จากกรณี วันที่ 27 ม.ค.63 พบศพพระสงฆ์นอนมรณภาพขึ้นอืดใต้เสาไฟฟ้าแรงสูงในป่าละเมาะ ตรงข้ามสถานีขนส่งผู้โดยสารขอนแก่นแห่งที่ 3 ตำบลเมืองเก่า อำเภอเมืองขอนแก่น ที่เกิดเหตุพบศพชายแต่งกายคล้ายพระสงฆ์ นอนเสียชีวิตใต้เสาไฟฟ้าแรงสูง ที่บริเวณศีรษะพบว่ามีรอยถูกตีบริเวณท้ายทอย คาดว่าเสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 2-3 วัน ใกล้กันพบท่อนไม้ยูคาลิปตัสติดตะปูเปื้อนเลือดตกอยู่ 1 ท่อน ห่างออกไปบริเวณกระท่อมพบบาตรพระ จีวรกองอยู่ แต่ไม่พบเอกสารหลักฐานที่สามารถยืนยันได้ว่าผู้เสียชีวิตเป็นใคร หรือพระสงฆ์วัดใด เนื่องจากไม่พบใบสุทธิ
ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี สอบถาม นายเอ (นามสมมุติ) ผู้ที่พบศพเป็นคนแรก เปิดเผยว่า ในวันพบศพได้เดินไปร้านสะดวกซื้อแต่เกิดปวดปัสสาวะ จึงยืนปัสสาวะใกล้กับบริเวณดังกล่าว และได้กลิ่นเหม็นเน่า เมื่อมองไปจึงพบร่างคนเสียชีวิต หลังทำธุระส่วนตัวเสร็จได้ชวนพนักงานร้านสะดวกซื้อให้ไปดูด้วยกัน กระทั่งพบว่ามีคนกลายเป็นศพจึงรีบแจ้งตำรวจ ยอมรับว่ารู้จักกับผู้เสียชีวิตเพราะเคยนั่งดื่มสุราด้วยกัน
ด้าน พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสารีกิจ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเทืองขอนแก่น เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ให้ตำรวจชุดสืบสวนกระจายกำลังออกตรวจสอบบริเวณโดยรอบที่เกิดเหตุ โดยเฉพาะที่บริเวณสถานีขนส่งแห่งที่ 3 เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม รวมทั้งตรวจสอบบุคคลที่แต่งกายคล้ายพระสงฆ์ ที่มักจะเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์จากประชาชนที่มารอรถโดยสาร เพื่อตรวจสอบว่ารู้จักผู้เสียชีวิตหรือไม่
ส่วนผู้เสียชีวิต ทราบชื่อเบื้องต้นชื่อพระแหล่ เคยบวชอยู่ที่วัดสุธาราม ตำบลผาขาว อำเภอผาขาว จังหวัดเลย ก่อนที่จะไปจำพรรษที่วัดป่าบุญญาภิบาล อำเภอเมืองมหาสารคามเมื่อปีที่ผ่านมา จากนั้นได้เดินธุดงค์ไปตามสถานที่ต่าง ๆ จนกระทั่งได้มาปักกฎอยู่ในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ส่วนหลักฐานที่เกิดเหตุได้มีการเก็บไว้แล้ว ตำรวจขอใช้ระยะเวลาสักระยะจึงจะสามารถระบุถึงสาเหตุการมรณะภาพได้อย่างแท้จริง
เบื้องต้น ได้ตั้งประเด็นไว้หลายประเด็นไม่ว่าจะเป็นเรื่องประเด็นความขัดแย้งส่วนตัว หรือประสงค์ต่อทรัพย์สิน ขณะนี้ตำรวจได้มีการสอบปากคำพยานไปแล้วและพอจะรู้ว่าคนที่ลงมือทำร้ายพระเป็นใคร
ขณะที่ คนขับรถตุ๊กตุ๊กรับจ้าง ภายในสถานีขนส่งผู้โดยสาร เปิดเผยว่า บริเวณที่พบศพเป็นป่าละเมาะ เป็นแหล่งรวมของพระสงฆ์ไม่มีสำนักเป็นจำนวนมาก ทุกเช้าจะเห็นพระสงฆ์เดินออกมาจากป่าข้ามถนนมายังบขส.3 เพื่อมาบิณฑบาตเป็นประจำ จากนั้นก็จะอุ้มบาตรพร้อมด้วยอาหารที่ชาวบ้านนำมาใส่บาตรกลับเข้าไปในป่าตามเดิมอยู่เช่นนี้หลายปีแล้ว
นอกจากนี้ยังมีพระสงฆ์ลักษณะดังกล่าวแวะเวียนกันมาไม่ซ้ำหน้า บางวันพระบางรูปเดินออกมาสั่งอาหารรับประทาน ทั้งในช่วงเวลากลางวันและกลางคืน จนชาวบ้านและคนที่ทำงานในบขส.3 เอือมระอา จนเกิดความสงสัยว่าเป็นพระจริง ๆ หรือไม่ เพราะไม่เคยเห็นกลับไปจำพรรษาหรือจำวัด แต่กลับใช้พื้นที่บริเวณดังกล่าวเป็นที่พักอาศัยกระทั่งมีคนพบศพ
https://youtu.be/SVupmbi3qjc