การเมืองในและนอกสภา ว่า เล่นกับไฟ เมื่อเกมการเมืองในสภาถึงจุดจบ พรรคอนาคตใหม่ไปไม่ถึงสุดทาง ส.ส.ผู้ทรงเกียรติเดินเรียงแถวเข้าตลาดซื้อขายตัว เหมือนวัวควาย
การอภิปรายไม่ไว้วางใจ ไม่มีทางล้มรัฐบาลได้เลยสักครั้ง เกมการเมืองนอกสภาจึงเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะนักการเมืองที่ล้มรัฐบาลในสภาไม่สำเร็จ เลือกออกมาเล่นการเมืองนอกสภา ยืมมือพลังบริสุทธิ์ของประชาชนที่วาดฝันเหมือนดังในอดีต
หากวันใดที่คุมไฟไม่อยู่ เปลวแห่ง “ประชาธิปไตย” ย่อมแผดเผา เพราะว่าการเมืองในสภานั้น ไม่ได้ต้องการคนบริสุทธิ์ผุดผ่อง สดใส มองโลกสวย แต่กลับต้องการคนที่แข็งแกร่ง กร้านประสบการณ์ ครบเครื่องเรื่องลูกล่อลูกชน ยอมแม้กระทั่งกลืนเลือดตัวเอง รอสะสมบารมีเพื่อรวบรวมพลังสะสางภารกิจที่สัญญาไว้กับประชาชน
มันต้องใช้เวลานานจนเกินไป หนทางลัดเช่นการเมืองนอกสภาจึงเป็นทางออก ทว่า การเมืองในสภากับนอกสภานั้นแตกต่างกัน เพราะในสภาอยู่ท่ามกลางนักการเมืองที่เชี่ยวกราก หลอกกันยาก ต่างคนต่างไม่ยอมสละอำนาจกันง่ายๆ
แต่การเมืองนอกสภานั้น มันหลอกกันง่ายด้วยการสร้างฝันที่โดนใจกับสังคมในอุดมคติ กับพลังที่บริสุทธิ์ แต่ต้องจำไว้อยู่อย่าง เมื่อเล่นกับไฟนอกสภาแล้ว หากพลาดไปย่อมไหม้ไปถึงตัวเอง ตอนนี้คงมีคนบอกว่าก้าวข้ามธนาธรไปแล้ว แต่ถึงอย่างไร “ขว้างงูไม่พ้นคอ” เล่นเกมแบบนี้ หากพลาดอาจถึงขนาดไม่เหลือที่ยืนในประเทศไทย
