลี่ยนเอา ศุภชัย ใจเด็ด ลงมาแทน นูรูล ศรียานเก็ม

นาทีที่ 74 สรรวัชญ์ เดชมิตร จ่ายบอลทะลุช่องให้ ปกเกล้า เพื่อนร่วมทีม แบงค็อก ยูไนเต็ด หลุดเข้าไปยิงบอลข้ามหัวประตูอินโดฯ เข้าประตูไปอย่างเหนือชั้น แต่นาทีที่ 88 ทีมเยือน ไล่มาเป็น 2-4 จากการโหม่งของ ฟารุดดิน อาร์ยานโต จบเกม "ช้างศึก" จึงชนะไป 4-2 คว้าชัยชนะ 2 นัดรวด มี 6 คะแนน โอกาสเข้ารอบ 2 อยู่แค่เอื้อม ส่วน อินโดนีเซีย ชนะ 1 นัด แพ้ 2 นัด มีแค่ 3 แต้มเท่านั้น นัดต่อไป ไทย จะไปเยือน ฟิลิปปินส์ วันที่ 21 พ.ย.นี้ เวลา 18.30 น.

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0