เมื่อวันที่ 28 ม.ค. ที่ห้องประชุมสำนักงานสาธารณสุข จ.เชียงราย นายแพทย์ทศเทพ บุญทอง นายแพทย์สาธารณสุข จ.เชียงราย มอบหมายให้นายแพทย์เอกชัย คำลือ รองนายแพทย์สาธารณสุข จ.เชียงราย เป็นประธานการประชุมศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุขกรณีการระบาดโรคปอดอักเสบจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ โดยมีการสรุปสถานการณ์ว่าตั้งแต่วันที่ 5-27 ม.ค.นี้ เจ้าหน้าที่ได้คัดกรองนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางไปเยือน จ.เชียงราย ผ่านทางท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ต.บ้านดู่ อ.เมืองเชียงราย แล้วจำนวน 9,439 ราย ด่านพรมแดน อ.แม่สาย จำนวน 1,528 ราย ด่านพรมแดน อ.เชียงของ จำนวน 863 ราย และท่าเรือพาณิชย์ อ.เชียงแสน จำนวน 270 ราย รวมยอดนักท่องเที่ยวสะสมทั้งหมดจำนวน 12,097 ราย
ล่าสุดกรณีพบเด็กหญิงวัย 4 ขวบที่เดินทางมาจากเมืองกวางโจว ประเทศจีน มีอาการไข้ในพื้นที่ก็ตรวจไม่พบเชื้อ ดังนั้นทั้งหมดจึงไม่พบว่ามีการติดเชื้อแต่อย่างใด กระนั้นเจ้าหน้าที่ก็ได้ปรับมาตรการเพื่อรองรับกรณีฉุกเฉินโดยเฉพาะการสื่อสาร วิธีการ เครื่องมืออุปกรณ์ ฯลฯ เอาไว้ให้พร้อมแล้ว
ด้านนางเสาวณีย์ เปลี่ยนพาณิชย์ รองนายแพทย์สาธารณสุข จ.เชียงราย กล่าวว่าสถานการณ์ขณะนี้พบว่าทางเจ้าหน้าที่ได้มีการจัดวางกำลังและเครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ ตามด่านพรมแดนทุกจุดจนสามารถตรวจคัดกรองนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาได้อย่างเต็มที่แล้ว โดยเฉพาะที่ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ที่มีนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางแบบเช่าเหมาลำเข้ามาครั้งละจำนวนมากโดยล่าสุดพบว่ายังมีสายการบินตรงจากกวางโจว-เชียงราย สัปดาห์ละ 3 เที่ยวบิน ฯลฯ กระนั้นก็ได้มีการตรวจวัดอุณหภูมิและอื่นๆ ตามขั้นตอนก่อนที่จะไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ซึ่งก็ยังไม่พบความผิดปกติ และเจ้าหน้าที่ก็จะมอบบัตรแนะนำการดูแลสุขภาพให้ทำให้สามารถใช้ปฏิบัติเมื่อไปเยือนสถานที่ต่างๆ ได้อย่างปลอดภัยแล้ว
นางเสาวณีย์ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่ชาวจีนมักเดินทางข้ามแม่น้ำโขงไปยังโครงการคิงส์โรมันในฝั่ง สปป.ลาว ตรงกันข้าม อ.เชียงแสน นั้นพบว่าปัจจุบันก็ข้ามไปไม่ได้แล้วเพราะฝั่ง สปป.ลาว มีการปิดด่านส่วนกลุ่มที่ข้ามกลับมายังฝั่งไทยส่วนใหญ่ก็ได้รับการตรวจที่ท่าอากาศยานไปแล้วครั้งหนึ่งและปัจจุบันทางเจ้าหน้าที่ก็ไปตั้งจุดคัดกรองที่ด่านชายแดนเพื่อตรวจซ้ำอีกครั้งหนึ่งด้วย ดังนั้นจึงยังไม่มีรายงานว่ามีผู้ต้องสงสัยหรือผู้ป่วยบริเวณชายแดนด้านสามเหลี่ยมทองคำดังกล่าวแต่อย่างใด ขณะที่ชายแดนด้าน อ.เชียงของ ที่มีรถยนต์ของนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางเข้ามาจำนวนมากนั้นทางเจ้าหน้าที่ก็ได้แยกมาตั้งจุดคัดกรองซึ่งเชื่อว่าสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ดังนั้นจึงขอให้ประชาชนได้ติดตามข้อมูลจากทางราชการเป็นหลักมากกว่าตามสื่อสาธารณะที่อาจแจ้งข้อมูลไปต่างๆ นานาด้วย
