โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ชาวบ้านร้องร่วมโครงการรับโฉนดคืนของรัฐบาล กลับบ้านโดนยึดอีก

TODAY

อัพเดต 27 มิ.ย. 2562 เวลา 10.21 น. • เผยแพร่ 27 มิ.ย. 2562 เวลา 10.07 น. • Workpoint News
ชาวบ้านร้องร่วมโครงการรับโฉนดคืนของรัฐบาล กลับบ้านโดนยึดอีก

วันที่ 26 มิ.ย. ที่หอประชุมพระนารายณ์ อาคารรัตนเทพสตรี มหาวิทยาลัยราชภัฎเทพสตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีมอบคืนโฉนดและทรัพย์สิน คืนความสุขให้ประชาชนลดความเหลื่อมล้ำของสังคมครั้งที่ 12 โดยมี พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และผู้แทนหน่วยงานราชการต่างๆ ให้การต้อนรับ

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า การแก้ปัญหาหนี้นอกระบบถือเป็นหัวใจสำคัญที่รัฐบาลได้ขับเคลื่อนนโยบายแบบบูรณาการ เพื่อทำให้เกิดความเป็นธรรมทั้งเจ้าหนี้และลูกหนี้ แก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคม ยกระดับชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้น ในวันนี้ถือเป็นครั้งที่ 12 ได้มีการคืนโฉนดให้แก่ผู้เสียหาย ซึ่งเป็นพี่น้องประชาชนในจังหวัดลพบุรีและพื้นที่ภาคกลางที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการทำสัญญากู้ยืมอันไม่เป็นธรรม ภาพรวมที่ดำเนินการทั่วประเทศถือว่าเป็นที่พอใจ และยืนยันว่าจะเดินหน้าต่อหากได้อยู่ต่อ เพราะถือเป็น “วาระแห่งชาติ” ของรัฐบาลสมัยหน้าด้วย ขอบคุณเจ้าหนี้นอกระบบที่ร่วมมือ ยอมเจรจาไกล่เกลี่ย และขอบคุณตำรวจเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ช่วยกัน

สำหรับประชาชนที่ได้รับโฉนดคืนไปขออย่านำไปกู้นอกระบบหรือนำไปจำนองอีก อยากจะให้นำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ใช้ทำมาหากินอย่างถูกต้อง อีกทั้งรัฐบาลมีความตั้งใจที่จะทำคนยากจนเข้าสู่ระบบแหล่งการเงินมากขึ้น โดยไม่ต้องพึงแหล่งเงินกู้นอกระบบและสนับสนุนระบบฟิโกไฟแนนซ์ นาโนไฟแนนซ์ เพื่อไม่ให้ประชาชนมีหนี้สิน

ผู้สื่อข่าวถามว่าอยากจะฝากอะไรถึงผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์โครงการนี้ รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า สื่อก็ต้องตอบให้ผมสิ เราก็พยายามทำให้ดีที่สุดแล้ว ยังมีประชาชนอีกกว่า 30 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากหนี้นอกระบบ ซึ่งโครงการนี้เป็นโครงการที่ดีทางรัฐบาลจึงเน้นเป็นวาระแห่งชาติ ส่วนกรณีที่มีชาวบ้านมาร้องเรียนเรื่องโฉนดตกหล่นได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือแล้ว พร้อมรับปากว่าจะให้เร่งตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้นเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงว่าปัญหาเกิดขึ้นจุดใดจะได้แก้ปัญหาให้ตรงจุด ทั้งยังยืนยันด้วยว่าจะยังคงดำเนินโครงการนี้ต่อไป แต่จากนี้อาจจะขยายช่วงเวลาจากหนึ่งเดือนต่อครั้ง เป็นสองเดือนต่อครั้ง

