โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ชาวเน็ตโวยไม่เคารพสิทธิมนุษยชน เหตุครูใช้ไม้บรรทัดวัด ตัดผมนักเรียนหญิงม.ปลายจนสั้น (ชมคลิป)

Manager Online

อัพเดต 17 ม.ค. 2562 เวลา 12.10 น. • เผยแพร่ 17 ม.ค. 2562 เวลา 12.10 น. • MGR Online

เพจ "Black Hat" หลังเผยคลิปคุณครู 2 ท่าน ของโรงเรียนแห่งหนึ่งใช้ไม้บรรทัดวัด และตัดผมนักเรียนหญิงมัธยมปลายจนสั้น ภายหลังทำให้ชาวเน็ตต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยถึงพฤติกรรมดังกล่าว

วันนี้ (17 ม.ค.) เพจ "Black Hat" ได้โพสต์คลิปวิดีโอความยาว 0.29 วินาที ขณะที่มีครู 2 ท่านของโรงเรียนแห่งหนึ่ง ได้นำไม้บรรทัดมาวัดความยาวที่ผมของนักเรียนหญิงมัธยมปลายรายหนึ่ง และจากนั้นได้ตัดผมจนสั้น ทำให้ชาวเน็ตออกมาวิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมาก

ด้านผู้โพสต์ระบุว่า "จากคลิป บางทีมันก็ดูเกินไปกับการวัดตรวจแล้วตัดเลยแบบนี้ ซึ้งไม่มีการถามเด็กเลยสักคำว่า จะเอาไง โอเคไหม จะแก้ยังไง ? มันกฎของโรงเรียนก็จริง แต่กฎของกระทรวงที่เขาวางเอาไว้หละ ทำไมโรงเรียนทำไมไม่ทำตามบ้าง ถ้ายังจะเอาแต่ความสะใจตัวเองหรือบ้าอำนาจ ต่อไประบบข้างราชการครูจะแย่แบบนี้ลงไปเรื่อยๆแน่นอน"

ทั้งนี้ คลิปวิดีโอดังกล่าวได้เผยแพร่สู่โลกออนไลน์มียอดรับชมกว่า 130,000 ครั้ง และมีชาวเน็ตจำนวนมากเข้ามาแสดงความคิดเห็น มีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แสดงความคิดเห็นว่าสมัยก่อนเคยโดนตัดผมจนแหว่งยังไม่เห็นเป็นอะไร เด็กสมัยนี้เปราะบางเกินไป หรือเด็กนักเรียนคนดังกล่าวอาจจะปล่อยผมแบบไม่มัดรวบตึง จึงโดนทำโทษ แต่ทางด้านคุณครูควรจะตักเตือนให้เด็กไปแก้ไขก่อน ถึงจะผิดอย่างไรก็ไม่มีสิทธิ์ตัดผมเด็กจนสั้นเช่นนี้

สำหรับ ความเป็นมาในเรื่องทรงผมนักเรียนนี้ สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้เสนอเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการกำหนดแบบทรงผมของนักเรียนต่อ กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) และคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนได้มีมติให้มีข้อเสนอแนะเชิงนโยบายต่อ ครม. โดย ศธ.ให้ยกเลิกกฎกระทรวงเกี่ยวกับเรื่องแบบทรงผมของนักเรียนที่ใช้บังคับอยู่ในปัจจุบัน และออกกฎกระทรวงฉบับใหม่ให้สอดคล้องกับ พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 ซึ่ง ศธ.ยังมิได้ดำเนินการออกกฎกระทรวง ข้อบังคับ ระเบียบ ประกาศ หรือคำสั่ง ในเรื่องแบบทรงผมนักเรียนตาม พ.ร.บ.ดังกล่าว แต่อย่างใด ทำให้กฎกระทรวงที่มีผลบังคับใช้อยู่ในขณะนี้ไม่เป็นปัจจุบัน และมีสาระสำคัญบางประการไม่เหมาะสมกับสภาพการณ์ปัจจุบัน

ทั้งนี้ ร่างกฎกระทรวงฉบับใหม่ได้กำหนดไว้ 3 หมวด คือ หมวด 1 ความประพฤติ หมวด 2 การแต่งกาย และหมวด 3 ทรงผมนักเรียน

