เรียกได้ว่าเป็นนักร้องและนักแสดงสาวสู้ชีวิตของจริง สำหรับ "กล้วย คลองหอยโข่ง" หรือ "กล้วย-ฐิภารินทร์ ยอดธนาสวัสดิ์" ที่รักงานในวงการบันเทิง ทุ่มเททุกอย่าง เพราะความฝันอยากเป็นนักร้อง แต่เส้นทางของเธอมันไม่ง่ายเลย ต้องต่อสู้อย่างหนัก เพลงดังมีคนเอาไปร้องโคฟเวอร์เพียบ แต่คนกลับไม่รู้จักนักร้องว่าเป็นใคร แถมไม่มีอีเว้นท์จ้างไปร้อง โดยเจ้าตัวได้เปิดใจผ่านรายการ แฉ กับชีวิต 10 ปีในวงการบันเทิง
ชีวิตของ "กล้วย" ในวงการบันเทิงเริ่มจากการมาประกวด พานาโซนิค สตาร์ ชาเลนจ์ ได้แชมป์อันดับ 1 ระดับประเทศ ตอนอายุ 15ปี แต่ด้วยความที่ยังเด็ก เดินทางมากรุงเทพฯ คนเดียว ซึ่งบ้านของเธออยู่ที่ จ.สงขลา เลยไม่กล้าเซ็นสัญญากับค่าย เพราะกลัวที่จะต้องมาใช้ชีวิตคนเดียวในเมืองกรุง โดยที่พ่อแม่ก็ไม่สามารถตามมาดูแลได้ จึงขอกลับบ้านโดยไม่เซ็นสัญญา เพราะการอยู่ที่กรุงเทพฯ ต้องมีค่าใช้จ่ายมากมาย และกลัวเรื่องการเซ็นสัญญา เพราะตนเป็นเด็กบ้านนอกไม่รู้เรื่องกฎหมาย
"กล้วย" กลับมากรุงเทพฯ ด้วยการประกวดดัชชี่ เกิร์ล 2005 เป็นตัวแทนภาคใต้ มาคัดเลือกที่กรุงเทพฯ แต่ก็ตกรอบ โดยหลังจากนั้น กล้วย ตามความฝันอีกครั้งด้วยการประกวดร้องเพลง "เดอะซิงเกอร์" พอประกวดเสร็จทางค่ายให้เซ็นสัญญา แต่ด้วยค่ายเป็นค่ายละคร เธอจึงจับพลัดจับผลูมาเส้นทางการเป็นนักแสดง โดยที่คราวนี้ไม่ปล่อยโอกาสทิ้งไป ถึงแม้อยากเป็นนักร้อง แต่หนทางการเป็นนักแสดงก็เป็นสิ่งใหม่ เธอรับบทแรก เป็นคนรับใช้ ทั้งๆที่ตอนแรก คาดหวังอาจจะได้บทเพื่อนนางเอก แต่ก็เข้าใจว่าแอคติ้งของตน ยังไม่ได้
โดยผลงานละครที่หลายคนจดจำได้จากบทคนรับใช้ จากละคร สี่หัวใจแห่งขุนเขา เล่นเป็นภรรยาพี่กอล์ฟ เบญจพล ในเรื่องจะพูดไม่ชัด เป็นสาวเชื้อสายพม่า และได้เล่นสุภาพบุรุษจุฑาเทพ พอหมดสัญญาค่าย เว้นว่างจากละคร ก็เลยมาประกวดเดอะสตาร์ ปี 6 ปีเดียวกับ กัน นภัทร , โตโน่ ภาคิน เพราะเป็นปีสุดท้ายที่ตนจะประกวดได้ ได้เข้ารอบ 16 คนสุดท้ายแค่นั้น
