ชีวิตพลักผัน! ไทม์ไลน์วีกรรมสุดฉาวของ เกนดูซี่ และอนาคตของเขาหลังจากนี้

ถือว่ากำลังเป็นประเด็นร้อนๆ ในวงการลูกหนังอยู่เหมือนกันสำหรับกรณีของ มัตเตโอ เกนดูซี่มิดฟลิด์ผมสวยของ อาร์เซน่อลที่ส่อแววจะหมดอนาคตของทีมเสียแล้วหลังไปก่อวีรกรรมฉาว

ซึ่งจากเหตุการณ์ในวันนั้นมันส่งผลต่อชีวิตนักฟุตบอลของเขาไม่ใช่น้อยเลย ว่าแล้ววันนี้ขอบสนาม ของเราเลยจะมาไล่เรียงไทม์ไลน์วีกรรมสุดขึ้นชื่อขบวนล่าวุดของเจ้าตัวกันว่ามันเป็นมาอย่างไร และอนาคตของเขาหลังจากนี้จะเป็นยังไงบ้าง

สร้างวีรกรรมสุดฉาว

ย้อนกลับไปในเกมที่ อาร์เซน่อลบุกไปพ่ายให้กับ ไบร์ทตัน 2-1 เมื่อวันที่ 20 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยเกมดำเนินมาถึงช่วงนาทีที่ 40 แบรนด์ เลโน่ นายทวารของ "ไอ้ปืนใหญ่" ได้รับบาดเจ็บจากการปะทะกับ นีล โมเปย์  กองหน้าของคู่แข่ง จนไม่สามารถเล่นต่อไหว ซึ่งนั้นเป็นเหมือนปมขัดแย้งที่สร้างความไม่พอใจให้กับ มัตเตโอ เกนดูซี่เป็นอย่างมาก จนกระทั่งเข้าสู่ช่วงท้ายเกม โมเปย์คู่กรณีที่ทำ เลโน่เจ็บมาทำประตูชัยในนาทีที่ 90+5 แน่นอนมันยิ่งเหมือนเป็นการไปกระตุ้นต่อมให้ เก็นดูซี่ ระงับความเกรี้ยวกราดในตัวไว้ไม่ไหว

พลันที่ผู้ตัดสินเป่านกหวีดยาวจบเกมทั้งเกนดูซี่และโมเปย์ได้มาประจันน่ากันก่อนที่ มิดฟิลด์สายเลือดน้ำหอมจะใช้มือคว้าไปที่คอของ โมเปย์เข้าอย่างแรงเดือดร้อนไปถึงเหล่าสต๊าฟฟ์ที่อยู่บริเวณนั้นต้องเข้ามาแยกออกจากกัน ซึ่งจากการกระทำในครั้งนั้นถูกกล้องถ่ายทอดสดจับเหตุการณ์ไว้ทั้งหมด แต่ทว่า เกนดูซี่ ก็ไม่ได้ถูกสมาคมฟุตบอลอังกฤษลงโทษย้อนหลังแต่อย่างใด

พูดเหยียดเรื่องค่าเหนื่อย

จากประเด็นดังกล่าวดูเหมือนเรื่องราวมันจะจบไปแล้ว แต่ทว่าก็ได้มีสื่ออังกฤษอย่าง เดลี่ เมล ออกมาเปิดเผยถึงคำพูดของ เกนดูซี่ว่าเป็นพวกชอบดูถูกคู่แข่ง และพูดเย้ยทางพูดเล่นของ ไบร์ทตัน ว่ามีสถานะทางการเงินที่จนแบบสุดๆ เทียบกับผู้เล่นฝั่งเขาไม่ติดถึงขนาดถึงขั้นพูดออกว่าเตะบอลทั้งชีวิตก็คิดหาเงินได้ไม่เทียบเท่า

โดยแหล่งข่าวของทาง เดลี่ เมล ได้มีการเปิดเผยคำพูดของ เกนดูซี่ ว่า "เขาบอกว่านักเตะของ ไบรท์ตัน ว่าเป็นพวกห่วยแตก แถมยังบอกด้วยว่าเหล่าบรรดาเพื่อนร่วมทีมของเขาได้เงินมากกว่าที่พวกเขาจะได้รับมันไปตลอดทั้งชีวิต"

ซึ่งเมื่อไปขุดขุ้นค่าตัวเลขค่าเหนื่อยของทีม ไบร์ทตัน จะพบว่าเพดานค่าเหนื่อยสูงสุดของทีมอยู่ที่ตัวเลข 50,000 ปอนด์/สัปดาห์ ส่วน เก็นดูซี่ในตอนนี้ได้รับค่าเหนื่อยกับ อาร์เซน่อล อยู่สัปดาห์ละ 40,000 ปอนด์

