ช็อก! ครูสาวตายเปลือย 3 วันในห้องน้ำบ้านพัก ถูกรัดคอ น้ำลายฟูมปาก เจอพิรุธที่โถส้วม เพื่อนบ้านเผยหายตัวไปตั้งแต่วันครู ตอนแรกนึกว่าป่วย ตำรวจเร่งพิสูจน์หาความจริง
ครูสาวตายเปลือย วันที่ 18 ม.ค. ร.ต.อ.ประเสริฐ เดชสุภาพ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิตเปลือยภายในห้องน้ำบ้านพักเลขที่ 189/43 หมู่บ้านพาขวัญ 2 ถนนพระยาศรีสุนทร ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวรโรงพยาบาลพุทธโสธร และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา
ที่เกิดเหตุพบรอยเลือดหยดเป็นทางยาวภายในบ้าน จากการตรวจสอบภายในห้องน้ำชั้น 2 ของตัวบ้าน พบศพ น.ส.เนติมา พัฒนากุล หรือครูเน อายุ 40 ปี ผู้ช่วยคณบดีโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ และอดีตประธานสาขาการสอนภาษาไทย คณะคุรุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ สภาพนอนหงายเปลือยกาย มีผ้าขนหนูสีชมพูคลุมศรีษะลงไปจนถึงขาทั้งสองข้าง บริเวณลำคอมีผ้าขนหนูสีชมพูผูกรัดอยู่ น้ำลายฟูมปาก บริเวณโถส้วมมีร่องรอยการเคลื่อนจากตำแหน่งเดิม ในเบื้องต้นไม่พบร่องรอยการต่อสู้ คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 วัน ส่วนรถยนต์และรถจยย.ของผู้ตายยังจอดอยู่ มีเพียงโทรศัพท์มือถือของผู้ตายที่หายไป
กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
จากการสอบถามเพื่อนบ้าน ทราบว่า ผู้ตายอยู่บ้านเพียงลำพัง มักจะเดินทางไปสอนโดยขี่รถจยย.ในช่วงเช้า และจะกลับเข้ามาในช่วงมืดของทุกวัน กระทั่งเมื่อวันที่ 16 ม.ค.ที่ผ่านมาซึ่งเป็นวันครู ไม่เห็นอาจารย์ออกมาจากบ้าน โดยปกติแล้วผู้ตายต้องไปร่วมกิจกรรมที่มหาวิทยาลัย แต่เพื่อนบ้านคิดว่าผู้ตายอาจจะป่วย
จนมาวันนี้เพื่อนๆ ครู ที่มหาวิทยาลัยเห็นผิดสังเกต จึงโทรศัพท์แต่ไม่สามารถติดต่อได้ ก่อนพากันมาที่บ้านพัก แต่กลับพบว่าบ้านปิดประตูใส่กุญแจ เหมือนไม่มีใครอยู่บ้าน จึงโทรศัพท์ไปหาแม่ของผู้ตาย ที่ ต.กุฏโง้ง อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี เพื่อสอบถามว่าผู้ตายกลับไปที่บ้านหรือไม่ แต่ได้รับคำตอบว่าผู้ตายไม่ได้กลับมา จึงรีบนำกุญแจสำรองมาเปิดบ้านกระทั่งพบศพดังกล่าว
ด้าน ร.ต.อ.ประเสริฐ เปิดเผยว่า เบื้องต้นยังคงตั้งไว้หลายประเด็น ซึ่งขณะนี้อยู่ในการสอบสวนญาติและคนสนิทของผู้เสียชีวิตอีกจำนวนหลายปาก เนื่องจากบ้านพักของผู้ตายไม่มีร่องรอยการงัดแงะ และไม่พบร่องรอยการรื้อค้น จึงได้มอบให้เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา นำศพผู้เสียชีวิตส่งสถาบันนิติเวช เพื่อตรวจสอบว่ามีคราบอสุจิในตัวของผู้ตายหรือไม่ และเล็บมือของผู้ตายมีชิ้นเนื้อ หรือดีเอ็นอื่นติดอยู่หรือไม่ เพื่อนำผลมาประกอบหาสาเหตุของการเสียชีวิต