หมวด 1 ความประพฤติ เป็นการกำหนดเรื่องความประพฤติของนักเรียนและนักศึกษา ซึ่งต้องประพฤติตนอยู่ในระเบียบวินัยของสถานศึกษาที่ตนสังกัดอยู่ และต้องไม่ประพฤติตน ดังต่อไปนี้นี้ หนีเรียนหรือออกนอกสถานศึกษาโดยไม่ได้รับอนุญาตในช่วงเวลาเรียน เล่นการพนัน จัดให้มีการเล่นการพนัน หรือมั่วสุมในวงการพนัน พกพาอาวุธ หรือวัตถุอันตราย ซื้อ จำหน่าย แลกเปลี่ยน ให้หรือเสพสุรา เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ สิ่งมึนเมา หรือทำให้ทรัพย์สินของผู้อื่นเสียหาย ลักทรัพย์ กรรโชกทรัพย์ ข่มขู่ บังคับขืนใจเพื่อเอาทรัพย์สินบุคคลอื่น หรือทำให้ทรัพย์สินของผู้อื่นเสียหาย ก่อเหตุทะเลาะวิวาท ทำร้ายร่างกายผู้อื่น เตรียมการหารือการกระทำใดๆ อันน่าจะก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย หรือขัดต่อศีลธรรมอันดีงามของประชาชน แสดงกรรมทางชู้สาวซึ่งไม่เหมาะสมในที่สาธารณะ เกี่ยวข้องกับการค้าประเวณี ออกนอกสถานที่พักเวลากลางคืนเพื่อเที่ยวเตร่หรือรวมกลุ่ม อันเป็นการสร้างความเดือดร้อนให้แก่ตนเองหรือผู้อื่น สถานศึกษาอาจกำหนดระเบียบว่าด้วยความประพฤติของนักเรียนและนักศึกษาได้เท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับกฎกระทรวงนี้

หมวดที่ 2 การแต่งกาย นักเรียนและนักศึกษาต้องแต่งกายให้เหมาะสมกับวัยและสภาพการเป็นนักเรียนและนักศึกษา นักเรียนต้องแต่งกายหรือแต่งเครื่องแบบนักเรียนตามกฎหมายว่าด้วยเครื่องแบบนักเรียน นักศึกษาต้องแต่งกายหรือแต่งเครื่องแบบนักศึกษาตามข้อบังหรือระเบียบของสถานศึกษานั้น นักเรียนและนักศึกษาไม่ใช้เครื่องสำอางหรือสิ่งปลอมเพื่อเสริมสวย เว้นแต่กรณีมีความจำเป็น ทั้งนี้ให้อยู่ในดุลพินิจของสถานศึกษาพิจารณาเป็นกรณีไป

หมวด 3 แบบทรงผม นักเรียนต้องไว้ทรงผมแบบสุภาพเรียบร้อย เหมาะสมกับกาลเทศะ ดังนี้ (1) นักเรียนชายให้ไว้ผมด้านข้างและด้านหลังยาวไม่เลยตีนผมหรือผมรองทรงก็ได้ (2) นักเรียนหญิงให้ไว้ผมสั้นหรือยาวก็ได้ กรณีไว้ยาวก็ให้รวบให้เรียบร้อย ห้ามนักเรียนดัดผม ทำสีผม ไว้หนวดเครา หรือทำการอื่นใดที่ไม่เหมาะสมกับสภาพการเป็นนักเรียน

ข้อกำหนดดังกล่าวไม่ใช้บังคับกับนักเรียนในสถานศึกษาที่จัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยและนักศึกษา โดยให้ไว้ทรงผมแบบสุภาพเรียบร้อย เหมาะสมกับกาลเทศะตามข้อบังคับหรือระเบียบของสถานศึกษานั้น หากนักเรียนมีความจำเป็นต้องไว้ทรงผมแตกต่างจากที่กำหนดไว้ เนื่องจากความจำเป็นทางศาสนา ประเพณีหรือความจำเป็นอื่นใด ก็ให้อยู่ในอำนาจของสถานศึกษานั้นเป็นผู้พิจารณา

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0