ถูกแยกซ้อม + ไร้ชื่อในทีม 4 เกมติด

ดูเหมือนว่าเหตุการณ์ที่รังเหย้าของ ไบร์ทตัน จะเป็นจุดพลิกผันครั้งใหญ่ของเขาไม่ใช่น้อย เพราะเจ้าตัวถูกแยกซ้อมจากทีมชุดใหญ่ ซึ่งแน่นอนว่ามันเป็นคำสั่งมาจากนายใหญ่อย่าง มิเกล อาร์เตต้า ที่ไม่พอใจการกระทำของลูกทีมคนนี้เป็นอย่างมาก นอกจากนั้นในช่วงเกมลีก 4 นัดหลังสุดเจ้าตัวไร้ชื่อในทีม จนมีกระแสข่าวออกมาว่าทางบอร์ดบริหารของ อาร์เซน่อลกำลังคิดจะปล่อยมิดฟิลด์เลือดร้อนรายนี้ออกจากทีม

พร้อมกันนั้นสื่ออย่าง ดิ แอธเลติก ยังรายงานข่าวอีกว่าที่ว่าปัจจัยสำคัญที่ทำให้ อาร์เตต้า และบอร์ดบริหารจะตัดสินใจปล่อยหาง เกนดูซี่นั้นก็เพราะเจ้าตัวดูเหมือนจะยังไม่สำนึกกับสิ่งที่ทำลงไป และไม่มีท่าทีที่จะปรับปรุงตัวเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเอง และไม่มีแม้แต่เอ่ยกล่าวคำขอโทษออกมา ซึ่งมันตอกย้ำได้กับคำสัมภาษณ์สั้นของ อาร์เตต้า ที่ว่า "บางสิ่งต้องมีการเปลี่ยนแปลง แต่ตอนนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง"โดยรวมแล้วถ้าทีมยังคงขืนปล่อยให้นักเตะในทีมแสดงกิริยาแบบนี้อยู่ มันก็คงจะหวั่นๆ ไม่น้อยเกี่ยวกับสปิริตในห้องแต่งตัวที่อาจจะเสียตามนักเตะบางคนไปด้วย

คำบอกเล่าของอดีตเจ้านาย

แบร์นาร์ กาโซนี่อดีตเจ้านายเก่าของ เกนดูซี่สมัยค้าแข้งกับ ลอริยองค์ได้ออกมาพูด และยืนยันอีกเสียงว่าปัญหาใหญ่ของมิดฟิลด์รายนี้มันไม่ใช่เรื่องของร่างกาย หรือความสามารถ แต่มันคือเรื่องของทัศนคติล้วนๆ

โดย กาโซนี่ ได้เปิดเผยเรื่องนี้ว่า "ปัญหาของ เกนดูซี่ มันไม่ใช่เรื่องของร่างกาย หรือเทคนิค แต่มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับทัศนคติของเขา ซึ่งมันไม่ดีเลยต่อโค้ช ซีงแน่นอนความสัมพันธ์ของผมกับเขามันก็ไม่ค่อยจะดีนัก"

"ผมเคยเลือกเขาลงสนามในรายการบอลถ้วยกับ นีซ แต่เขามาโดนใบเหลืองอย่างรวดเร็ว ช่วงพักครึ่งผู้ตัดสินเดินเข้ามาหาผมบอกว่าให้เตือน เกนดูซี่ หน่อย เพราะถ้าฟาวล์อีกครั้งเดียวเขาจะโดนไล่ออก แต่ครึ่งหลังก็ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงจนผมต้องเปลี่ยนตัวเขาออก ซึ่งเขาปฎิเสธที่จะจับมือกับผม"

อนาคตหลังจากนี้ 

ถือว่าเป็นเครื่องหมายคำถามใหญ่ๆ เลยว่าตกลงแล้วอนาคตของ เกนดูซี่ ในถิ่นเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ยังจะคงมีอยู่บ้างไหม เพราะจากเหตุการณ์ที่ผ่านมาๆ รวมไปถึงการกระทำ และปฎิกิริยาของกุนซือมันสามารถตีความไปได้ว่าอยากจะปล่อยแข้งรายนี้ออกจากทีมแบบเต็มทน เพราะต่อให้ฟอร์มจะดีแค่ไหน แต่ทัศนคติมันป่วยก็ไม่อยากจะรั้งไว้ 

ซึ่งถ้าเจ้าตัวถูกปล่อยออกจากทีมจริงๆ เชื่อว่าน่าจะมีหลายทีมไม่ใช่น้อยที่หวังจะคว้าตัวไปเสริมทัพอย่างที่ผ่านๆ มาก็เห็นมีแคนดิเดตทีมแรกอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่มีชื่อเข้ามาอยู่ในหน้าสื่อ 

บทสรุปแล้วเหตุการณ์ครั้งนี้จะเป็นอย่างไร เพราะสุดท้ายมันก็ขึ้นอยู่กับตัวของ เก็นดูซี่ เองว่าจะยอมปรับ และเปลี่ยนพฤติกรรมของเขาเองมากแค่ไหน เพราะที่ผ่านมามีเคสหลายๆ แข้งให้เห็นศึกษาแล้วว่าความพังของชีวิตจากนิสัยเสียของตัวเองมันเป็นยังไง

- PAOLINHO (เปา ขอบสนาม) -

ติดตามไลน์ขอบสนามเพิ่มเติม