ฤดูกาลโยกย้ายแต่งตั้งใกล้งวดเข้ามาทุกขณะ โฟกัสไปสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) วันนี้ 9 ก.ค. 2563 พลตำรวจเอก จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงการแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ คนใหม่ ว่าตนเองไม่ได้มีคำสั่งไปยังรอง ผบ.ตร. และจเรตำรวจแห่งชาติ ให้แสดงวิสัยทัศน์ ตามที่เคยปฏิบัติในยุคสมัยของ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีต ผบ.ตร.
ขณะเดียวกัน ในการประชุมเหล่าทัพครั้งที่ 5 เมื่อวันที่ 8 ก.ค. ที่ผ่านมา พลตำรวจเอก จักรทิพย์ ไม่ได้มีการนำเรื่องนี้เข้าหารือในที่ประชุมแต่อย่างใด เนื่องจากเป็นเรื่องภายในหน่วยงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ส่วนกรณีที่สื่อมีการนำเสนอว่าที่ ผบ.ตร.คนใหม่ มาจากนักเรียนนายร้อยรุ่น 36 นั้น ก็ถือว่าเป็นแนวคิดของสื่อที่สามารถวิพากษ์วิจารณ์กันได้อยู่แล้ว ส่วนขั้นตอนของการนำเสนอรายชื่อผู้ที่จะขึ้นมาดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการคนใหม่นั้น อยู่ในกรอบระยะเวลาที่กำหนด และตนเองก็เกษียณอายุราชการตามเวลาอยู่แล้ว
สำหรับ "รอง ผบ.ตร." ที่มีสิทธิ์ขึ้นเบอร์ 1 สตช. ตามลำดับอาวุโส คือ พล.ต.อ.ชนสิษฎ์ วัฒนวรางกูร รุ่น นรต.37 , พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รุ่น นรต.38 เกษียณอายุราชการปี 2564 และ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ และ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รุ่น นรต.36 เกษียณพร้อมปี 2565
ทว่า แคนดิเดต ชิงตำแหน่ง ผบ.ตร. มีตัวเต็งคือ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ส่วนผู้ท้าชิงคือ พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก ซึ่งการที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ มีภาษีดีกว่าเพราะเป็นเพื่อนร่วมรุ่น พล.ต.อ.จักรทิพย์ และ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เตรียมทหาร 20 (ตท.20)
ช่วงที่ผ่านมา พล.ต.อ.สุวัฒน์ ได้รับมอบหมายงานสำคัญจากนายกรัฐมนตรี และ ผบ.ตร. และคลี่คลายคดีสำคัญๆ โดยเฉพาะคดีระเบิดกลางกรุงเทพฯ ส่วน พล.ต.อ.มนู มีความถนัดด้านงานบริหาร และมีคุณสมบัติเป็นมือประสานสิบทิศ
ทั้งคู่ถือเป็น "มือทำงาน" ที่พล.ต.อ.จักรทิพย์ ไว้วางใจ เพียงแต่ว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ เข้าถึง พล.อ.ประยุทธ์ มากกว่า จากเส้นทางการทำงานต่างๆ ล่าสุด
จึงไม่แปลกที่ใครๆ ฟันธงว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ คือว่าที่ ผบ.ตร. คนใหม่!!