เกษตรกรเจ้าของนาข้าวถึงกับร้องไห้ ทันทีที่เจ้าหน้าที่เข้ารื้อถอนถุงดำและสแลนที่ชาวบ้านช่วยกันนำมาปิดหลอดไฟส่องสว่างริมถนน บนทางหลวงสายละหานทราย – นางรอง ตำบลสะเดา อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง >> เปิดลานหน้าเทศบาลบริการตากข้าวพร้อมจัดเวรยามเฝ้า 24 ชม.
ชาวบ้านเชื่อว่าแสงสว่างจากหลอกไฟริมทางเหล่านี้ทำให้ต้นข้าวไม่ออกรวง เพราะที่ผ่านมาไม่มีการขยายถนน ข้าวก็ได้ผลผลิตตามปกติ แต่มาปีนี้ถนนขนาดใหญ่ตัดผ่าน มีไฟสว่าง ข้าวก็ไม่เจริญเติบโต ได้รับความเสียหายจำนวนมาก จึงอยากให้ภาครัฐช่วยเหลือเกษตรกรด้วย
ซึ่งเจ้าหน้าที่พยายามทำความเข้าใจกับชาวบ้านว่า การนำวัสดุหรือสิ่งของไปปิดคลุมหลอดไฟไม่สามารถทำได้ เพราะเป็นทรัพย์สินของทางราชการ อาจเข้าข่ายผิด พ.ร.บ.ทางหลวง ที่สำคัญบริเวณดังกล่าวเป็นจุดเสี่ยง คอขวด หากไม่มีไฟส่องสว่างจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ หากประชาชนต้องการให้ดับไฟให้มาแจ้ง หากไม่มีผลกระทบอะไร ก็ดำเนินการให้ได้ โดยจะพิจารณาจากความเสี่ยงเป็นอันดับแรก
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามข้อมูลกับ นายปรเมตร ศรีทนสา นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ จังหวัดขอนแก่น ถึงกรณีแสงไฟมีผลต่อการเจริญเติบโตของข้าวหรือไม่นั้น เบื้องต้นทราบว่า ข้าวที่ปลูกตอนนี้เป็นข้าวนาปี เป็นข้าวไวต่อแสง เมื่อมีแสงไฟในช่วงกลางคืน ก็เท่ากับว่าทำให้ช่วงกลางวันยาวขึ้น ข้าวก็จะเจริญเติบโตทางลำต้น ไม่ออกรวง หรือถ้าออกรวงได้ก็ไม่พร้อมกันในต้นเดียว บางรวงก็แก่โน้มลง บางรวงก็เพิ่งตั้งท้อง ทำให้ข้าวเสียหายได้ ซึ่งแตกต่างจากข้าวนาปรัง หรือข้าวไม่ไวแสง เป็นข้าวที่แสงไม่มีอิทธิพลต่อการออกดอก เป็นข้าวที่ออกตามอายุ ไม่ว่าจะปลูกเมื่อใด พอครบอายุก็จะเก็บเกี่ยวได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง >> ชาวนาสุรินทร์ หวั่นโจรขโมยข้าวเปลือกกางเต็นท์นอนเฝ้า