วันที่ 20 ก.ย. 62 จากกรณีที่มีกระแสข่าวว่าชาวบ้านชุมชนท่ากอไผ่ เทศบาลตำบลวารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ถูกสั่งให้รื้อเพิงพักน้ำท่วมริมสะพาน เพราะขบวนนายกรัฐมนตรีจะขับผ่านทางดังกล่าว ซึ่งก็มีการวิพากษ์วิจารณ์กันเป็นจำนวนมาก แม้ว่าภายหลังทีมโฆษกรัฐบาลจะออกมาชี้แจงว่าเป็นการเข้าใจผิด
ล่าสุดทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่บริเวณสะพานเสรีประชาธิปไตย ซึ่งเป็นสะพานคู่ขนานกับสะพานรัตนโกสินทร์ 200 ปี ที่ใช้ข้ามระหว่างเมืองอุบลราชธานีและ อ.วารินชำราบ โดยที่บริเวณริมสะพานฝั่ง อ.วารินชำราบ มีเพิงพักชั่วคราวของผู้ประสบภัยที่ตั้งเรียงกันริมถนนยาวกว่า 100 เมตร
โดยนางเสาร์ คณะษี อายุ 61 ปี ชาวบ้านชุมชนท่ากอไผ่ ต.วารินชำราบ อ.วารินชำราบ ระบุว่า วานนี้ (19 ก.ย.) เจ้าหน้าท่เข้ามาบอกให้ตนรื้อเพิงพักออก เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีจะมาที่ จ.อุบลราชธานี โดยขอให้ตนย้ายไปอยู่ในค่ายทหารที่ในเมืองวารินชำราบ แต่ตนไม่ยอมย้าย เพราะปกติทำงานขายของในตลาด หากย้ายไปอยู่ในค่ายก็จะไม่สะดวกการเดินทาง และมีชาวบ้านหลายรายที่ไม่ยอมย้ายออก ภายหลังเจ้าหน้าที่จึงบอกว่าไม่ต้องย้าย เพราะนายกรัฐมนตรีเปลี่ยนเส้นทางไปทางอื่นแล้ว ส่วนที่มีข่าวออกมาว่าเจ้าหน้าที่อยากให้ย้ายเพื่อสุขอนามัย ไม่ได้เกี่ยวกับนายกรัฐมนตรีนั้นตนไม่ทราบ แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดตนก็ไม่อยากย้ายออก
ด้านนายประวิตร เรือนแก้ว กล่าวว่า ตนย้ายเพิงพักเป็นรอบที่ 4 แล้ว รอบแรกน้ำเริ่มขึ้นสูงที่บ้านจึงต่อเติมเพิงบ้านขึ้นสูง แต่น้ำก็ยังท่วม จึงมาสร้างเพิงพักที่ริมสะพานแต่น้ำก็ขึ้นมาสูงอีก จึงต้องย้ายไปสร้างเพิงพักบนสะพาน จนล่าสุดวานนี้ต้องย้ายกลับมาที่ตีนสะพาน เพราะเจ้าหน้าที่มาบอกเมื่อวันที่ 18 ก.ย. บอกว่าขอพื้นที่เพราะนายจะมา ซึ่งตนไม่ทราบว่านายคือใคร แต่บางคนก็บอกว่านายก โดยตนต้องย้ายออกมาอยู่ที่ริมสะพาน ซึ่งการย้ายเพิงพักแต่ละครั้งก็ต้องใช้เงินซื้อไม้และผ้าคลุมใหม่ เพราะการย้ายหรือรื้อแต่ละครั้ง ผ้ารวมถึงไม้ก็ผุและขาด อย่างครั้งล่าสุดที่ย้ายมาก็เสียเงินไปกว่า 2,000 บาท โชคดีที่ได้รับเงินมาจากบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ จึงนำมาซื้ออุปกรณ์ได้ ซึ่งเมื่อย้ายมาแล้วก็ไม่มีใครมา ตนก็แปลกใจ ส่วนการออกมาบอกตอนหลังว่าไม่เกี่ยวกับนายกรัฐมนตรีนั้น คิดว่าใครก็สามารถพูดได้เพราะเหตุเกิดขึ้นแล้ว ซึ่งหลังเกิดเหตุก็ไม่มีใครเข้ามาช่วยออกเงินให้ตน
ขณะที่นายจีระชัย ไกรกังวาร นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองวารินชำราบ ระบุว่า สะพานดังกล่าวช่วงที่น้ำท่วม รถเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านได้ มีเพียงรถทหารที่รับส่งประชาชนสำหรับข้ามฝั่งระหว่างเมืองกับวารินชำราบ จึงเหมือนปิดสะพานไปโดยปริยาย ซึ่งขณะนั้นชาวบ้านท่ากอไผ่ที่มีประมาณ 30 หลังคาเรือน ก็ได้ย้ายขึ้นมาอยู่บนสะพานเพราะน้ำท่วมบ้าน โดยเมื่อน้ำลดสะพานสามารถเปิดสัญจรได้ เจ้าหน้าที่หลายภาคส่วนก็ได้เข้าไปจัดระเบียบพื้นที่ โดยขอให้ผู้ที่อยู่บนสะพานย้ายลงไปอยู่ด้านล่างเพื่อความปลอดภัยเวลารถวิ่งผ่าน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปบอกตั้งแต่ 2-3 วันที่ผ่านมา ไม่ได้เกี่ยวกับกำหนดการของนายกรัฐมนตรีที่จะเดินทางมาวารินชำราบ
นอกจากนี้ ตามกำหนดการนายกรัฐมนตรีก็ไม่ได้ผ่านเส้นทางดังกล่าว แต่เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปทำความเข้าใจอาจมีการสื่อสารที่เข้าใจผิด ประกอบกับเป็นช่วงที่นายกรัฐมนตรีเดินทางลงพื้นที่พอดี ทำให้มีข่าวดังกล่าวออกมา
https://youtu.be/rsdAfoFsGXI