27 พ.ค. 62 - นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย โพสต์เรื่อง“สินสอดแพง อยู่กันไม่ยืด” เผยแพร่ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยมีเนื้อหาดังนี้
มองหน้าทะลุใจกลุ่มก๊วนพลังประชารัฐแล้วพูดไม่ออกบอกไม่ถูก ที่โดนโก่งราคาค่าตัว "เจ้าสาวการเมือง” จนอ่วมอรทัยแทบหมดตัว
วันนี้ แห่ขบวนขันหมากไปหมั้น 2 สาวพร้อมกัน ทั้ง “สาวใต้ “ กับ “สาวสังคม” คงเหลือแค่เศษสตางค์ติดกระเป๋า ไม่พอกลับไปสร้างเรือนหอรอรัก ได้แต่ "หน้าชื่น อกตรม ขมรักกันถ้วนพรรค“ เพราะต้องรักษาหน้าผู้ใหญ่เอาไว้ ที่บังคับให้มาจ่ายค่า “สินสอด ทองหมั้น“ สุดโหด เกินปัญญาจ่าย แถมยังถูกปล้นกลางทางตอนเคลื่อนขบวนขันหมากไปเสียอีกด้วย
นึกถึงหัวอกของเจ้าบ่าวพลังประชารัฐ คงไม่เหลือตำแหน่งเอาไว้สร้างฐานะ เพราะหลากหลายกลุ่มก๊วน ไปถัวเฉลี่ยยังไงก็ไม่ลงตัว
หลังตกร่องปล่องชิ้น ย้ายไปอยู่กินด้วยกัน กำลังข้าวใหม่ปลามัน คงต้องปล่อยเลยตามเลย แต่ที่จะให้อยู่ร่วมกันจนหม้อข้าวดำนั้นอย่าได้ไปหวัง เพราะไม่เหลืออะไรติดก้นครัวไว้กินมื้อหน้า
น่าสงสารพลังประชารัฐ ต้องยอมเป็นพรรคแกนนำที่ยากจนข้นแค้นที่สุด เพื่อคงอำนาจไว้ให้ผู้ใหญ่สายเขียว
ตอนสวมแหวนหมั้น เจ้าสาวคงเอ่ยวจีหวานแหวว ไพเราะเสนาะหูพยานในงานว่า
“ยอมกล้ำกลืนฝืนทน ให้ชาวบ้านด่า เสียสัตย์เพื่อชาติ ให้บ้านเมืองเดินหน้าได้“
มันผิดไปจากที่ผมพูดก่อนเลือกตั้งเสียเมื่อไหร่?
ที่พร่ำเพ้อบอกว่า
“นับถือ เคารพ บูชา คนที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนเท่านั้น”
หรือ “ฟังฉันช้าๆ ชัดๆ ไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี “
ยังก้องอยู่ในโสตประสาทชาวโซเชียล เปิดไล่ดู "ยูทูบ" ย้อนหลังกลับไปกลับมา มีทั้งภาพ ทั้งเสียง แจ่มชัด
เอาไว้รอจนถึงวันที่เลือกนายกฯดีกว่า ว่าจะมีเศษเหลือของคำว่า “ศักดิ์ศรี” อยู่หรือไม่? ตอนต้องเปล่งวาจาออกจากปากว่า
“สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี”
แท้จริงแล้วก็แค่ "กลืนน้ำลายตัวเอง" เสียงดังเอื๊อกๆ ผ่านไปเท่านั้นเอง
ขออย่าให้ไปกระเด็นใส่คนอื่นก็แล้วกัน เพราะมัน ”เหม็นขี้ฟัน” เสียเหลือทน