โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ชี้ออกคำสั่งเตือน ‘บิ๊กโจ๊ก’ แค่ปราม หวังส่งสัญญาณถึงหลายคน!!

The Bangkok Insight

อัพเดต 25 ม.ค. 2563 เวลา 11.04 น. • เผยแพร่ 25 ม.ค. 2563 เวลา 11.04 น. • The Bangkok Insight
ชี้ออกคำสั่งเตือน ‘บิ๊กโจ๊ก’ แค่ปราม หวังส่งสัญญาณถึงหลายคน!!

วิษณุ" แจงเด้ง "วิระชัย" นั่งทำเนียบระหว่างสอบสวนข้อเท็จจริงเท่านั้น ส่วนคำสั่งเตือน "บิ๊กโจ๊ก" แค่ปราม พร้อมส่งสัญญาณถึงหลายคนให้รับทราบไว้

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย กล่าวถึงคำสั่งย้ายพล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและกลาโหมเป็นผู้เซ็นสั่งการ และคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ 28/2563 ลงวันที่ 23 มกราคมให้ พล.ต.อ.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย รอง ผบ.ตร. ปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) ว่า ในส่วนของ พล.ต.อ.ชัยวัฒน์ นั้นเป็นการทำงานภายในของตำรวจ ซึ่งใช้อำนาจของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเองได้ กรณีดังกล่าวไม่ได้มีปัญหาอะไรแต่โยกย้ายตามความเหมาะสม

พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา
พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา

ส่วนพล.ต.อ.วิระชัย เป็นการให้ย้ายมาช่วยงานที่ทำเนียบรัฐบาลชั่วคราว ซึ่งปกติจะมีระยะเวลาไม่นาน โดยอาศัยกฎหมายประมวลอาญาราชการแผ่นดิน จึงต้องเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีในการสั่งการและไม่ต้องนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เผื่อโปรดเกล้าฯ อย่างไรก็ตาม การสั่งย้ายให้เข้ามาปฎิบัติหน้าที่ที่สำนักนายกรัฐมนตรี พล.ต.อ.วิระชัย ไม่ได้หลุดจากตำแหน่งและยังคงได้รับเงินเดือนเดิม เพียงเป็นการโยกย้ายมาปฎิบัติหน้าที่นอกสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อให้ได้สอบสวนข้อเท็จจริง

ส่วนกรณีคำสั่งเตือนของพล.ต.ท.สุรเชษฐ หักพาล ที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เนื่องจากมีข้อร้องเรียน แต่อำนาจการสอบสวนข้อเท็จจริงเป็นของสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีไม่ใช่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเพราะพล.ต.ท.สุรเชษฐ หลุดจากตำแหน่งเดิมแล้ว แต่ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนของคำร้อง จึงยังไม่สามารถทำการสอบสวนได้ และต้องใช้วิธีการออกคำสั่งเตือนหรือปรามไว้ก่อน ซึ่งเจ้าตัวก็รับทราบแล้ว เพียงแต่ต้องระมัดระวังว่าไม่ให้มีการกระทำผิดอีกเท่านั้น

ทั้งนี้ ไม่ได้มีการลงโทษใดๆ อีกทั้งการปฎิบัติหน้าที่ของพล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ก็ไม่มีรถและเงินเดือนประจำตำแหน่ง ไม่มีสิทธิอะไร เมื่อมาอยู่สำนักปลัดสำนักนายกฯ ก็ได้มอบหมายงานและจะลดการมอบหมายลงไประยะหนึ่ง ก่อนจะพิจารณาว่าจะคืนงานกลับให้หรือไม่ค่อยว่ากันอีกที

ส่วนที่มีการตั้งคำถามว่าเหตุใดถึงไม่เตือนไปยังเจ้าตัวเอง แต่กลับออกเป็นคำสั่งนั้น จำเป็น เนื่องจากเป็นการใช้อำนาจที่อ้างตามกฏหมายและต้องการส่งสัญญาณไปถึงหลายคน เพื่อให้รับทราบไว้ อย่างไรก็ตามเคยมีการเตือนลักษณะเช่นนี้ แต่เป็นระดับอธิบดีจึงไม่ได้รับความสนใจเท่ากรณีดังกล่าว

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0