ศึกฟุตบอลเอเชี่ยนคัพ 2019 ที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) เมื่อวันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย "ช้างศึก" ทีมชาติไทย อันดับ 118 ของโลก และอันดับ 22 ของเอเชีย พบกับ "พญามังกร" ทีมชาติจีน อันดับ 76 ของโลก และอันดับ 7 ของเอเชีย คู่นี้เตะกันที่ฮัสซา บิน ซายิด สเตเดี้ยม เมืองอัล ไอน์
สถิติการเจอกัน 25 ครั้ง จีน ชนะ 17 นัด เสมอ 3 นัด ไทย ชนะ 5 นัด ครั้งล่าสุดที่พบกันในเกมกระชับมิตร เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.61 ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน จีน บุกมาชนะ 2-0 โดย อู๋ เล่ย ยิงทั้ง 2 ลูก
เกมนี้ "โค้ชโต่ย" ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย เฮดโค้ชช้างศึก จัดทัพ 3-5-2 ดังนี้ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน เป็นผู้รักษาประตู, เซนเตอร์ฮาล์ฟ เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว, มิก้า ชูนวลศรี, พรรษา เหมวิบูลย์, แบ๊กซ้าย-ขวา "อุ้ม" ธีราทร บุญมาทัน-ทริสตอง โด, กองกลาง ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, ธนบูรณ์ เกษารัตน์ มี "เมสซี่เจ" ชนาธิป สรงกระสินธ์ เล่นตัวรุก สนับสนุนคู่หอก "มุ้ย" ธีรศิลป์ แดงดา กัปตันทีม กับ "อาร์ม" ศุภชัย ใจเด็ด
ส่วน มาร์เซลโล ลิปปี กุนซือใหญ่ของจีน ได้ อู๋ เล่ย กองหน้าตัวเก่ง ที่หายเจ็บกลับมาลงเป็นตังจริง รวมทั้ง หาว จุ้นหมิ่น เพลย์เมกเกอร์ตัวเก่ง กับ หยู ต้าเป่า กองหน้า ที่ยิงไป 2 ลูก และ เกา หลิน ลงสนาม
ครึ่งแรก จีน เปิดเกมรุกเข้าใส่ทันที แต่ "ช้างศึก" ก็ไม่ได้เกรงกลัวศักดิ์ศรี ใช้เกมโต้กลับเข้าแลกอย่างสนุก นาทีที่ 23 ธีราทร บุญมาทัน ยิงฟรีคิกด้านขวาบอลจะเสียบใต้คานอยู่แล้ว แต่ หยาน จุ้น หลิง ผู้รักษาประตูจีน โดดปัดออกไปหวุดหวิด นาทีที่ 26 ไทยเกือบเสียประตู เมื่อ อู่ ซี กระดกบอลให้ อู๋ เล่ย หลุดเข้าไปซัดในเขตโทษ แต่ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ออกมาเร็วเซฟออกไปได้ นาทีที่ 27 ศุภชัย ใจเด็ด ได้โอกาสตวัดยิงออกข้างไปแบบมีลุ้นอีกครั้ง
นาทีที่ 31 กองเชียร์ไทยได้เฮทั้งประเทศ เมื่อ ธีราทร เตะมุมฝั่งซ้าย บอลมาเข้าทางปืน ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ อัดเต็มแรงเข้าไปหน้าประตูบอลไปถึง "อาร์ม" ศุภชัย จับลูกหนึ่งจังหวะก่อนจะตวัดยิงด้วยขวาบอลเสียบเสาแรกเข้าไปอย่างสวยงามช่วยให้ "ช้างศึก" ขึ้นนำ 1-0 จากนั้นยิงประตูเพิ่มไม่ได้ จบ 45 นาทีแรก "ช้างศึก" ขึ้นนำอยู่ 1-0
ครึ่งหลัง จีน เปิดเกมรุกเข้าใส่อย่างหนักหวังตีเสมอให้ได้ นาทีที่ 60 หยู ต้าเป่า หลุดเข้าไปยิงติดเซฟของศิวรักษ์ ออกไปเหลือเชื่อ จากนั้นอีก 2 นาที ไทย เปลี่ยนตัวสำรองคนแรก ส่ง "ทู" ชนานันท์ ป้อมบุบผา ลงมาแทน ศุภชัย แต่นาทีที่ 67 จีน ตามตีเสมอ 1-1 จนได้ จากการยิงของ เสี่ยว จือ นาทีที่ 67
ถัดมาอีก 4 นาที เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว ไปเสียบสกัด เกา หลิน ล้มในกรอบเขตโทษ กรรมการ เป่าเป็นลูกจุดโทษ และ เกา หลิน ก็ลุกขึ้นมายิงไม่พลาด ช่วยให้ จีน แซงนำ 2-1 ช่วงท้ายเกม ไทย เร่งฮึดจนเกือบตีเสมอได้เช่นกัน แต่สุดท้ายทำไม่สำเร็จ จบเกม ไทย จึงแพ้ไป 1-2 อดสร้างประวัติศาสตร์เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย ไปอย่างน่าเสียดาย โดยรอบ 8 ทีม จีน จะเข้าไปพบกับผู้ชนะระหว่าง อิหร่าน หรือ โอมาน วันที่ 24 ม.ค.ต่อไป
ส่วนผลอีกคู่ "ดาวทอง" เวียดนาม ชนะจุดโทษ จอร์แดน 4-2 (ในเวลา 120 นาที เสมอกัน 1-1) สร้างประวัติศาสตร์เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ โดยจะไปรอพบกับผู้ชนะระหว่าง ญี่ปุ่น หรือ ซาอุดิอาระเบีย