ชีวิตการเป็นนักแสดงไม่เคยมีรถขับ อาศัยรถคนอื่น ต้องขอบคุณ "ป้าหน่อย ณัฐนี" (ป้าหน่อย ปอบหยิบ จากบ้านผีปอบ) ที่ให้อาศัยติดรถไปด้วยทุกครั้ง เพราะหนูเรียนที่รามคำแหง บ้านป้าก็อยู่แถวๆ รามคำแหง หนูก็ตื่นตี 5 มาเจอป้าหน่อยแต่เช้า เพราะหนูเล่นละครด้วยกัน ละครสุภาพบุรุษจุฑาเทพ แล้วหนูก็จะติดรถป้าหน่อยตลอด ป้าหน่อยจะสอนการอยู่ในวงการว่าต้องมีการเตรียมพร้อมอย่างไรบ้าง สอนหนูทุกอย่างเลย สอนการใช้ชีวิต หนูเคยปรึกษาป้าว่า ระหว่างส่งเงินให้ที่บ้าน กับเก็บเงินซื้อคอนโด หนูจะทำอะไรก่อนดี ก็ได้คำแนะนำว่า เราเซฟเงินไว้ดูแลตนเองก่อนมั้ย เอาตัวเองให้รอดก่อน เพราะไหนเราจะต้องเรียนด้วย
ละครเรื่องหนึ่ง หนูจะได้ตอนละ 10,000-12,000บาท แต่กว่าหนูจะได้ก็ต้องรอไปจนกว่าละครจะออกอากาศ บางทีต้องรอกันเป็นปี ชีวิตก็อดมื้อกินมื้อ หนูไม่อายเลยว่า เวลาไปกองละคร ข้าวกล่องกองละครหนูเอากลับบ้านตลอดเลย เพราะอะไรที่ประหยัดได้ก็ต้องทำ เพราะเราต้องส่งตนเองเรียนก็ส่งตนเองเรียนจนจบ
ชีวิตนักแสดง มันไม่ได้มีละครเข้ามาตลอด เงินที่ได้มาเราก็ต้องเก็บไว้สำรอง เพื่อที่จะนำเงินส่วนนั้นมาใช้ในช่วงที่ว่างงานแสดง ซึ่งเคยหายจากไม่มีงานแสดงละครนานสุดเกือบ 1 ปี
เมื่อ 5ปีที่แล้ว ได้โอกาสมีผลงานเพลงของตัวเอง ได้เป็นนางเอก MV เอง เพลง "ผัวทิ้ง" โด่งดังกลายเป็นเพลงฮิต มีคนนำไปร้อง แต่ไม่มีคนรู้จัก งานจ้างไม่มีเลย คนเอาเพลงไปร้องจนถึงทุกวันนี้ เพลงดังจนได้รางวัลลูกทุ่งหญิงยอดนิยม แต่ก็ไม่มีคนรู้จักคนร้องเพลง หลังจากนั้นก็ถึงจะเริ่มมีงานจ้าง แต่พอบังเอิญมีเหตุการณ์บ้านเมือง งานที่รับมาเลยต้องงดรื่นเริง และบังเอิญค่ายเพลงปิดอีก ชีวิตเลยเคว้ง สุดท้ายต้องกลับบ้านไปช่วยแม่ขายโจ๊กค่ะ
โดย "กล้วย" ให้แนวคิดว่า อยากให้ทุกคนตั้งมั่น มุมานะ เชื่อในสิ่งที่เราทำ ของกล้วยอุปสรรคมากมาย เคยท้อมั้ย ก็มี เสียใจก็มี ร้องไห้ทุกครั้ง แต่เชื่อว่าไม่เป็นไร หลับไปแล้วตื่นขึ้นมาแล้วเริ่มกันใหม่ เชื่อว่าถ้าเราตั้งใจจะทำอะไรแล้วทำให้ดีที่สุด มันจะต้องได้ผลที่ดี ตัวหนูพยายามทำมาเป็น 10 ปี อย่างน้อยทุกวันนี้หนูก็ได้เป็นนักร้อง
Cr. ข้อมูล : รายการแฉ
ภาพ : banana_khk