สำหรับภาพรวมของการมอบคืนโฉนดที่ดินครั้งที่12 มีลูกหนี้ได้รับโฉนดคืน ทั่วประเทศกว่า 1,038 ราย คืนโฉนด จำนวน 952 ฉบับ คิดเป็นเนื้อที่ 1,696 ไร่ 3 งาน 97.7 ตารางวา คิดเป็นมูลค่า 3,008,340,135 บาท และจากการดำเนินการตั้งแต่เดือนก.ค.ปีที่ผ่านมาถึงปัจจุบัน ได้คืนโฉนดให้กับประชาชน 25,052 ราย คืนโฉนด จำนวน 21,312 ฉบับ เนื้อที่ 59,345 ไร่ 2 งาน 40.42 ตารางวา คิดเป็นมูลค่า30,622,828,496 บาท

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่ พล.อ.ประวิตร กำลังเดินเข้าห้องประชุมเพื่อเปิดงานคืนโฉนดปรากฎว่ามีชาวบ้านกว่า 30 ราย เดินทางมาจาก จ.นครราชสีมา,ชัยภูมิ ,ขอนแก่น และ จ.เลย ซึ่งเป็นผู้เสียหายที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการที่ถูกริบโฉนดที่ดินคืน เดินทางมาร้องทุกข์ต่อพลเอกประวิตร ให้มีการตรวจสอบความโปร่งใสในการดำเนินโครงการ แก้ปัญหาหนี้นอกระบบและเงินกู้ดอกเบี้ยโหด เพราะหลังได้รับโฉนดคืนต่อมากลับถูกริบไปอีก

รองนายกรัฐมนตรีได้รับเรื่องราวร้องทุกข์ไว้พร้อมสั่งการให้ชุดทำงาน ศปอส.ตร. โดย พล.ต.ต.บุญลือ กอบางยาง รองผบช.ภ.4 เป็นผู้รับเรื่องราวและสอบถามข้อเท็จจริง

นางแสงจันทร์ บุตรเขียว ชาวชัยภูมิ อายุ 48 ปี กล่าวว่า ตนเป็นหนึ่งในผู้เสียหายที่นำโฉนดที่ดินไปจำนองกับนายทุนเงินกู้ในพื้นที่อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ โดยได้เงินจากการจำนองโฉนดที่ดินมากว่า 300,000 บาท และตนก็พยายามที่จะไถ่ถอน แต่นายทุนให้นำเงินกว่า 1.7 ล้านบาทมาไถ่ถอน ต่อมาได้มีการดำเนินการเจรจาประนอมหนี้ในการไถ่ถอน และเข้าสู่กระบวนการในการคืนโฉนดของทางจังหวัดเมื่อครั้งที่ผ่านมา ซึ่งจัดขึ้นในพื้นที่ จ.นครราชสีมาโดยจัดคู่ขนานกับที่จ.พิษณุโลก ทั้งนี้ภายหลังจากได้รับการคืนโฉนดปรากฏว่าระหว่างที่เดินทางกลับจนถึงที่จ.ชัยภูมิได้มีการริบโฉนดคืนทำให้ตนนั้นเสียสิทธิ์ในการที่จะได้โฉนดกลับไปเป็นของตน

ขณะที่ผู้เสียหายอีกรายกล่าวว่า ในการคืนโฉนดครั้งที่ผ่านมาซึ่งทาง จ.นครราชสีมาจัดขึ้น พบว่าชื่อของตนเองถูกนำไปสวมอ้างในการรับโฉนด ทั้งที่ความเป็นจริงตนเองไม่ได้รับโฉนดคืนแม้แต่ครั้งเดียว จึงสงสัยว่าตำรวจมีความจริงใจในการแก้ปัญหาเรื่องปากท้องของประชาชนอย่างที่ผ่านมาหรือไม่ จึงอยากเรียกร้องให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมลงมาตรวจสอบปัญหาที่เกิดขึ้นก่อนจะสร้างปัญหาบานปลายไปถึงรัฐบาลที่ยืนยันมาตลอดว่าจะอยู่ข้างประชาชน

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0