สาววัย 26 ปี อยู่ที่ระยอง มีลูกชายหัวเรียงกันมา 4 คน จาก 2 สามี คนโต 8 ขวบ คนเล็ก 4 เดือน ก่อนที่สามีจะถูกจับติดคุก แม่ผัวก็ไม่ดูดำดูดี สุดท้ายต้องออกมาเช่าบ้าน ตัวเองไปทำงานรับจ้าง ให้ลูกๆ ดูแลกันเอง
จากกรณีเฟซบุ๊กของผู้ที่ใช้ชื่อว่า Mai Maijung Ngawkainum เนื้อหาระบุว่า มีคุณแม่ลูก 4 ใช้ชีวิตอย่างขัดสน ทุกวันต้องทิ้งลูกคนเล็กวัย 4 เดือน ไว้กับพี่ชายวัย 8 ปี ดูแล พี่ชายไม่ได้เรียนหนังสือ สมาชิกของครอบครัวคุณแม่ลูก 4 ประกอบด้วย เด็กชายธนพล พลยะมาตย์ อายุ 8 ปี เด็กชายอรรถพล พลยะมาตย์ อายุ 6 ปี เด็กชายพุฒิภัทร แสงมณี อายุ 2 ปี และเด็กชายศราวุฒ แสงมณี อายุ 4 เดือน ซึ่งโพสต์ดังกล่าวมีคนแชร์กันต่อ ทำให้มีผู้ใจบุญเริ่มทยอยนำข้าวสาร, อาหารแห้ง, นม และของใช้เด็กรวมทั้งของเล่นมาให้
เวลา 15.00 น. ของวันที่ 15 พ.ย.61 ที่บ้านเช่าเลขที่ 640/3 หมู่ 5 ตำบลแม่น้ำคู้ อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง ผู้สื่อข่าวได้พบกับ นางสาวรัดดา รัตณะมงคล อายุ 26 ปี สอบถามถึงเรื่องราวที่เป็นกระแสอยู่โลกโซเชียล ที่ต้องทิ้งลูก 4 คน เพื่อออกไปทำงาน โดยนางสาวรัดดา เล่าว่า เมื่อก่อนตนอยู่ที่บ้านเลขที่ 69/65 หมู่ 5 ตำบลสำนักสะท้อน อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง เพิ่งย้ายมาอยู่ที่อำเภอปลวกแดงได้ 4 เดือน ซึ่งไม่ได้เป็นคนเอาเรื่องไปลงในโซเชียล แต่เป็นเพื่อนที่มาเยี่ยมและมาเห็นสภาพการกินอยู่ของตน ที่เลี้ยงลูกชายตามลำพัง และทิ้งลูกชายวัย 4 เดือนให้อยู่กับลูกชายอีก 3 คน ส่วนตนต้องไปรับจ้างตัดต้นยาง ไม่อย่างนั้นก็ไม่มีเงินมาจ่ายค่าเช่าบ้าน ค่าอาหาร และค่านมลูก เพื่อนจึงนำเรื่องของตนไปลงในเฟซฯ
นางสาวรัดดาเล่าต่ออีกว่า ตนมีบุตรชายทั้งหมด 4 คน โดยเด็กชายธนพล พลยะมาตย์ อายุ 8 ปี เด็กชายอรรถพล พลยะมาตย์ อายุ 6 ปี เป็นบุตรของตนกับแฟนเก่าชื่อนายวิทยา พลยะมาตย์ แต่ได้แยกทางกันไปแล้วเมื่อ 7 ปีที่แล้ว ต่อมาจึงได้แฟนใหม่และมีลูกอีก 2 คนคือ เด็กชายพุฒิภัทร แสงมณี อายุ 2 ปี และเด็กชายศราวุฒ แสงมณี อายุ 4 เดือน ขณะที่แฟนคนปัจจุบันถูกจำคุกอยู่ที่เรือนจำระยอง โทษ 2 ปี แต่ติดคุกไปแล้วประมาณ 1 ปี ในข้อหาเสพยาบ้าและร่วมกับเพื่อนมียาบ้าไว้ในครอบครอง จึงทำให้ตนต้องอยู่กับแม่แฟนที่อำเภอบ้านฉาง ส่วนแม่แฟนก็ไม่ได้สนใจอะไรกับลูกๆ ตน จะปรึกษาหารืออะไรก็ไม่สนับสนุน ไม่ให้คำปรึกษา แถมจะด่าว่าอีก
"แกชอบด่าว่าลูกหนู จนลูกชายคนโตบอก ”แม่จ๋าเราไปอยู่ที่อื่นกันเถอะ” ดังนั้นพอเก็บเงินได้นิดหน่อยก็ย้ายมาเช่าบ้านแห่งนี้อยู่ในราคาเดือนละ 1,500 บาท อยู่มาได้ 4 เดือนแล้ว เมื่อมาอยู่ที่ปลวกแดงก็ไปรับจ้างตัดต้นไม้ เช่น ไม้ยาง และไม้อื่นๆ แล้วแต่เขาจะจ้าง ซึ่งก็ไม่ได้มีงานทุกวัน ได้เงินประมาณเดือนละประมาณ 5,000 บาท ส่วนตอนที่อยู่บ้านฉางมีอาชีพขายมะม่วงและขายอาหารโดยขี่รถจักรยานยนต์วิ่งขาย รายได้ก็ดีกว่าอยู่ที่นี่ ลูกชาย 2 คนแรกเคยเรียนหนังสืออยู่ที่บ้านฉาง แต่พอย้ายมาอยู่ที่นี่ก็ยังไม่ได้เรียน แต่ทางกำนันได้ติดต่อโรงเรียนนิคมสร้างตนเองจังหวัดระยอง 8 ไว้ให้แล้ว ก็จะให้ลูกาชายทั้ง 3 ไปเรียนหนังสือ ส่วนลูกคนเล็กวัย 4 เดือนจะจ้างเขาเลี้ยงแล้วตัวเองจะได้ออกหางานทำได้อย่างสบายใจ" นางสาวรัดดา กล่าว
ขณะที่ผู้สื่อข่าวกำลังพูดคุยอยู่กับนางสาวรัดดา ได้มีผู้ใจบุญนำของมาให้ เช่น นางสาวกันยา ศิริวรรณและเพื่อน นำข้าวสาร อาหารแห้ง ขนม นม และของใช้ที่จำเป็น และยังมีของเล่นของเด็กด้วย ทำให้นางสาวรัดดากล่าวขอบคุณทุกคนที่นำข้าวของมาให้ตนและลูกๆ
ส่วนความช่วยเหลือของทางราชการ กำนันนพพร หลำเจริญ กำนันตำบลแม่น้ำคู้ บอกว่า ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่สาธารณสุข องค์การบริหารส่วนตำบลแม่น้ำคู้ เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและมนุษย์จังหวัดระยอง ผู้อำนวยการโรงเรียนนิคมสร้างตนเองจังหวัดระยอง 8 ปลัดอำเภอปลวกแดงตัวแทนนายอำเภอปลวกแดง ตัวแทนนายกเหล่ากาชาดจังหวัดระยอง มาเพื่อหาทางช่วยเหลือต่อไป ซึ่งวันนี้ก็ได้พาเด็กไปย้ายเข้ามาอยู่ที่ทะเบียนบ้านของตนเพื่อสะดวกในการยื่นขอความช่วยเหลือ.
